ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 398

เมื่อเห็นว่าผ่านมานานมากแล้วญาธิดาก็ไม่ยอมพูดอะไร ใบหน้าของเอลล่าก็ฉายผิดหวังออกมา พร้อมทั้งพูดเสียงทุ้มต่ำ “ถ้าแม่ไม่ยอม งั้นก็ช่างเถอะค่ะ...”

สีหน้าท่าทางผิดหวังของสาวน้อยทำให้หัวใจเธอรัดแน่น จนเกิดอาการหักห้ามใจไม่อยู่ เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมทั้งก้มหน้าเพื่อถามกลับ “อยากเจอหน้าเขาจริงๆ หรือคะ?”

เธอพยักหน้าอย่างจริงจัง “เอลล่าอยากเจอคุณอาคนหล่อจริงๆ ค่ะ”

เมื่อญาธิดาได้ยินดังนั้น ก็กัดฟันทันที พร้อมทั้งตัดสินใจอย่างเด็ดขาด และพยักหน้าทันที “ได้ค่ะ งั้นแม่จะโทรศัพท์หาเขาเลยนะ”

เธอพูด พร้อมทั้งลุกขึ้นยืน เพื่อให้เอลล่าเอนตัวลงบนเตียง และห่มผ้าห่มให้เธอ และพูดเสียงแผ่วเบา “แม่ไปโทรศัพท์ก่อน หนูก็นอนอยู่ตรงนี้อย่างเชื่อฟังนะ รู้มั้ยคะ?”

เอลล่าพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

ญาธิดายิ้มให้ พร้อมทั้งเอื้อมมือมาลูบศีรษะเล็กๆ ของเธอ จากนั้นก็ก้าวเท้าเดินออกไปจากห้องพักผู้ป่วย

เมื่อปิดประตูแล้ว รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าของเธอก็มลายหายไปทันที แต่กลับมีความวิตกกังวลเข้ามาแทนที่แทน

เธอกุมโทรศัพท์ไว้แน่น และไม่ได้แสดงความหมายว่าต้องการจะกดโทรศัพท์ออกไปสักนิด

วันนั้นเธอได้มีปากเสียงกับภวินท์จนเข้าหน้ากันไม่ติดอยู่แล้ว แต่วันนี้เธอจะโทรไปหาเขาเพื่อให้เขาช่วยเหลือ มันจะฉุกละหุกเกินไปมั้ย? ถ้าเขาไม่ยอมมา แล้วเธอควรจะพูดอธิบายกับเอลล่าว่ายังไงดี?

ญาธิดาครุ่นคิดอยู่ พร้อมทั้งเกิดความรู้สึกลังเลอยู่ในใจเพิ่มขึ้นเรื่อย ซึ่งเวลาผ่านพ้นไปสิบกว่านาทีอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว เธอตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากทั้งสองฝั่ง ทั้งไม่กล้าโทรศัพท์หา พร้อมทั้งไม่กล้ากลับเข้าไปเผชิญหน้ากับดวงตาอันใสซื่อบริสุทธิ์คู่นั้นของเอลล่าในห้องพักผู้ป่วย

เธอคิดแล้วคิดอีก ในที่สุดเธอก็กัดฟัน จึงเปิดบันทึกเบอร์โทรศัพท์ เพื่อหาช่องทางในการติดต่อภวินท์

พอคิดถึงเอลล่า หัวใจของเธอตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว จึงกดโทรศัพท์ต่อสายทันที

“ตู๊ด ตู๊ด—"

เสียงที่ดังออกมาจากปลายสาย ราวกับถูกสะกดจิต จนทำให้เธอตื่นเต้นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว

ซึ่งในเวลาเดียวกัน ภวินท์ที่อยู่ปลายสาย กำลังอยู่นั่งอยู่ในสตูดิโออันสว่างไสว เหนือศีรษะและแสงไฟที่ส่องอยู่ด้านหน้าสว่างจ้ามาก เขานั่งอยู่ปลายโซฟาทรงกลมฝั่งหนึ่ง อีกฝั่งหนึ่ง ก็คือพิธีกรที่สวมชุดอย่างเป็นทางการ

“อย่างที่ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว คุณภวินท์เป็นหนึ่งในนักธุรกิจที่อายุน้อยที่สุด ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในเมือง J ซึ่งแน่นอนว่า นอกจากทางด้านธุรกิจแล้ว ยังมีเพื่อนๆ ในเน็ตอีกมากมายที่สนใจเรื่องชีวิตส่วนตัวของคุณครับ ตามที่ทราบกันดีว่าว่าคุณมีภรรยาสวยสาวคนหนึ่ง สามารถพูดแชร์ให้พวกเราได้มั้ยว่าพวกคุณ...”

