ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 347

เช้าตรู่วันถัดมา ท้องฟ้าเพิ่งสาง ญาธิดาก็ตื่นนอนแล้ว เธอเตรียมของที่จำเป็นทุกอย่างเตรียมไว้อย่างดี หลังจากนั้นก็ออกจากบ้าน

เตรียมพร้อมการทำงานทั้งหมด เธอถึงจะนั่งรถมุ่งไปที่สตูดิโอเมือง J

เธอได้เช็คตารางงานของคิรินไว้ก่อนแล้ว รู้ว่าวันนี้ตอนบ่ายเขามีหนึ่งฉากที่ต้องถ่าย ดังนั้นก็ต้องมารอที่กองเช้าๆ

อาจจะเป็นเพราะว่าก่อนหน้านี้เธอเป็นผู้ช่วยชั่วคราวแทนผู้ช่วยของคิริน ทีมงานกองถ่ายมีคนไม่น้อยที่เคยเห็นเธอแล้ว ถึงแม้ว่าเธอไม่ได้มีบัตรเข้าออก แต่ก็ถูกปล่อยผ่าน

พริบตาเดียวรอบกองถ่าย เธอก็หาเงาอันน้อยนิดของคิรินไม่เจอ จึงถือโอกาสลากคนคนหนึ่งมาถาม ถึงจะรู้ว่าละครของคิรินเป็นช่วงบ่ายสาม แต่ทว่าเขาต้องมาแต่งหน้าที่ห้องแต่งหน้าก่อนเวลา

ญาธิดาเลี้ยวไปที่ห้องแต่งหน้า รอในระเบียงทางเดินอยู่พักใหญ่ ก็ไม่เห็นเงาของคิรินเลย ตอนที่กำลังจะเตรียมหยิบมือถือออกมาส่งข้อความให้เขา จู่ ๆ มีคนกลุ่มหนึ่ง รีบเร่งเข้ามา

ที่นำหน้าก็คือพี่เอผู้จัดการของคิริน ด้านหลังถึงจะเป็นคิริน ที่เหลือเป็นผู้ช่วย บอดี้การ์ด ยังมีช่างแต่งหน้าที่ล้อมไว้ด้านหนึ่ง คิริน อยู่ตำแหน่งศูนย์กลาง

ญาธิดายืนรอที่ทางไประเบียงทางเดินแว๊บเดียวที่พี่เอเห็นเธอ ขมวดคิ้วถามว่า “ แกมาทำไมอีก”

ญาธิดาหัวเราะแบะปาก มองไปที่คิริน หัวเราะเบาๆพูดว่า “ ฉันมาหาคุณคิริน มีเรื่องสำคัญมากอยากจะคุยกับคุณคิรินสักหน่อย”

เมื่อพี่เอได้ยิน สีหน้ายิ่งดูไม่ดี ยื่นมือกำลังจะตะโกนเรียกบอดี้การ์ดมาพาเธอออกไป ใครจะไปรู้ว่าคิรินที่ตำแหน่งศูนย์กลางจู่ ๆ พูดออกมา “ เดี๋ยวๆ ”

คิรินกำลังพูดตำหนิ“คิริน อีกสักครู่คุณต้องถ่ายละคร....... ”

“ ไม่เป็นไร อีกสักพักเปลี่ยนเสื้อก็เข้าฉากได้แล้ว ผมกับหล่อนมีเรื่องต้องคุยกัน ให้หล่อนมากับผมที่ห้องแต่งหน้า ”

ถึงแม้ว่าจะไม่ยอมซะทีเดียว พี่เอยังคงไม่พูดอะไร

ญาธิดารู้สึกดีใจ รีบเดินตามไปทันที ตามช่างหน้าเดินเข้าไปห้องแต่งหน้าด้วยกัน

พอถึงเวลาแต่งหน้า คิรินก็นั่งบนเก้าอี้ หลับตาให้ช่างแต่งหน้าทำผมแต่งหน้าให้เขาตอนท้าย โดยไม่สนใจญาธิดาที่อยู่ข้างๆแม้แต่นิดเดียว

เมื่อรอให้ช่างแต่งหน้าแต่งหน้าเสร็จแล้ว เขาถึงจะโบกมือพูดว่า “ พอละ คุณลงไปก่อนเถอะ”

ช่างแต่งหน้าพยักหน้า ไม่พูดอะไร ผลักประตูออกจากห้องแต่งหน้า

พอประตูปิด ช่วงนั้นในห้องก็เหลือแต่คิรินกับญาธิดาสองคน

ผู้ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้หมุนหมุนเก้าอี้ไปมา มองมาที่ญาธิดาตรงด้านนี้ หรี่ตาที่ยาวและแคบทั้งสองข้างเล็กน้อย ยิ้มและพูดว่า “ คิดถึงฉันเหรอ ถึงกับร้อนอกร้อนใจอยากจะเจอผมขนาดนี้ ”

