สำหรับเธอ ชยินก็เป็นแค่ลูกน้องคนหนึ่งเท่านั้น
“คุณหนู ผมรู้ครับ”
ชยินก้มศีรษะลงทำให้รอยแผลเป็นบนหน้าผากยิ่งชัดขึ้น เป็นรอยยาวลาดเอียงเหมือนกับตะขาบบิดเบี้ยว
นิวรากวาดสายตามองเขา เจตนานร้ายปรากฏขึ้นมาในใจ ก่อนที่เธอจะก้าวถอยหลังครึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัวแล้วพูดว่า “ชยิน นายเปลี่ยนทรงผมใหม่เถอะ รอยแผลเป็นบนหน้าผากของนายมันค่อนข้างน่ากลัว...”
ชยินได้ยินดังนั้น แสงมืดดำก็แวบเข้ามาในดวงตาของเขา ก่อนที่เขาจะสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ถ้าคุณหนูไม่ชอบ ผมก็จะเปลี่ยนครับ”
เมื่อนิวราได้ยินดังนั้น แววตาของเธอก็เริ่มพึงพอใจขึ้นมาเล็กน้อย กวาดสายตามองพื้นที่เล็ก ๆ คับแคบรอบตัวเขา ก่อนจะขมวดคิ้วพูดขึ้นว่า “นายพักอยู่ที่นี่เหรอ”
“อืม” ชยินพยักหน้า “ถ้าคุณหนูต้องการผมสามารถกลับไปอยู่ข้างคุณหนูได้ทุกเมื่อครับ”
“ตอนนี้ยังไม่ต้อง” นิวราตัดบทด้วยคำพูดสั้น ๆ “นายปิดบังตัวตนเอาไว้แบบนี้ดีที่สุดแล้ว”
คนที่ซ่อนตัวอยู่ในความมืดน่ากลัวที่สุดแล้ว ตอนนี้ชยินออกจากคุกแล้ว แต่ยังไม่มีใครรู้ว่าเขาออกจากคุกแล้ว ดังนั้นนี่คือเหตุผลหนึ่งที่ควรจะใช้งานเขา!
นิวรายื่นมือไปหยิบการ์ดใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ก่อนจะวางไว้บนโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ “ในบัตรมีเงินอยู่ห้าแสน รหัสคือวันเกิดของฉัน นายเอาไปใช้ก่อน ไม่พอค่อยมาหาฉัน”
ชยินขมวดคิ้วเล็กน้อย “คุณหนู ผมไม่จำเป็นต้องใช้ของพวกนี้...”
นิวราพูดอย่างหมดความอดทน “บอกให้เอาไปก็เอาไปเถอะ”
พอถึงเวลาอะไรที่ต้องใช้เงินมีอีกเยอะแยะ แถมเขาก็เป็นคมมีดของเธอ ย่อมปฏิบัติกับเขาดีเสียหน่อย
เมื่อเห็นชยินขมวดคิ้วแน่น แววตาของนิวราก็เคร่งขรึมขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะยกมือขึ้นตบไหล่ชยินเบา ๆ น้ำเสียงของเธอก็อ่อนลงไปเล็กน้อย “ตอนนี้คนที่อยู่รอบตัวฉันก็เหลือแค่นายคนเดียวแล้ว ดังนั้นนายต้องดูแลตัวเองให้ดี เข้าใจไหม”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของเขาก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเพียงไม่นานเขาก็พยักหน้ารับอย่างแรง “ผมเข้าใจแล้วครับ คุณหนูวางใจเถอะครับ”
นิวราเห็นดังนั้นก็กระตุกมุมปากขึ้นเล็กน้อย “ญาธิดากลับมาแล้ว พร้อมพาลูกกลับมาด้วยอีกสองคน งานแรกของนายตอนนี้คือไปสืบเรื่องของหล่อนมา!”
รู้เขารู้เรา แบบนี้ถึงจะสามารถรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง
ครั้งนี้ไม่ว่ายังไงเธอก็จะใจเย็นและอดทนให้ถึงที่สุด ต้องวางกับดักให้ดีเพื่อจับปลาตัวใหญ่ ถึงเวลานั้นเธอก็จะกำจัดทั้งญาธิดากับลูกทั้งสองคนของหล่อนไปพร้อมกันเลย!
อีกด้านหนึ่ง
มายบัคสีดำกำลังขับผ่านเขตเมือง และกำลังจะมุ่งหน้าไปทางแกรนด์ บูเลอวาร์ด ใครจะรู้ว่าจู่ ๆ โทรศัพท์ของญาธิดาก็ดังขึ้น
เมื่อเห็นชื่อของ "อันอัน" ปรากฏบนหน้าจอโทรศัพท์ เธอก็รีบกดรับสายทันทีโดยไม่มีท่าทีลังเลเลย
“ฮัลโหล อันอัน”
เสียงของอัญมณีดังมาจากปลายสาย “ธิดา เสร็จงานหรือยัง? อีธานกับเอลล่าล่ะ? ทำงานหนักวันแรกรู้สึกยังไงบ้าง?”
ญาธิดายิ้ม ๆ พลางเหลือบมองเด็กน้อยผู้แสนเชื่อฟังทั้งสองคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ พลางกระซิบเบา ๆ ว่า “เชื่อฟังมาก พรุ่งนี้ก็จะเริ่มถ่ายงานอย่างเป็นทางการแล้ว”
“ดีจังเลย พวกเธออยู่ที่ไหน? พวกเราไปกินเนื้อย่างกันเถอะเดี่ยวฉันเลี้ยงเอง!”
พอได้ยินแบบนั้นญาธิดาก็ตกใจเล็กน้อย เหลือบมองภวินท์ที่นั่งอยู่อีกฝั่ง และพายุที่นั่งอยู่ด้านหน้า ไม่รู้ว่าจะตอบกลับไปว่ายังไงดี
ถ้าบอกเธอว่าตอนนี้อยู่บนรถของภวินท์ เกรงว่าปลายสายจะต้องตกใจจนกรีดร้องออกมาแน่ ๆ
เมื่ออัญมณีที่อยู่ปลายสายเห็นว่าทางนี้เงียบไปไม่ส่งยอมส่งเสียงกลับ เธอก็รีบพูดต่อทันที “หือ? ทำไมเหรอ? อย่าบอกนะว่าพวกเธอไม่มีเวลา! เมื่อกี้ฉันโทรไปถามพี่โอ๊ตแล้ว เขาบอกว่าพวกเธอเลิกงานตั้งแต่ห้าโมงครึ่งแล้ว”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก ๆ กลืนน้ำลายลงคอ แล้วถามว่า “ตอนนี้เธออยู่ไหน”
“อยู่ที่Starlight Venueที่ใจกลางเมือง”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “โอเค ถ้าอย่างนั้นเธอส่งตำแหน่งมาให้ฉัน แล้วเดี๋ยวพวกเราจะไปหาเธอ”
หลังจากวางสายยังไม่ทันได้เก็บโทรศัพท์เธอก็รู้สึกได้ถึงสายตาที่กำลังร้อนใจคู่หนึ่งจับจ้องมาที่เธอ เธอเหลือบตาขึ้นมองโดยไม่รู้ตัว แล้วก็สบสายตาเข้ากับดวงตาสีดำสนิทของภวินท์เข้าพอดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...