ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 43

ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และหันหน้ามามองทางด้านข้างตัวของชมพู่ “เรื่องนี้มันไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับท่านคุณภวินท์เลย”

ชมพู่ถอนหายใจ “งั้นแกก็คิดหาวิธีในการอธิบายแล้วกัน ถึงอย่างไรตอนนี้ทุกคนต่างก็คิดว่าแกมีความคิดเรื่องชู้สาวกับท่านคุณภวินท์อยู่ตลอด โดยการทอดสะพานทำเรื่องเสียหาย...”

อธิบายเหรอ? แค่กลัวว่าถึงเธออยากจะอธิบาย แต่ไม่มีคนจะยอมฟังคำอธิบายจากเธอนะสิ

“ติ๊ง--” เสียงประตูลิฟต์เปิด ญาธิดาเดินออกจากลิฟต์พร้อมกับชมพู่ และมุ่งหน้าเดินไปยังประตูทางออก

ทันใดนั้นเอง มีคนที่อยู่ด้านข้างเดินมุ่งหน้ามาหาพวกเขา

“ธิดา!”

ญาธิดาหันกลับไปมอง จึงมองเห็นภาม เพื่อนร่วมงานผู้ชายในฝ่ายการเงิน

“ภาม นี่คุณก็เพิ่งเลิกงานเหรอ?”

ภามยิ้มให้เธอ พยักหน้าและยิ้มให้ “บังเอิญมาก”

เขาชะงักเล็กน้อย พร้อมทั้งพูดทักทายชมพู่ จากนั้นก็มองมาทางญาธิดา “นี่คุณจะไปไหน? ให้ผมส่งคุณกลับบ้านเอามั้ย?”

การเผชิญหน้ากับความกระตือรือร้นและการถูกตอแย ญาธิดารู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอจึงยื่นมือออกไปเกี่ยวแขนของชมพู่เอาไว้ พร้อมทั้งยิ้มให้และพูดปฏิเสธในทางอ้อม “ฉันนัดชมพู่กินข้าวเอาไว้แล้วนะสิ”

ภามได้ยินแล้ว ได้แต่ยิ้มและเกาหัว “งั้นดี พวกคุณไปกินข้าวกันเถอะ ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสผมค่อยไปส่งคุณกลับบ้านแล้วกัน”

“ได้สิ บ๊ายบายนะ”

หลังจากกล่าวลาภามเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ญาธิดาเดินจูงชมพู่ ให้รีบเดินออกไปจากห้องโถงของบริษัทอย่างเร่งรีบ

เมื่อเดินทิ้งห่างมาไกลแล้ว ชมพู่ถึงกลับยิ้มและถามทันที “ธิดา คนมีตาเขาก็มองออกทั้งนั้นว่าภามชอบแก! ฉันรู้สึกว่าเขาก็ดีเลยนะ ทำไมแกมักปฏิเสธเขาอยู่ตลอดด้วย?”

ญาธิดารู้สึกสับสน พลางก้มหน้าลงและเหลือบมองแหวนที่อยู่บนนิ้วของตนเอง ซึ่งไม่รู้ว่าควรจะอธิบายให้ชมพู่ฟังว่ายังไงดี

เมื่อเห็นว่าเธอไม่ยอมตอบกลับสักที ชมพู่ไม่ได้โกรธ พลางดึงเธอและพูดต่อ “ความจริง ฉันมีอีกวิธีนะ ที่สามารถมากำจัดข่าวลือในบริษัทได้”

ญาธิดารีบถามทันควัน “วิธีอะไรเหรอ?”

“ในบริษัทไม่ใช่ลือกันว่าแกไปทอดสะพานให้ท่านคุณภวินท์เหรอ? แกไปทำตัวสนิทสนมกับเพศตรงข้ามสักหน่อย เช่นนายภามเป็นต้น ไม่แน่อาจจะเป็นการปฏิเสธข่าวลือพวกนั้นจนหายไปอย่างไร้ร่องรอยไม่ใช่เหรอ?”

