ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 381

ญาธิดากัดฟันแน่น พอได้สติก็รีบถอยหลังออกมาอย่างรวดเร็ว เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างพวกเขาทั้งสองคน

ภวินท์ผู้ซึ่งทำหน้าจริงจังตลอดเวลา ตอนนี้กลับขยิบตาให้เธอ แถมยังพูดด้วยใบหน้าอมยิ้มกรุ้มกริ่ม “ดูแลเด็ก ๆ ทั้งสองคนให้ดีนะ ฉันไปล่ะ”

ญาธิดาชะงักนิ่งไป ยังไม่ทันได้ตอบโต้อะไรก็เห็นชายคนนั้นปิดประตูรถเสียงดัง “ปึง” ก่อนจะสตาร์ทรถแล้วขับออกไป

ญาธิดายังคงยืนอยู่ที่เดิม เธออดแปลกใจไม่ได้ ทำไมเธอรู้สึกว่าภวินท์ในตอนนี้แตกต่างไปจากเมื่อห้าปีก่อนมากเลย

ก่อนที่เธอจะคิดเรื่องนี้จนเข้าใจ จู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังมาจากด้านหลังของเธอ ก่อนที่อีธานกับเอลล่าจะพุ่งเข้ามากอดขาเธอจากด้านหลัง

“คุณแม่ แม่ทำอะไรอยู่ครับ/คะ!”

ญาธิดาก้มหน้าลงมองพอเห็นเด็กน้อยทั้งสองเงยหน้าขึ้นมองเธอด้วยใบหน้าเล็ก ๆ แก้มชมพูระเรื่อแล้วหัวใจก็อ่อนระทวย จนต้องยื่นมือออกไปลูบศีรษะของพวกเขาพลางพูดเบา ๆ ว่า “ไม่มีอะไร แล้วเด็ก ๆ คุยกับคุณลุงผู้กำกับเป็นยังไงบ้างเอ่ย”

“คุณลุงใจดีมากเลย! พรุ่งนี้พวกเราก็จะเริ่มถ่ายรูปกันเป็นทางการแล้ว!”

“ใช่แล้ว ที่คุณลุงพูดพวกเราเข้าใจทั้งหมดเลย!”

ญาธิดาฟังแล้วก็ยิ้มตาม พลางก้มหน้าลงพูดกับพวกเขาว่า “เอาล่ะ ในเมื่อเตรียมพร้อมเสร็จหมดแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ควรกลับบ้านกันได้แล้วนะ!”

“โอเคครับ/ค่ะ”

ญาธิดาจูงพวกเขาทั้งสองคนด้วยมือซ้ายชวาคนละฝั่ง พาเดินเข้าไปในเขตพื้นที่ถ่ายทำ หลังจากกล่าวทักทายทุกคนเรียบร้อยแล้วก็เก็บข้าวของเตรียมตัวกลับ

เมื่อเดินมาถึงประตูหน้าซาฟารีปาร์ค ญาธิดาอยากจะเรียกรถสักคัน แต่บริเวณใกล้ ๆ นี้ไม่มีรถอยู่เลย พวกเขารออยู่ริมถนนนานมากแต่ก็ยังไม่ได้ขึ้นรถเลยสักคัน

เดิมทีเธอกับธีทัตตกลงกันไว้ดิบดีแล้วว่าช่วงที่อีธาน กับเอลล่ามีถ่ายงาน เขาจะจัดคนมาคอยรับส่งพวกเขา แต่เพราะเมื่อวานเธอกับธีทัตเกิดทะเลาะกันขึ้นมากะทันหัน เธอเลยเกรงใจที่จะบอกเขาเรื่องการถ่ายงาน

รอไปรอมา ผ่านไปเป็นเวลานานก็ไม่มีรถผ่านมาเลยสักคัน

เอลล่าเงยหน้าขึ้นถามเธอ “แม่คะ เกิดอะไรขึ้นหรอคะ”

ญาธิดารีบปลอบเสียงเบา “ไม่มีอะไรจ้ะ อีกเดี๋ยวรถก็มาแล้ว”

แม้ว่าปากจะพูดแบบนี้ แต่ในโทรศัพท์ของเธอกลับสักไม่มีรถคันไหนตอบรับเลยสักคัน ทำเอาญาธิดาเริ่มเป็นกังวลขึ้นมาเล็กน้อย

ทันใดนั้นก็มีเสียงแตรรถดังขึ้นมาจากด้านหลัง ก่อนที่มายบัคสีดำคันหนึ่งจะแล่นเข้าจอดอยู่ข้างพวกเขา กระจกรถถูกเลื่อนลงเล็กน้อยเผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติของภวินท์โผล่ออกมา

“ขึ้นรถ เดี๋ยวฉันไปส่ง”

เมื่อญาธิดาเห็นแบบนั้นก็ได้แต่ขมวดคิ้วแน่น

เมื่อกี้เขากลับออกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงโผล่มาตอนนี้ได้?

