ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 383

เมื่อครั้งที่เธอเพิ่งจะไปจากเมือง J ได้ไม่กี่เดือน ช่วงที่เธอใกล้จะคลอด อัญมณีก็เคยไปหาเธอที่อเมริกามาครั้งหนึ่ง ตอนนั้นท่าทางของหล่อนก็ดูไม่ค่อยปกติเท่าไหร่ พอไล่ถามไปถามมาถึงรู้ว่าหล่อนเลิกกับพายุแล้ว ทุกครั้งที่ถามหาเหตุผลอัญมณีก็ไม่ยอมตอบสักที เพราะแบบนี้เธอเลยไม่ได้ถามเรื่องนี้อีก

คิดไม่ถึงว่าเวลาจะผ่านมากว่าหลายปีแล้ว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้เธอก็ไม่เคยได้ยินว่าอัญมณีจะคบหากับใครเลย แม้แต่ธีทัตก็เริ่มจะทนไม่ไหว จนต้องคะยั้นคะยอให้หล่อนแต่งงาน แต่อัญมณีไม่ได้ถือเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้เลย

ตอนนี้ดูเหมือนว่าเหตุผลที่หล่อนครองโสดมานานหลายปีอาจเป็นเพราะในใจของหล่อนยังมีใครบางคนซ่อนอยู่

ญาธิดาถอนหายใจเบา ๆ ก้มหน้าส่งสัญญาณให้เจ้าตัวเล็กสองคนห้ามพูดจาเหลวไหลเด็ดขาด ก่อนที่พวกเขาจะเร่งฝีเท้าเดินไปหยุดอยู่ข้าง ๆ อัญมณี “อันอัน พวกเราจะกินอะไรกันดี”

เมื่อได้ยินดังนั้น อัญมณีก็ได้สติ ก่อนจะเชิดคางขึ้นเพื่อบอกใบ้ว่าเธอเล็งร้านที่อยู่บนชั้นสองไว้ “ร้านนั้นเนื้อย่างอร่อย ข้างในยังมีสวนสนุกเล็ก ๆ ให้เด็ก ๆ เล่นรอได้ด้วย”

หลังจากพวกเขาขึนไปถึงที่ร้านและสั่งอาหารเสร็จสรรพเรียบร้อยอีธานกับเอลล่าก็แยกตัวออกไปเล่นที่สวนสนุกเล็ก ๆ ที่อยู่ข้าง ๆ

พนักงานเอาเบียร์มาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ ญาธิดารินให้อัญมณีหนึ่งแก้ว แล้วเริ่มถามขึ้นมาเบา ๆ ว่า “อันอัน เธอกับพายุ...”

ขณะที่พูดก็แอบเหลือบมองเธอไปด้วย

สีหน้าของอัญมณีเปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่นานเธอก็ยกแก้วขึ้นจิบเบา ๆ แล้วพูดขึ้นว่า “พวกเราเลิกกันไปนานแล้ว”

ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ฉันรู้ว่าพวกเธอเลิกกันแล้ว แต่ฉันเห็นสายตาที่เขามองเธอเมื่อกี้ น่าจะยังมีความรู้สึกต่อกันอยู่นะ”

เมื่อได้ยินดังนั้น อัญมณีก็กำแก้วในมือไว้แน่น แล้วสูดหายใจเข้าลึก ๆ “คงงั้นมั้ง”

พอเห็นอัญมณีจงใจทำทีไม่แยแสแบบนั้น จู่ ๆ ญาธิดาก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาอย่างประหลาด

เธอกับอัญมณีรู้จักกันมานานหลายปี ทำไมเธอจะดูไม่ออกว่าในใจของหล่อนก็มีพายุอยู่ในนั้นเหมือนกัน?

ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก ๆ กัดฟันแน่น ก่อนจะยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่มทีเดียวหมดแก้ว ดื่มหมดจนหยดสุดท้าย ก่อนจะวางแก้วกระแทกลงกับโต๊ะเสียงดัง “ปึง!”

อัญมณีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามถึงกับอึ้งกิมกี่ไปเลยทันที “ธิดา เธอบ้าไปแล้วเหรอ!”

แต่ไหนแต่ไรมาญาธิดาดื่มไม่ค่อยเก่ง มีดื่มบ้างเป็นบางครั้งแต่ก็จะค่อย ๆ จิบ เหมือนกับดื่มชาไม่มีผิดเพี้ยน แต่จู่ ๆ เธอกลับทำแบบนี้ย่อมทำให้รู้สึกประหลาดใจเป็นธรรมดา

“ฉันไม่ได้บ้า ฉันแค่รู้สึกว่าพวกเราไม่สามารถคุยกันได้ทุกเรื่องเหมือนอย่างเมื่อก่อนแล้วก็เท่านั้น”

ญาธิดาจมูกร้อนผ่านขึ้นมาทันทีและเริ่มพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “เธอเป็นเพื่อนซี้ที่ดีที่สุดของฉัน เธอมีเรื่องอะไรที่พูดกับฉันไม่ได้อย่างนั้นเหรอ ทำไมแม้แต่กับฉันก็ต้องปิดบังด้วย”

เมื่ออัญมณีได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย ไม่นานเธอก็พูดขึ้นว่า “ธิดา ฉันไม่ได้อยากจะปิดบังเธอ ฉันแค่...”