ญาธิดาได้ยินเช่นนั้นแล้ว รู้สึกว่ามีเหตุผลอยู่บ้าง แต่กลับรู้สึกว่ามันแปลกพิกลอยู่

“เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่าฉันไม่ได้คิดอะไรกับท่านคุณภวินท์ ก็ต้องไปทำความรู้จักกับเพศตรงข้าม ความหมายเป็นแบบนี้ใช่มั้ย?”

ชมพู่พยักหน้าเล็กน้อย ใช่จ้า ถึงเวลานั้นค่อยอธิบายอีกรอบ ข่าวลือหนาหูพวกนั้นก็จะถูกโจมตีพ่ายแพ้ไปเอง”

ญาธิดาตัดสินใจไม่ได้ “แต่การทำแบบนี้ มันไม่เป็นการหลอกใช้ภามหรอกเหรอ?”

“จะถือว่าหลอกใช้ได้ยังไง เพราะนายภามเขาชอบแก แกก็แค่ลองทำความรู้จักสนิทสนมเขาก็เท่านั้นเอง และไม่จำเป็นต้องพัฒนาไปถึงขั้นเป็นแฟนกัน ขอแค่แสดงให้ทุกคนเห็นว่าแกไม่ได้คิดเลยเถิดกับท่านคุณภวินท์ แค่นี้ก็พอแล้ว แกว่ามั้ย?”

ญาธิดาพยักหน้าแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทว่าในใจกลับตัดสินใจไม่ได้

หลังจากแยกจากชมพู่แล้ว เธอก็คอยชั่งน้ำหนักอยู่ในใจ และไม่สามารถคิดหาวิธีที่ดีกว่านี้แล้ว

เพียงพริบตาเดียว เวลาสองวันผ่านไป เดิมญาธิดาคิดว่า ผ่านสองสามวันนี้ไปแล้ว ข่าวลือในบริษัทจะค่อยๆ สงบลง ทว่ามาตอนนี้ เธอกลับพบว่า ข่าวลือพวกนี้ไม่ได้มีท่าทางจะสงบ ในทางกลับกันยังมีแนวโน้มที่หนักข้อขึ้นเรื่อย ๆ

ในวันนี้ไม่ว่าเธอจะเดินไปอยู่ตรงไหนก็ตาม ต่างกลายเป็นเป้าสายตาของทุกคน ความคาดเดา พร้อมทั้งคำตัดสินและการถากถางต่างๆ นานา ราวกับภูเขาลูกใหญ่มหึมา ที่มันอัดแน่นจนเธอหายใจไม่ออก

ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป รอให้ภวินท์กลับมาจากต่างประเทศแล้ว ต้องได้ยินเรื่องพวกนี้แน่ ถึงตอนนี้ แล้วเธอจะทำอย่างไรดี?

ในใจยิ่งคิดก็ยิ่งไม่สบายมากขึ้นเรื่อย สุดท้ายแล้ว ญาธิดาก็คิดวิธีไม่ออกจริงๆ ตอนที่ไร้หนทางแล้วนั้น จู่ ๆ เธอก็ฉุกคิดเรื่องที่ชมพู่พูดออกมาในวันนั้นขึ้นมาได้

เมื่อเรื่องมันเลยเถิดมาถึงขั้นนี้แล้ว เธอก็ไม่มีตัวเลือกอื่นอีกแล้ว จึงต้องปิดข่าวลือพวกนี้เอาไว้ในช่วงเวลาเร่งด่วนเช่นนี้ เพราะคนที่เอาเรื่องนี้มาพูดมันยิ่งมากขึ้นเรื่อย ๆ

อย่างน้อยเรื่องพวกนี้ คนในวงการบันเทิงชอบใช้กันบ่อยๆ โดยการสร้างข่าวหนึ่งขึ้นมาให้โด่งดังมากและเอามากลบข่าวที่ดังมากก่อนหน้านี้ เพื่อเบี่ยงเบนเป้าสนใจของทุกคนไป

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์