ญาธิดาเงยหน้าขึ้น สบตากับดวงตาที่แฝงด้วยความสงสัยคู่นั้นของชายหนุ่ม เธอสูดลมหายใจเข้าลึก เอ่ยปากแล้ว “หนิงหนิงคือคนที่ฉันคัดเลือกมาจริง ๆ เป็นความผิดของฉันเองที่ไม่……”
ภวินท์ขมวดคิ้วแน่น “เลือกมาได้ยังไง” หากว่าญาธิดาไม่รู้เรื่องนี้จริง ๆ อย่างนั้นอาจมีคนอื่นที่คอยชักใยอยู่เบื้องหลัง
ได้ยินดังนั้น ญาธิดากำสองมือแน่น เกิดความลำบากใจ
หนิงหนิงคือคนที่คิรินแนะนำมาให้เธอ หากว่าเธอพูดออกมา ไม่ใช่เป็นการโยนความผิดไปให้คิรินเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ เธอรู้สึกว่าไม่ใช่เป็นฝีมือเขา
เธอกำลังครุ่นคิดในใจ ขยับริมฝีปาก สบสายตาลุ่มลึกคู่นั้นของภวินท์ แล้วกล่าวตอบทีละคำ ๆ “ไม่สะดวกที่จะบอก”
ประโยคเดียว ฉับพลันทำให้สีหน้าของภวินท์มืดหม่นลงเล็กน้อย
คุณบิ๊กที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ต่างก็ตกใจเช่นกัน เขาคิดไม่ถึงว่าญาธิดาจะพูดเช่นนี้ เพราะว่าพูดแบบนี้ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยเรื่องในตรวจสอบแล้ว ยังทำให้ตัวเองเป็นที่ต้องสงสัยเพิ่มอีกด้วย
ได้ไม่คุ้มเสีย
นอกเสียจากเธอต้องการจะปกป้องใครบางคน
มองดูบรรยากาศที่เย็นยะเยือก ห้องที่ยิ่งอยู่ยิ่งเงียบ คุณบิ๊กหัวเราะเบา ๆ สองที แล้วรีบกล่าวขึ้น “คุณภวินท์ครับ เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกเราควรจะคิดหาวิธีสยบข่าวที่เป็นลบต่อ STN Group นะครับ”
ภวินท์ที่คิ้วขมวดแน่นยังไม่ได้คลาย สายตาจ้องมองตรงมาที่ญาธิดา หยุดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วค่อยละสายตาจากไป จากนั้นกล่าวเบา ๆ “อืม คุณบิ๊ก มีบางอย่างที่ผมอยากให้คุณไปจัดการ……”
พลางพูดพลางหันหน้าไปมองคุณบิ๊ก และมอบหมายงานให้กับเขา
คุณบิ๊กรับคำมา แล้วก็ลุกออกจากห้องรับรองไปอย่างรวดเร็ว
ประตูห้องไม่ได้ปิด พายุได้เดินเข้ามาอย่างกะทันหัน เดินมาที่ข้าง ๆ ภวินท์ แล้วกระซิบบางอย่างที่ข้างใบหูของเขา ฉับพลัน สีหน้าของชายหนุ่มก็หม่นลง นัยน์ตาแผ่ความเย็นชา
ไม่นาน พายุก็จากไป ประตูปิดลง เพียงครู่เดียวก็เหลือพวกเขาเพียงสองคน
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ลุกยืนขึ้นแล้วกล่าวตรง ๆ “คุณภวินท์ ฉันยังมีสิ่งอื่นที่ต้องทำ……”
ขณะที่เธอก้าวไปข้างหน้า เธอก็หยุดนิ่งเมื่อได้ยินเสียงชายหนุ่มจากด้านหลัง
“หนิงหนิงคือคนที่คิรินแนะนำให้คุณเหรอ”
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ หัวใจเต้นแรง
ภวินท์รู้เรื่องนี้ได้อย่างไร หรือว่าเมื่อสักครู่ที่พายุเข้ามารายงานก็คือเรื่องนี้
เธอกำหมัดแน่น ลังเลครู่หนึ่ง แล้วค่อยหันมามองภวินท์ จากนั้นกล่าวเบา ๆ “ใช่ แต่ว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเขา”
อย่างน้อยในความคิดของเธอ คิรินไม่ใช่คนที่จะทำเรื่องแบบนั้น
ได้ยินดังนั้น ดวงตาของภวินท์ได้ประกายแสงมืดสลัว ขมวดคิ้วเบา ๆ “คุณมีหลักฐานอะไรยืนยัน”
ในความคิดของเขา ทุกอย่างต้องมีหลักฐานที่เชื่อถือได้ เธอไม่นำหลักฐานออกมา เธออาศัยอะไรมามั่นใจเช่นนี้ในการช่วยคนอื่นขจัดความเป็นผู้ต้องสงสัย
ญาธิดาลิ้นแข็ง พูดอะไรไม่ออก
เธอไม่มีหลักฐาน เธอแค่รู้สึกว่าคิรินไม่มีเหตุผลที่จะทำแบบนี้
เธอกำหมัดแน่น กัดริมฝีปากแล้วกล่าว “ฉันคิดว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น”
ได้ยินดังนั้น ชายหนุ่มก็พ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชา แล้วก้าวเดินมาใกล้เธอ ทันใดนั้น ระยะห่างของทั้งคู่ชิดกันมากขึ้น สัมผัสโดนลมหายใจของกันและกัน เธอสามารถสัมผัสถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ซ่านบนตัวของชายหนุ่ม
จากนั้น เสียงของชายหนุ่มก็ดังขึ้นข้างใบหูของเธอ “อย่างนั้นทำไมผมต้องเชื่อคุณด้วยล่ะ”
ตอนนี้ STN Group อยู่ในจุดที่มีวิกฤตวุ่นวาย คำพูดที่ไม่พึงประสงค์ใด ๆ ต่อบริษัท อาจส่งผลตามมาอย่างมากมาย เขาจะต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ ยิ่งไม่ควรจะเชื่อคำพูดของใครง่ายๆ
แต่ว่าครั้งนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นกับดักของภูผา ข่าวที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ไม่สามารถที่จะปล่อยไปง่าย ๆ การใส่สีตีไข่ว่าร้าย STN Group เรื่องนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...