ญาธิดาขมวดคิ้ว ในใจเกิดความไม่สบายใจขึ้น
บริษัท พีพีมีเดียเป็นบริษัทของภูผาที่เพิ่งจดทะเบียนไม่นานมานี้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกที่ตั้งไปจนการสรรหาบุคลากร ในทุกย่างก้าวภูผานั้นเดินอย่างอวดเก่ง รับสมัครบุคลากรมากมาย และยังลงทุนเงินไปจำนวนไม่น้อย
ภูผาเห็นหนิงหนิงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง จึงได้กล่าวเบา ๆ “หนิงหนิง ยังไม่มาอีก”
หนิงหนิงตัวเกร็ง รีบสาวเท้าก้าวไปทันที
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึก ไม่เข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เธอรีบเดินหน้ามาขวางหนิงหนิง แล้วหันไปมองทางภูผา จากนั้นกล่าว “คุณภูผา หนิงหนิงก็ได้เซ็นสัญญากับพวกเราด้วย ตอนนี้เธอเป็นนักแสดงของพวกเรา ก่อนที่การถ่ายทำจะแล้วเสร็จ เธอยังคงต้องอยู่ที่นี่”
เมื่อได้ยินเธอกล่าวเช่นนี้ ภูผายกมุมปากขึ้น “ไม่ทราบว่าคุณญาธิดามีสิทธิ์อะไรที่รั้งให้เธออยู่ครับ”
ญาธิดาลำคอตึงขึ้น หัวสมองแล่นอย่างรวดเร็ว ขณะที่กำลังจะหาคำมาแก้ต่าง ใครจะไปรู้ว่าได้มีรถเก๋งสีดำสองคันแล่นเข้ามา จอดประกบหน้าหลังรถ RV
ประตูรถถูกผลักออก ชายหนุ่มที่ใบหน้ารูปหล่อเย็นชาได้ลงมาจากรถ สาวเท้าก้าวยาวเดินตรงมาฝั่งนี้ เขาที่สวมชุดสูทสีดำ ซ่อนพลังพิฆาตและความกดดันที่มองไม่เห็นในตัว
ขณะเดียวกัน พายุกับลูกน้องที่สวมสูทก็เดินลงมาพร้อมกัน แล้วก็เดินตามหลังภวินท์ เดินมุ่งมาทางนี้อย่างมาดเท่
ภวินท์ก้าวเดินอยู่ด้านหน้า โดยมองข้ามชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนรถเข็น เดินตรงมาที่ด้านหน้าของญาธิดากับหนิงหนิง แล้วกล่าวเบา ๆ “เกิดอะไรขึ้น”
ชายหนุ่มราวกับเทพบุตรที่ลงมาจากสวรรค์ ทำให้ญาธิดาที่เดิมทีสับสนวุ่นวายรู้สึกสบายใจมากขึ้น เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ผุดความอบอุ่นขึ้นในใจ แล้วกล่าวเบา ๆ “คุณภูผาจู่ ๆ ก็บอกว่าหนิงหนิงเป็นศิลปินภายใต้สังกัดของเขา ต้องการจะพาเธอไป แต่ว่าก่อนหน้านี้หนิงหนิงได้เซ็นสัญญากับพวกเราไว้ก่อนแล้ว”
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของภวินท์ไม่มีความเปลี่ยนแปลง หันมามองภูผาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เข็น ไม่เปล่งคำใด ๆ
ภูผายิ้มมุมปาก ยกมือขึ้นโบก ลูกน้องที่อยู่ข้าง ๆ รีบนำเอกสารฉบับหนึ่งยื่นมาที่ด้านหน้าของภวินท์ทันที
ตัวอักษรหนังสือสัญญาบนหน้าปกขนาดใหญ่ ญาธิดาเองก็เห็นอย่างชัดเจนว่านั่นเป็นหนังสือสัญญาที่ลงนาม
เธอเหลือบมองภวินท์ที่ไม่มีทีท่าว่าจะยื่นมือมารับ จึงรีบยื่นมือมารับหนังสือสัญญา เปิดพลิกดูหน้าที่เซ็นลงนาม เป็นลายเซ็นและลายนิ้วมือสีแดงของหนิงหนิงจริง ๆ ด้วย
เธอหันหน้าไปมองหนิงหนิง แล้วเอ่ยปากถาม “นี่เป็นหนังสือสัญญาที่เธอเซ็นสัญญากับพวกเขาเหรอ"
หนิงหนิงพยักหน้า “ใช่ค่ะ หลังจากที่เซ็นสัญญาแล้ว ผู้จัดการไม่ได้แจ้งประกาศ จากนั้นทางฝั่งของผู้ช่วยคุณคิรินให้ฉันมาที่นี่เพื่อออดิชั่น บอกว่ามาถ่ายภาพยนตร์สั้น บังเอิญว่างพอดีฉันก็เลยมาค่ะ”
ญาธิดาได้ยินดังนั้น เมื่อเข้าใจกระจ่างแล้ว จึงพลิกดูเอกสาร สแกนอ่านเนื้อหาสัญญาอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เงยหน้ามองไปทางภูผา “คุณภูผา ในนี้ไม่ได้ระบุว่าไม่ให้ศิลปินรับงานนอก อีกอย่างหนิงหนิงอยู่ในช่วงที่กำลังว่าง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมั้งคะ”
ภูผาหัวเราะเบา ๆ “ใครบอกว่าเธออยู่ในช่วงที่ว่าง มีละครเรื่องหนึ่งผมได้ให้เธอแสดงเป็นนางเอก การกระทำของเธอในตอนนี้คือการรับงานซ้อน”
ไม่รอให้ญาธิดาได้เอ่ยปาก หนิงหนิงที่อยู่ข้าง ๆ ได้กล่าวขึ้นอย่างประหลาดใจ “นางเอก? ตั้งแต่เมื่อไหร่กันคะ”
หลังจากที่เธอเซ็นสัญญาเข้าบริษัท พีพีมีเดียแล้ว ก็ไร้ตัวตนมาโดยตลอด อย่าว่าแต่นางเอกเลย แม้แต่ตัวประกอบก็ไม่เคยป้อนให้กับเธอสักละครเดียว
ภูผากล่าวด้วยสีหน้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง “เช้าวันนี้ ผมเป็นคนกำหนดเอง ตอนนี้รู้หรือยัง”
เมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนี้ ทุกคนต่างแปลกใจ
เห็นได้ชัดว่าภูผาจงใจยั่วยุ เพราะหนิงหนิงมาถ่ายหนังสั้นการกุศลให้กับ STN Group ดังนั้นเขาก็เลยจำใจป้อนบทละครให้กับเธอหนึ่งเรื่อง เพื่อทำให้หนิงหนิงเกิดความลำบากใจ มาแย่งคนกับพวกเขา และถือโอกาสหยาม STN สักหน่อย
ญาธิดาเริ่มโมโหโกรธ “คุณภูผาคะ ทำแบบนี้ไม่ผิดจรรยาบรรณไปหน่อยเหรอคะ”
ภูผาหัวเราะเบา ๆ กล่าวอย่างไม่กระดากใจ “จรรยาบรรณ? อะไรคือจรรยาบรรณ เธอเป็นศิลปินภายใต้สังกัดของผม ผมจะให้บทเธอตอนไหน ขึ้นอยู่กับผม หรือว่าผมต้องยื่นรายงานให้กับ STN Group?”
คำพูดไม่กี่ประโยค แต่กลับไม่น่าฟังอย่างมาก ทำให้ญาธิดาถึงกับพูดไม่ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...