เมื่อญาธิดาได้ยิน ขนที่ลุกไปทั้งตัวก็ร่วงลงทันที เธอปรับอารมณ์อยู่ชั่วครู่ ลุกขึ้นยืน เดินตรงมาที่เขา

เดินมาข้างหน้าเขา เธอพูดอย่างสุภาพว่า “คิริน วันนี้ที่ฉันมา คือมาเจรจาพูดคุยกับคุณ ”

เมื่อผู้ชายได้ยิน กระตุกมุมปากยิ้มเล็กน้อย เอนกายพิงไปด้านหลัง พิงกับพนักเก้าอี้ พูดตัดปัญหาว่า “ เจรจาอะไร คุณมีข้อเสนออะไรให้ฉันเหรอ”

ญาธิดาหัวเราะเบาๆ ค่อยๆหยิบรูปถ่ายกองหนึ่งออกมาจากในกระเป๋า วางไว้บนโต๊ะตรงหน้าคิริน

ผู้ชายหรี่ตาเล็กน้อย ดูภาพกองหนึ่งที่แผ่ออก ลังเลใจอยู่ชั่วขณะ พูดว่า “ อันนี้คืออะไร”

รูปถ่ายทั้งหมดเป็นการแอบถ่ายพวกเขาสองคน ที่ในกองถ่าย ก็มีที่สโมสร รูปถ่ายเหล่านี้ คือที่ภวินท์เอาให้เธอดูครั้งก่อนนี่เอง

ญาธิดาอธิบายอย่างช้าๆว่า “ นี่เป็นรูปถ่ายที่ปาปารัสซี่แอบถ่ายพวกเรา คุณคิริน คุณคิดว่า ด้วยรูปถ่ายเหล่านี้ ฉันว่าฉันก็สามารถสร้างเรื่องซุบซิบว่าเป็นแฟนคุณได้ว่าไหม ”

คิริน สีหน้าถอดสีลง เงยหน้ามองเธอ “เธอคิดจะเอารูปพวกนี้ข่มขู่ฉันเหรอ ”

ญาธิดาหัวเราะและนั่งบนเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเบาๆที่มุมปาก “ ไม่ถือว่าข่มขู่หรอก เพียงแต่ว่า ถ้าภาพเหล่านี้แพรวาได้เห็น กลัวว่าจะไม่ค่อยดี”

เมื่อเอ่ยถึงแพรวาชื่อนี้ สีหน้าของคิรินเคร่งขรึม สายตาของเขาแสดงถึงความประหลาดใจ ไม่นาน แววตาแสดงถึงโกรธออกมาเล็กน้อย

เห็นปฏิกิริยาของคิริน ญาธิดารู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น จากครั้งก่อนเห็นเขากับแพรวาทะเลาะกันที่ประตูด้านหลังสตูดิโอ ความรู้สึกของเธอก็ได้สับสนเล็กน้อย ตอนนี้ เห็นปฏิกิริยาขาแบบนี้ เธอยิ่งยืนยันได้ว่าความสัมพันธ์เขากับแพรวาต้องมีอะไรแน่ ๆ

เธอไม่ทันได้มีสติ คิรินได้เอ่ยปากมาก่อน แววตาดูอิสระไร้การควบคุมเปลี่ยนไปจากเดิม พูดเย็นๆว่า “ ญาธิดา คุณจะทำอะไร”

ญาธิดาหัวเราะ หยิบสัญญาฉบับนั้นออกมาจากในกระเป๋า ดันไปข้างหน้าคิริน “ ความจริงสัญญาพรีเซนเตอร์ฉบับนี้คุณอยากเซ็นอยู่แล้ว แต่ช่วงเวลานี้คุณเพิกเฉยฉันมาตลอด แต่ฉันก็ไม่สามารถรอได้อีกแล้ว ขอแต่คุณเซ็นมัน ฉันรับประกันว่าจะไม่พูดเรื่อยเปื่อย และจะไม่ทำอะไรคุณ”

คิรินขมวดคิ้ว จ้องมองญาธิดาอยู่พักใหญ่ ไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น ส่งเสียงหัวเราะอย่างรวดเร็ว “ คุณคิดว่าคุณข่มขู่ผมได้เหรอ คนที่ควรกลัวไม่ใช่ผม ควรจะเป็นคุณ”

จู่ ๆเขาลุกขึ้นยืน เดินไปด้านหน้าของญาธิดา โค้งตัวก้มลงมองเธอจากข้างบน “ ถ้ารูปถ่ายเหล่านี้แฉออกมา สำหรับผมก็คือการซุบซิบทั่วๆไป แต่สำหรับคุณไม่เหมือนกัน แฟนคลับของผมต้องแฉคุณแน่ ๆ คุณคิดว่า ถึงตอนนั้นใครเสียหายเยอะกว่ากัน”