ขณะที่พูด จู่ ๆ เธอก็หยุดชะงักไป ก่อนจะหลับตาลงแล้วดวงตาของเธอก็เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำในทันใด

ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็พูดขึ้นว่า “ตอนนั้นที่เลิกกัน เป็นเพราะว่าฉันถูกนอกใจ...”

ญาธิดาตกตะลึงอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “อะไรนะ!”

อัญมณีสูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วอธิบายว่า “วันนั้นเป็นวันเกิดเขา ฉันตั้งใจจะไปหาเขาที่บ้าน และเพราะอยากเซอร์ไพรส์เขาฉันเลยไม่ได้บอกเขาล่วงหน้า แต่คิดไม่ถึงว่าฉันจะเห็นเขาจะเดินมาส่งผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากในบ้าน...”

ลำคอของเธอรัดแน่น มันจุกเหมือนจะพูดไม่ออก

ญาธิดาที่นั่งมองเธอจากฝั่งตรงข้าม ก็รู้สึกเจ็บปวดตามไปด้วยอย่างไม่มีเหตุผล

เธอคิดมาตลอดว่าพายุปฏิบัติต่ออันอันด้วยความจริงใจ แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าภายนอกของเขาจะดูเป็นสุภาพบุรุษ แต่ลับหลังกลับเป็นผู้ชายสารเลวหลายใจแบบนี้!

ญาธิดายิ่งคิดก็ยิ่งโมโห เหลือบมองไปทางอัญมณีแล้วพูดขึ้นว่า “แล้วเธอไม่เคยคุยกับเขาเรื่องนี้เลยเหรอ?”

“เรื่องมันขนาดนี้แล้ว มีอะไรต้องให้คุยกันอีกล่ะ” อัญมณีสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ธิดา เธอก็รู้ว่าฉันไม่สามารถยอมรับข้อผิดพลาดอะไรได้ทันนั้น”

ผู้หญิงทุกคนล้วนต้องการความซื่อสัตย์และภักดีในความรัก และอัญมณีคือคนที่คาดหวังกับเงื่อนไขข้อนั้นมากที่สุด และในสายตาของเธอ ผู้ชายของเธอต้องเป็นของเธอคนเดียวโดยสมบูรณ์ และต้องจงรักภักดีต่อเธอทั้งร่างกายและจิตใจด้วย

ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอย่างลังเล “แล้วถ้าเกิดว่ามันเป็นเหตุสุดวิสัย แบบว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นแค่น้องสาวของเขา...”

อัญมณีส่ายหน้าไปมา “ฉันตรวจสอบมาแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่แม่ของเขาแนะนำให้เขา”

ญาธิดาได้ยินดังนั้นก็พูดอะไรไม่ออกเลย

ถ้าเป็นแบบนี้ดูเหมือนว่าความจริงใจของอัญมณีที่ให้ไปก็คงจะเหมือนป้อนให้หมากินเสียเปล่า

“ช่างมันเถอะ อย่าไปพูดถึงมันอีกเลย มันจบไปแล้ว”

อัญมณีรินเบียร์ให้ญาธิดาอีกแก้ว พร้อมรินให้ตัวเองเต็มแก้ว ก่อนที่ทั้งสองจะยกแก้วขึ้นชนกัน

หลังจากที่ทั้งสองจิบเบียร์กันแล้ว จู่ ๆ อัญมณีก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ รีบหันมาทางเธอแล้วถามขึ้นว่า “จริงสิ เมื่อกี้เธอไปอยู่กับภวินท์ได้ยังไง”

แล้วก็เป็นไปตามคาด ฮวงจุ้ยเปลี่ยนทิศจนได้ พอเธอถามอัญมณีเสร็จ คราวนี้ก็ถึงคราวอัญมณีถามเธอบ้างแล้ว

เธอกระตุกริมฝีปากฝืนยิ้มเล็กน้อย “เธอต้องคิดไม่ถึงแน่ ๆ เขาเป็นบอสใหญ่ของฝ่ายโปรดิวเซอร์ที่อีธานเอลล่าไปถ่ายทำโฆษณาในครั้งนี้”

“อะไรนะ?” อัญมณีเบิกตากว้าง “ทำไมถึงเป็นเขา”

ญาธิดาส่ายหน้าไปมาพร้อมรอยยิ้มขมขื่น “ฉันก็เพิ่งรู้วันนี้เหมือนกัน”

“แต่ว่าอีธานกับเอลล่าจะไม่มีปัญหาจริงๆ เหรอ”

ถ้าภวินท์รู้ถึงตัวตนที่แท้จริงของอีธานกับเอลล่าขึ้นมา เกรงว่าต่อไปถ้าพวกเขาอยากจะไปจากเมือง J ก็คงจะเป็นเรื่องยาก