พิธีกรพูดยังไม่ทันจบประโยค ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์สั่นของภวินท์ จึงช้อนสายตาลงเล็กน้อย เพื่อกวาดตามองหน้าจอโทรศัพท์ที่วางอยู่ด้านข้างตรงหน้า จู่ๆ แววตาก็หม่นหมองลงทันที

พิธีกรจับสัมผัสได้ถึงแววตาของเขา จึงมองตามสายตาของเขาไป รอยยิ้มที่ปรากฏอยู่บนใบหน้าก็ยิ้มคลี่ยิ้มมากขึ้นเรื่อย “ไม่ทราบว่านี่เป็นสายของคนที่คุณรักโทรศัพท์เข้ามาใช่หรือไม่ครับ?”

ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และแหงนหน้ามองทีมผู้กำกับที่อยู่นอกกล้อง พร้อมทั้งลุกขึ้นยืนและพูดทันที “ขอโทษครับ ผมขอรับโทรศัพท์เร่งด่วนสักหน่อย”

เขาพูด พร้อมทั้งก้าวฝีเท้าออกไป และเร่งฝีเท้าเดินไปยังเวทีทางด้านหลัง

เวลานั้นเอง พิธีกรที่อยู่บนเวทีและทีมผู้กำกับที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างทำหน้ากล้ำกลืนฝืนทน และมองหน้ากันไปมา

ผ่านไปสักพัก ทุกคนต่างพอเดาได้ คนที่ทำให้ภวินท์หยุดบันทึกเทปการสัมภาษณ์กลางคันเพื่อกดรับสาย ต้องเป็นบุคคลที่สำคัญมากสำหรับโทรศัพท์เข้ามา

ด้านหลังเวทีสตูดิโอ

ภวินท์กดรับสาย ซึ่งไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด กลางฝ่ามือมีเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาเล็กน้อยจากอาการตื่นเต้น

แต่เมื่อเอ่ยปากพูด เสียงของเขากลับเย็นเฉียบและแสดงความเหินห่างฟื้นคืนกลับมาเป็นดังเดิม ซึ่งเผยความเย็นชามากเมื่อมีโทรศัพท์มาขวางกั้น “มีอะไร?”

ญาธิดาลังเลสักพัก พร้อมทั้งกุมโทรศัพท์และพูดออกมา “คุณ...พอมีเวลาบ้างมั้ยคะ?”

พอภวินท์ได้ยิน ก็เลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ความเย็นชาที่ปรากฏอยู่บนสีหน้าพลันอบอุ่นลงเล็กน้อย แต่ยังคงพูดอย่างเย็นเฉียบ “มีเรื่องอะไรเหรอ?”

ญาธิดากัดฟัน พร้อมทั้งปลุกความกล้าหาญพูดออกมา “เอลล่าเธอ...อยากเจอหน้าคุณสักหน่อยค่ะ”

ดวงตาของภวินท์ทอประกายหวั่นไหวอย่างรวดเร็ว เขายกมือขึ้น พร้อมทั้งเหล่มองนาฬิกาข้อมือ และเอ่ยปากพูดอย่างเชื่องช้า “เดี๋ยวผมจะปลีกเวลาไปโรงพยาบาลครับ”

“ค่ะ รบกวนคุณด้วยนะคะ”

ญาธิดาทางนั้นพูดจบประโยคแล้ว พร้อมทั้งกดวางสายทันที

ภวินท์เก็บโทรศัพท์ ริมฝีปากยกขึ้นอย่างไม่รู้ตัว เขาตะลึงเล็กน้อย พร้อมทั้งหันไปมองพายุอย่างทันควัน c] tเอ่ยปากพูดกำชับทันที “ไปบอกกับทางทีมผู้กำกับ ผมมีเรื่องด่วน ต้องออกไปสักหน่อย เรื่องสัมภาษณ์ก็หยุดถ่ายไว้แค่นี้ก่อน เดี๋ยวค่อยมาถ่ายต่อทีหลัง”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์