เมื่อภูผาออกไป อากาศเย็นเยือกภายในห้องก็ยังไม่หายไป กลับยิ่งมืดครึ้มและน่ากลัว
อีกฝั่งโอที่นิ่งด้วยความหวาดกลัวไปนานก็กลับคืนสติอีกครั้ง เขามองไปที่ภวินท์ ออกปากขอร้องด้วยความสั่นเคลือว่า “คุณภวินท์ เรื่องครั้งนี้คุณยกโทษให้ผมเถอะ ผมถูกคุณภูผายั่วยุให้ทำ……”
ภวินท์ได้ยินดังนั้นสีหน้าของเขาก็ไม่ได้เปลี่ยน แต่กลับหันมองไปที่กล้าที่อยู่ด้านข้าง สั่งการเสียงเย็น “หน้าที่ก็คือหน้าที่”
กล้าพยักหน้าทันที เขายื่นมือออกไปดึงคอเสื้อด้านหลังของโอแล้วลากเขาออกจากห้องทำงาน
ทางฝั่งญาธิดาที่นั่งอยู่บนโซฟา เมื่อมองดูฉากเหตุการณ์ด้านนอกผ่านกระจก ไม่รู้ทำไมแผ่นหลังก็เกิดมีเหงื่อไหลออกมา
ภวินท์ในตอนนี้ สำหรับเธอแล้ว ดูเย็นชาราวกับคนแปลกหน้ายังไงอย่างนั้น เหมือนกับไม่ใช่คนเดียวกับคนที่ทานข้าวด้วยกัน ที่พนันกับเธอด้วยกันอย่างสนุกสนานเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้เลย
อย่างรวดเร็ว พนักงานภายในห้องประชุมก็แยกย้ายออกไปเกือบหมดแล้ว ภายในห้องทั้งหมดก็เหลือเพียงภวินท์และพายุ
ภวินท์เปิดบัญชีอ่านดูลวกๆ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความหนาวเย็น ผ่านไปสักครู่หนึ่ง ก็โยนสมุดบัญชีไปบนโต๊ะ พูดอย่างเย็นชาว่า “ทำสำเนาสัก 2-3 ชุด จัดการส่งให้ทางคุณพ่อคุณแม่ชุดหนึ่งด้วย”
พายุพยักหน้ารับในทันที
ในขณะนี้ ในเมื่อพวกเขาทั้งสองฝ่ายต่างก็เปิดเผยหมดแล้ว เช่นนั้นก็ไม่มีความจำเป็นที่จะปิดบังอะไรอีก และเรื่องนี้จะช้าหรือเร็วยังไงปกรณ์ก็ต้องรู้อยู่ดี
ขณะนั้นเอง หน้าประตูก็เกิดเสียงเคาะขึ้น จากนั้นไม่นานผู้ช่วยก็ผลักประตูเข้ามา “คุณภวินท์”
ผู้ช่วยสาวคนนั้นที่พึ่งพาญาธิดากับคุณบิ๊กมาตรงนี้ เธอก้าวเดินไปข้างหน้า และเหลือบมองมาทางห้องด้านฝั่งนี้ รายงานเสียงเบาว่า “คุณภวินท์ ตอนนี้มีผู้กำกับ 2 คนรอพบท่านค่ะ เดิมทีจะให้รออยู่ในห้องประชุม แต่ว่าทางนี้เกิดเหตุสุดวิสัย ก็เลยจัดให้พวกเขาไปรออยู่ที่ชั้นในของห้องค่ะ”
ภวินท์ได้ยินดังนั้น เงยหน้าขึ้นมองมาทางฝั่งนี้อย่างไม่รีบไม่ร้อน
ร่างกายของญาธิดาเกร็งแน่นขึ้นมา กำหมัดแน่นโดยที่ไม่รู้ตัว ฝ่ามือของเธอเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อที่ไหลซึมตลอดเวลา
ดวงตาที่ประกายเฉียบคมคู่นั้นของชายหนุ่ม ราวกับสามารถมองทะลุกระจกสีเทาและมุ่งตรงมาสบสายตากับเธอที่อยู่ฝั่งนี้ได้
ภวินท์คงไม่รู้หรอกใช่ไหมว่าเธอเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพวกนั้นหมดแล้ว?
ญาธิดาสูดลมหายใจลึก พลันในใจก็เกิดความประหม่ามากขึ้น
สองวินาทีผ่านไป ภวินท์เธอถอนสายตาถอนสายตาอย่างช้าๆ สั่งการผู้ช่วยเสียงเรียบ “พาพวกเขาเข้ามาเถอะ”
ผู้ช่วยรับทราบ เธอเดินไปที่ประตูกระจกทันทีและกดสวิตช์ ยิ้มให้กับญาธิดากับคุณบิ๊กที่อยู่ภายในห้องอย่างอายๆ “ท่านผู้กำกับทั้ง 2 ท่านคะ ท่านประธานของพวกเราเพิ่งจะจัดการธุระทางนี้เสร็จเรียบร้อย เชิญพวกคุณมาทางนี้ค่ะ”
คุณบิ๊กพยักหน้า มองไปที่ญาธิดาทันที “ไปกันเถอะ”
ญาธิดาตื่นตระหนก พยักหน้าอย่างอึ้งๆ ก้าวขาเดินตามหลังคุณบิ๊ก ออกไปจากในห้อง
เมื่อเห็นพวกเขา สีหน้าของภวินท์เป็นปกติ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร “ขอโทษด้วย ที่ทำให้รอนาน ”
คุณบิ๊กยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ คุณภวินท์ยุ่งอยู่กับงาน พวกเราเข้าใจได้”
ภวินท์พยักหน้าเบาๆ ก้มสายตาลงมองเวลาแล้วพูดเสียงเรียบ “เกรงว่าวันนี้จะไม่ทันแล้ว ยังมีการเตรียมการอื่นๆ ในภายหลัง การประชุมครั้งนี้พวกเราคงต้องเลื่อนออกไปเป็นวันอื่น พอถึงตอนนั้นเดี๋ยวผมไปออกกองหาพวกคุณเอง”
คุณบิ๊กพยักหน้าถี่ “แบบนี้ก็ดีครับ!”
เขาพูดจบ จู่ๆ เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังออกมาจากในกระเป๋ากางเกง เขาหยิบขึ้นมาดู แล้วรีบเดินออกไปรับสายโทรศัพท์อีกฝั่งหนึ่ง
ต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับงานแน่ๆ อย่างไม่ต้องสงสัย
อย่างรวดเร็ว คุณบิ๊กก็วางสายโทรศัพท์ลง สีหน้าเคร่งเครียดขึ้นมา “คุณภวินท์สตูดิโอทางนั้นเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย พวกเราจะต้องรีบไปครับ”
ภวินท์พยักหน้า “ไปเถอะ”
พอดีกับที่การประชุมได้มีการเลื่อนออกไป เขาอยู่ที่นี่ก็ไม่ได้ทำอะไร
คุณบิ๊กพยักหน้าพูดกับญาธิดาอยู่หนึ่งประโยค แล้วจากไปอย่างเร่งรีบ
ชั่วขณะหนึ่ง ภายในห้องก็เหลือเพียงภวินท์ ญาธิดาและพายุ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...