ริมฝีปากของเธอขยับเล็กน้อยอยากจะเอ่ยปากปฏิเสธ แต่ใครจะรู้ว่าจู่ ๆ เอลล่าจะแย่งเธอพูดขึ้นมาเสียก่อน “คุณอาสุดหล่อ!”

พูดจบก็ยกมือขึ้นโบกไม้โบกมือให้เขาสุดแรง

เมื่อภวินท์เห็นแบบนั้นรอยยิ้มอ่อนโยนก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้า เขาผลักประตูลงจากรถแล้วโน้มตัวลงไปอุ้มเอลล่าเอาไว้

“อาไปส่งหนูกลับบ้านดีไหม?”

เอลล่าพยักหน้าโดยไม่ลังเล รอยยิ้มของเด็กน้อยทั้งหวานทั้งน่ารัก

ญาธิดายืนอยู่ที่เดิมอย่างตกตะลึงเล็กน้อย

เอลล่ากับภวินท์เคยเจอกันแค่ไม่กี่ครั้ง ทำไมจู่ ๆ ถึงได้ตัวติดภวินท์มากขนาดนี้ล่ะ

อีธานที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะรู้สึกได้ถึงความผิดปกติของเธอ เลยดึงมือตัวเองที่กุมนิ้วมือของญาธิดาอยู่ เงยหน้าขึ้นมองพลางพูดว่า “แม่ครับ ถ้าแม่ไม่ชอบคุณอาคนนี้ ผมจะไล่เขาออกไปเดี๋ยวนี้เลย”

เมื่อเห็นท่าทางจริงจังแบบนี้ของอีธานแล้ว ญาธิดาก็อดยิ้มไม่ได้

เธอยกมือขึ้นลูบศีรษะของเขา แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไรครับ”

พอเงยหน้าขึ้นอีกทีก็พบว่าภวินท์ได้อุ้มเอลล่าขึ้นรถไปแล้ว ก่อนจะหันมามองเธอ รอให้เธอขึ้นไปด้วย

ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก ๆ เหลือบมองโทรศัพท์มือถือ ก่อนจะยอมถอยให้เขาหนึ่งก้าว

ถ้าพวกเขาไม่ขึ้นรถเขาตอนนี้ ก็ไม่รู้ว่าต้องรออีกนานแค่ไหน ถือเสียว่าติดรถไปด้วยก็แล้วกัน

เมื่อญาธิดาตัดสินใจแล้วก็ก้มหน้าลงไปมองอีธาน พลางกระซิบเบา ๆ ว่า “ไหน ๆ น้องก็ขึ้นไปแล้ว ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ขึ้นไปด้วยเถอะนะ”

อีธานพยักหน้าและไม่ได้คัดค้านอะไร

เมื่อเห็นแบบนั้นญาธิดาถึงได้ดึงอีธานขึ้นไปนั่งบนรถ

ในขณะเดียวกันนั้น หลังต้นไม้ต้นหนึ่งของริมถนนฝั่งตรงข้าม แสงสีเงินสะท้อนวิบวับออกมาจากรูกระจกเล็ก ๆ

หลังจากรถของภวินท์ขับออกไป คนที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ก็ปรากฏตัวออกมา เขาหยิบมือถือขึ้นมากดส่งรูปที่เพิ่งถ่ายออกไปให้ใครบางคนทันที

สิบนาทีต่อมา The Legend

นิวรานั่งบนโซฟา เลื่อนดูรูปถ่ายที่นักสืบเอกชนเพิ่งจะส่งมาให้เมื่อครู่ ยิ่งมองนานเท่าไหร่ใบหน้าของหล่อนก็เริ่มจะเขียวปั๊ดขึ้นมากเท่านั้น

ญาธิดามีลูกแล้วจริงๆ! แล้วที่ทำให้เธอคิดไม่ถึงยิ่งกว่าคือลูกของหล่อนเป็นคู่แฝด!

เพลิงไฟกำลังลุกโชนสุมอยู่ในอกของเธอ เธอรีบเลื่อนกลับไปดู เมื่อเห็นรูปถ่ายของอีธานเอลล่าแบบซูมขยายใหญ่ขึ้นแล้วก็ถึงกับหน้าซีดไปทันที

เด็กผู้ชายกับเด็กผู้หญิงในภาพถ่าย ไม่ว่าจะหน้าตา ท่าทางต่างก็เหมือนภวินท์ไม่มีผิดเพี้ยน และในวินาทีนั้นเธอก็มั่นใจทันทีว่านี่ต้องเป็นลูกของญาธิดากับภวินท์แน่นอน!

