ไม่เกินสิบนาที รูปภาพเหล่านี้ก็กลับเรียกเสียงฮือฮาขึ้นมาอีกระลอก
“ว้าว! ญาธิดาคนนี้เก่งจริงๆ! เปลี่ยนผู้ชายไม่ซ้ำหน้าทุกวันเลย!”
“ใช่! ปกติก็เห็นว่าพี่เค้าก็ดูแบบใสซื่อเรียบร้อยอยู่นะ! ไม่คิดเลยว่า ...”
“ตอนนั้นก็พูดกันว่าเธอทอดสะพานให้ท่านคุณภวินท์อยู่ไม่ใช่เหรอ? ทำไมเปลี่ยนเป้าหมายไปล่ะ?”
“……”
ความคาดเดาด้วยความสงสัยต่างๆ นานาราวกับคลื่นพายุที่เกลียวคลื่นสูงขึ้น และถาโถมไม่สงบนิ่งสักที
ญาธิดากับภามกำลังเดินมุ่งหน้าไปยังร้านอาหาร โทรศัพท์ของทั้งสองคนก็มีเสียง “ติ๊งต่อง” ดังไม่ขาดสายโดยที่ไม่ได้นัดหมายเอาไว้
ญาธิดาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และมองข่าวต่างๆ ที่อยู่ในกลุ่มนั้น เธอกดเปิดมอง ซึ่งผลลัพธ์ เป็นการถกเถียงกันเรื่องเธอกับภาม
ภามที่อยู่ข้างๆ ก็เหลือบมองโทรศัพท์ ไม่นานนักก็เข้าใจได้ทันที เขาย่นคิ้วหากัน พลันพูดเสียงเบา “ธิดา อย่าไปสนคำพูดเพ้อเจ้อของพวกเขา คนในบริษัทช่างชอบเกาะกระแสฮือฮา!”
ญาธิดาได้ยินแล้ว พลางคลี่ริมฝีปากยิ้ม “ไม่เป็นไร ฉันไม่สนใจ”
สิ่งที่เธอสนใจก็คือภวินท์จะถูกหางเลขโดยต้นเหตุมาจากตนเองหรือเปล่าก็เท่านั้นเอง วันนี้เรื่องที่เธอโดนคนพูดนินทาจนกลายเป็นจุดสนใจของสาธารณชนไปแล้ว ด้วยเหตุนี้ อย่างไรเสียเรื่องของเธอกับภวินท์ก็จะได้ซาๆ ลงไปเรื่อย ๆ ซึ่งมองอีกมุมหนึ่งนั้น ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีทีเดียว
ภามที่อยู่ด้านข้างเห็นสีหน้าแววตาของเธอก็เหมือนปกติ ไม่ได้แสดงท่าทางโกรธเคืองแม้แต่น้อย ถึงได้แอบถอนหายใจโล่งอก
ไม่นานนัก พวกเขาก็มาถึงร้านอาหาร
ภามจองร้านอาหารสไตล์ตะวันตก ซึ่งมีกระจกยาวจรดพื้น มีแสงดวงไฟกลมสาดส่องดาษดา และบนโต๊ะอาหารยังมีช่อดอกไม้เล็กๆ จัดวางไว้ บรรยากาศถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว ซึ่งมันช่างเหมาะสมกับการนัดหมายของคู่รักเป็นอย่างมาก
หลังจากญาธิดานั่งลงเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น จึงค้นพบว่าแขกที่อยู่รอบๆ นั้นโดยส่วนใหญ่เป็นชายหนุ่มหญิงสาวสองต่อสอง จังหวะนั้นเธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองทันที
“คุณดูสิอยากจะกินอะไรบ้าง?”
ญาธิดามองเมนูที่ภามส่งมาให้ “คุณสั่งเถอะ”
ภามได้ยินแล้ว ก็ไม่ได้มีท่าทางขัด และสั่งอาหารให้อย่างเอาใจ จากนั้นก็ยื่นเมนูคืนให้กับพนักงานสาวที่คอยบริการอยู่
รอจนพนักงานเดินออกไปแล้ว ภามถึงได้รินน้ำมะนาวให้ญาธิดาแก้วหนึ่ง พลางพูดเสียงแผ่วเบา “ธิดา ผมรู้เรื่องข่าวลือในบริษัทในช่วงนี้ ความจริงแล้วผมรู้สึกว่า คุณไม่จำเป็นต้องเก็บเอามาคิด เรื่องพวกนี้ผ่านไปไม่นานเท่าไหร่ ก็ไม่มีคนจำได้แล้ว”
ญาธิดาได้ยินเช่นนั้น พลันยิ้มให้เขาทันที “ฉันรู้ค่ะ ขอบคุณมากนะที่คุณมาปลอบใจฉัน”
เธอกับภามรู้จักกันตอนที่ทางบริษัทจัดการแข่งขันกีฬาสีและแบ่งกลุ่มให้เล่นเกม เธอมองออกว่า ภามเป็นคนจิตใจดีและมีเมตตา ถือว่าเป็นผู้ชายที่ดีมากจริงๆ ซึ่งในการปลอบใจของเขาในตอนนี้ มันก็มาจากหัวใจของเขาอย่างแท้จริง
ภามพยักหน้าพูด “งั้นก็ดีแล้วครับ อย่างไรเสียถ้าคุณเจอปัญหาอะไรมา มาให้ผมช่วยได้นะ”
“OK ฉันจะมาหานะ”
ทั้งสองคนพูดคุยกันอยู่สักพัก อาหารก็ทยอยมาเสิร์ฟจนครบทุกจานแล้ว ญาธิดาก้มหน้าก้มตากินข้าว และไม่ค่อยได้พูดจามากมายอะไร
ทันใดนั้นเอง ภามก็เอ่ยปากถาม “ธิดา ผมอยากรู้มาก ว่าคุณชอบผู้ชายแบบไหน?”
ญาธิดาโดนเขาถามออกมาแบบนี้ พลางเอนศีรษะเพื่อคิดตาม ราวกับจะตอบตามสัญชาตญาณ “ดีกับฉัน อีกอย่างเป็นตัวของตัวเอง มีความคิดเป็นของตัวเอง”
ภามได้ยินแล้ว สีหน้าที่ปรากฏอยู่บนหน้าคลี่ยิ้มอยู่ตลอด พลางพูดสมทบและพยักหน้าตาม “ดีมาก...”
เขาพูด และมองญาธิดา พร้อมทั้งพูดอย่างแผ่วเบา “คุณอยากรู้ว่าผมชอบผู้หญิงแบบไหนมั้ย?”
ญาธิดาที่กำลังดื่มน้ำอยู่ถึงกลับชะงักทันที จากนั้นก็ตอบคำถามของเขาไปตามน้ำ “แบบไหนเหรอ?”
“น่ารัก ใจดี”
ภามพูดไป และค่อย ๆ วางตะเกียบที่อยู่ในมือลง พลางดวงตาจับจ้องญาธิดาที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างไม่ละสายตา “ความจริง คนที่ผมชอบก็คือ...”
ญาธิดาช้อนสายตาขึ้น และสบตากับภาม ทันใดนั้นเกิดความรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ราวกับเธอทายได้ว่าต่อจากนี้เขาจะพูดอะไรต่อ เธอวิตกกังวลและหวาดกลัวที่สุด ซึ่งมันเป็นคำพูดประโยคนั้นที่เขาเตรียมพูดออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...