ญาธิดาอึดอัดใจ พลางพูดเบา ๆ ว่า “ฉันรู้ แต่ตอนนี้เซ็นสัญญาไปแล้ว ข้อตกลงในสัญญามีผลบังคับใช้แล้ว ฉันไม่มีทางเลือก”

ค่าเสียหายที่ต้องชำระตามที่สัญญาระบุนั้นไม่ใช่น้อย ๆ เลย

และเธอก็ไม่อยากให้อีธานกับเอลล่าผิดสัญญาแบบนี้ เพราะมันจะส่งผลกระทบที่ไม่ค่อยดีต่อพวกเขา

“ธิดา เธอว่าภวินท์จงใจทำแบบนี้หรือเปล่า ทำไมมันถึงบังเอิญขนาดนี้ เขาจะกลายเป็นบอสใหญ่ของฝ่ายโปรดิวเซอร์ที่นี่ได้ยังไง”

อัญมณีคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “เป็นไปได้ไหมว่าเขากำลังคิดอะไรเกี่ยวกับเธออยู่ เหมือนที่ในนิยายรัก...ยอมทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ใจนางเอกกลับมา!”

พอเห็นอัญมณีแววตาเปลี่ยนเป็นประกายทันทีเมื่อคุยเรื่องซุบซิบนินทา ญาธิดาทั้งโกรธทั้งอยากจะหัวเราะ “เธออย่าพูดเหลวไหลสิ”

ขณะที่พูดก็หรี่ตาลงต่ำ พลางเขย่าแก้เบียร์ในมือ แล้วพูดเบา ๆ ว่า “ฉันกับเขาไม่มีทางเป็นไปได้แล้ว”

เหตุการณ์เมื่อ 5 ปีก่อนเธอยังจำได้อย่างชัดเจน ถึงขนาดบางทีเวลานอนก็ยังฝันถึง เธอไม่มีวันลืมมันได้ ตอนนั้นเพื่อจะทำลายลูกในท้องของเธอ นิวราถึงกับยอมใช้กลอุบายร้ายกาจพวกนั้น

เรื่องพวกนั้นมันเพียงพอที่จะทำให้เธอหวาดกลัวไปตลอดชีวิต ตอนนั้นยังขนาดนั้น ตอนนี้ที่เธอมีจุดอ่อนอยู่แบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

“คิดแบบนี้ถูกต้องแล้ว” อัญมณีพยักหน้าเห็นด้วย

“ผู้ชายคนอื่นก็เหมือนกับหมกควันผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ต้องแบบพี่ชายของฉันสิถึงจะเป็นผู้ชายที่ดีที่แท้จริง เข้าใจไหม? พี่สะใภ้!”

ขณะที่พูดเธอก็เอื้อมมือออกมาตบไหล่ญาธิดาไปด้วย

ญาธิดาได้ยินดังนั้นก็ได้แต่ยิ้ม ๆ โดยไม่พูดอะไร

เธอไม่สงสัยติดใจอะไร เพราะธีทัตเป็นคนดีจริง ๆ และเธอก็ต้องค่อย ๆ เปิดใจให้เขา

ช่วงเวลาอาหารเย็น ญาธิดาและอัญมณีได้พูดคุยเรื่องต่าง ๆ ที่พวกเธอไม่เคยพูดคุยกันมาก่อนหลายเรื่อง จนผ่านไปกว่าหลายชั่วโมงโดยไม่รู้ตัว

จนสุดท้ายเห็นว่าเด็กทั้งสองคนต่างก็ง่วงจนแทบทนไม่ไหวแล้ว ญาธิดาถึงบอกลาอัญมณีและนั่งแท็กซี่กลับมาที่แกรนด์ บูเลอวาร์ด

หลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอนอนอยู่บนเตียงและเริ่มคิดเรื่องนั้นเรื่องนี้โดยไม่รู้ตัว

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับอัญมณีจะไม่ได้เหินห่างกัน แต่ก็ไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกันมากเหมือนอย่างเมื่อก่อน แต่อาหารมื้อนี้ทำให้เธอได้ความสนิทสนมที่ห่างหายกันไปนานเหล่านั้นกลับคืนมา

คิดไปคิดมา ญาธิดาก็ผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว

หลายวันต่อมา ญาธิดาพาอีธานกับเอลล่าเดินทางไปมา ภายในเวลาสองวันก็ถ่ายวิดีโอตัวอย่างเสร็จไปแล้ว

ในพื้นที่ถ่ายทำ พี่โอ๊ตยกนิ้วให้ญาธิดา “ผลลัพธ์ออกมาดีมากเลย ตอนนี้ก็รอแค่วิดีโอตัวอย่างนี้ผ่าน เดี๋ยวต่อไปก็จะง่ายขึ้นเยอะเลย”

ญาธิดาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เมื่อได้ยินเขาพูดแบบนั้นเปลือกตาของเธอก็ดันกระตุกถึงสองครั้ง ก่อนจะรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์