พอคิดแบบนี้นิวราก็โมโหจนแทบจะระเบิดแล้ว! เธอกำโทรศัพท์แน่นจนตัวสั่นไปทั้งตัว

เรื่องราวทุกอย่างกำลังจะเปลี่ยนไปในทางที่เลวร้ายที่สุด ญาธิดาไม่เพียงแต่มีลูกแล้ว แถมยังเป็นลูกของภวินท์ด้วย แต่เธอเป็นภรรยาโดยชอบธรรมของเขาแท้ ๆ แต่กลับไม่เคยได้ร่วมรักกันกับเขาเลยสักครั้ง

เรื่องแบบนี้เกิดร่ำลือออกไป เธอต้องถูกหัวเราะเยาะตายแน่เลย!

ไม่ได้ เธอจะนั่งดูอยู่เฉย ๆ ไม่ได้! ยิ่งไปกว่านั้นจะทนดูภวินท์ถูกหลอกล่อไปไม่ได้เด็ดขาด!

ความร้ายกาจปรากฏขึ้นในแววตาของนิวรา เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นก่อนจะกดโทรออกไปหาใครบางคน

เธอกัดฟันพลางพูดว่า “ชยิน ฉันอยากเจอนาย”

ปลายสายมีเสียงแหบพร่าของชายคนหนึ่งสะท้อนกลับมา “คุณหนู ผมรอคอยคุณหนูตลอดเวลาครับ”

นิวรากัดฟันแน่นก่อนจะกดวางสายโทรศัพท์ แล้วลุกขึ้นขับรถออกไปทันที

เมื่อห้าปีที่แล้ว ชยินต้องเข้าคุกเพราะเธอ ตอนนี้เธอต้องทุ่มทั้งเงินทุ่มทั้งแรงเพื่อช่วยเขาออกมาจากคุกก่อนกำหนด ก็เพื่อที่จะให้เขามาเป็นมือขวาที่เฉียบแหลมของเธอต่อไป!

ทีแรกเธอคิดว่าจะให้เขาพักผ่อนก่อนสักสองสามวัน แต่ตอนนี้พอเธอได้เห็นรูปถ่ายพวกนั้น จิตใจของเธอมันก็ยุ่งเหยิงไปหมดแล้ว!

เธอรอไม่ไหวแล้ว! เธอต้องทำอะไรสักอย่าง!

หลังจากออกจากThe Legend เธอก็เหยียบคันเร่งจนสุดไปตลอดทาง เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถก็มาถึงที่หมาย เธอจอดรถหน้าบ้านชั้นเดียวที่ตั้งอยู่เปล่าเปลี่ยวไม่เป็นที่สะดุดตาหลังหนึ่ง

นิวราลงจากรถพลางเหลือบมองไปรอบ ๆ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย กวาดมองด้วยสายตาดูถูกดูแคลน ก่อนจะข่มความรู้สึกไม่สบายใจในใจเอาไว้แล้วเดินไปหยุดที่หน้าประตู ก่อนยกมือขึ้นเคาะประตูบ้าน

เพียงไม่นานก็มีเสียงผู้ชายทุ่มต่ำดังขึ้นมาเอ่ยถามอย่างระแวดระวัง

“ใคร?”

นิวราสูดหายใจเข้าลึกๆ “ฉันเอง!”

ไม่กี่วินาทีต่อมา ประตูก็ถูกเปิดจากด้านในเสียงดัง “คลิก” นิวราเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นใบหน้าของชยินผ่านช่องประตูที่เปิดแง้มออกมา ใบหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นซีดขาวในทันที

ชยินถอยหลังออกไปหนึ่งก้าวเพื่อให้เธอเดินเข้ามา “คุณหนู ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”

นิวรามองใบหน้าสีเข้าซูบผอมที่เต็มไปด้วยรอยแผลเป็นทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กของเขาแล้วก็เกิดความรู้สึกรังเกียจขึ้นมาในใจ “เกิดอะไรขึ้นกับหน้าของนาย”

ชยินก้มหน้าลงพลางพูดอธิบายอย่างรวดเร็ว “บังเอิญได้มาตอนทะเลาะกับคนอื่นในคุก ไม่เป็นไรหรอกครับ”

นิวราขมวดคิ้วและมองเขาอีกครั้ง แต่ก็พูดอะไรไม่ออก

ผ่านไปครู่หนึ่ง เธอมองตรงไปที่เขา น้ำเสียงเคร่งขรึมขึ้นมาเล็กน้อย “ชยิน นายรู้ไหมว่าทำไมฉันถึงพยายามลงทุนลงแรงเพื่อให้นายได้ออกมาก่อนกำหนด?”

เธอไม่ได้ทำเพราะสัมพันธภาพระหว่างเจ้านายกับลูกน้องหรืออะไรทั้งนั้น ที่เธอช่วยเขาออกมาย่อมมีจุดประสงค์หลักของเธอ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์