เมื่อญาธิดาได้ยิน เริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจขึ้นมาทันที แต่ไม่นาน เธอหายใจเข้าลึกๆ กัดฟันครู่หนึ่ง หยิบมือถือออกมา เลื่อนดูการสนทนาที่หน้าไลน์

เธอปรับเลื่อนหน้าจอมือถือให้คิริน ช่องข้อความอันนั้น เป็นหัวหน้าบก.ที่มีชื่อเสียงด้านสื่อบันเทิงของเมือง Jส่วนญาธิดาหล่อนได้เรียบเรียงบทความและรูปภาพเรียบร้อยแล้ว

“ ก็แค่โดนโซเชียลกระหน่ำ ฉันก็อยากดังสักครั้ง เกาะกระแสกับคุณคิรินดาราชายที่มีชื่อเสียง ฉันก็ไม่ขาดทุนแล้ว แต่ว่า ฝั่งคุณ บริษัท ผู้จัดการ ยังมีแพรวา จะเกิดอะไรขึ้น ก็ไม่รู้นะ.......”

ขณะที่ญาธิดาพูด นิ้วมือลองกดที่หน้าจอเบาๆสองครั้ง ต่อมาพูดว่า “คิริน ขอเพียงแค่นิ้วของฉันกดส่ง เรื่องราวก็แพร่ไปถึงไหนแล้ว พวกเราไม่มีทางที่จะคาดเดาได้เลย...... ”

คิริน เห็นดังนั้น แต่เดิมสีหน้าที่ไม่สะทกสะท้านก็หายไปทันที เขาได้มองที่นิ้วของญาธิดา พูดเย็นๆว่า “ หยุด”

ญาธิดาเห็นดังนั้น รู้สึกดีใจ เงยคางขึ้นส่งสัญญาณกับเขา “ ดังนั้น สัญญาฉบับนั้น คุณจะเซ็นหรือไม่เซ็น”

คิรินถอยหลังไปหนึ่งก้าว มองญาธิดาอยู่ชั่วครู่ ก็มองไปที่สัญญาที่อยู่บนโต๊ะอีกครั้ง หลังจากที่ลังเล ในที่สุดก็หยิบปากกาขึ้นมา เซ็นชื่อตัวเองไว้ด้านบน

หลังจากที่ทำทุกอย่างเสร็จแล้ว คิรินมองไปที่เธอ ไม่กี่วินาทีหลังจากนี้ ก็อดที่จะหัวเราะออกมาอย่างรวดเร็ว พูดถากถางว่า “ ญาธิดา เธอทำเพื่อภวินท์ ถึงต้องสู้ชีวิตเอามาก ”

ได้ยินชื่อนี้ ในใจญาธิดารู้สึกเกร็ง สองวินาทีหลังจากนั้น รีบสาบานปฏิเสธทันที พูดด้วยน้ำเสียงดูตั้งใจ “ ฉันไม่ได้ทำเพื่อเขาเลย แต่เพื่อตัวฉันเองต่างหาก”

เมื่อคิรินได้ยินก้ลังเลใจทันที “ หากคุณขาดเงิน พูดกับผมตรงๆก็ได้แล้ว แบบนี้ ไม่จำเป็นเลยจริงๆ ”

“ ฉันไม่ได้ขาดเงิน ฉันก็แค่เพื่ออิสระของฉันเอง”

ขณะที่พูด ญาธิดาผลักมือถือที่อยู่ในมือไปตรงหน้าคิรินทันที หลังจากนั้นถือโอกาสเก็บสัญญาที่เซ็นแล้วสองฉบับนั้นกลับไป

“ รูปภาพคุณลบได้ตามสบายเลย ฉันไม่ได้เก็บสำรอง”

เมื่อคิรินได้ยิน มุมปากเริ่มจะหัวเราะเหน็บแนม เลื่อนรูปภาพบนมือถือไปมา ไม่ได้ลบ แต่จู่ ๆ ก็เข้ามาใกล้เธอ เขาเข้ามาใกล้ที่ข้างหูเธอ พูดเสียงต่ำว่า “ ญาธิดา คุณคือผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ผมขายหน้า ถือว่าคุณแน่ ”

เมื่อจบประโยคนี้ เขาลุกขึ้นยืน ก้าวขายาวๆเดินเร็วๆไปที่ประตูเดินออกไป

ทันใดนั้น ประตูปิดดัง “ ปัง ” ในห้องก็เหลือแค่ญาธิดาคนเดียว

เธอถอนหายใจยาวๆ ดูเอกสารที่ใส่ไว้ในกระเป๋า ตัวที่แข็งทื่อถึงจะค่อยๆผ่อนคลายลง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์