ใบหน้าของเธอแดงก่ำ สายตาประกายไปด้วยความเย็นชา และแฝงไปด้วยความเด็ดเดี่ยวกับความห่างเหินอย่างชัดเจน
ภวินท์ได้ยินแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ คำพูดที่กำลังจะพูดก็พูดไม่ออก ความสงสัยในใจก็ลดลงไปเรื่อยๆ
ที่แท้ ญาธิดาปฏิเสธเขากับตระกูลสถิรานนท์ขนาดนี้เลยเหรอ
เขาขมวดคิ้วแน่น ยังไม่ทันได้พูดอะไร ญาธิดาก็รีบก้าวเท้าเดินออกไปจากตรงนี้แล้ว
มองดูแผ่นหลังที่เด็ดขาดของผู้หญิง ในใจของภวินท์ก็มีอารมณ์ซับซ้อนพลุ่งพล่านขึ้นมา รู้สึกแน่นหน้าอกอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งโทรศัพท์ดังขึ้น เขาถึงได้สติ
หยิบโทรศัพท์ออกมา ก็เห็นว่าเป็นสายจากคนรับใช้ข้างคุณย่า เขาลังเลสักพัก แล้วกดรับสาย “อืม อืม ฉันถึงแล้ว”
ออกมาจากร้านเสื้อผ้าผู้ชาย เดินไปตามทางเดินไม่ไกลมาก เดินผ่านท้องฟ้าจำลอง จนมาถึงลาดา บูติก เดินมาถึงหน้าประตู เขาก็เห็นคุณย่านั่งอยู่บนโซฟาด้วยสีหน้าผิดหวังเสียใจ
เขาสูดหายใจเข้าแล้วเดินไปตรงหน้า “คุณย่าครับ”
คุณย่าได้ยินเสียงนี้แล้ว ก็เงยหน้าขึ้น ตอนที่เห็นเขาเข้ามา แววตาของเธอก็เปล่งประกายขึ้นมาทันที “วินมาแล้วเหรอ!”
ภวินท์กระตุกยิ้มบางๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “คุณย่าลองเสื้อผ้าหรือยังครับ?”
คุณย่าส่ายหน้าแล้วยื่นมือไปจับมือเขาไว้ จากนั้นก็พูดว่า “วิน เมื่อกี้ย่าเห็นเด็กสองคน หน้าตาคล้ายแกมากเลย แกว่า ย่าอยากอุ้มเหลนจนหลอนไปเองหรือเปล่า?”
ได้ยินดังนั้น ภวินท์ก็ตื่นเต้น ชะงักไปสักพัก ก็เอ่ยถามขึ้นว่า “หน้าตาคล้ายผมตอนเด็กเหรอครับ?”
คุณย่าพยักหน้าแล้วพูดอย่างแน่ใจว่า “ใช่ คิ้วตาเหมือนกับแกตอนเด็กอย่างกับแกะเลยล่ะ!”
วินาทีนั้นเอง ภวินท์ก็รู้สึกสับสน ในสมองมีภาพใบหน้าของอีธานเอลล่าปรากฏขึ้น เขาเงียบไม่พูดไม่จา
อีธานกับเอลล่าเห็นได้ชัดว่าเป็นลูกของญาธิดากับธีทัต ทำไมคุณย่าถึงบอกว่าเหมือนเขาล่ะ? ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนั้นเขาเอาเส้นผมของเอลล่าไปตรวจดีเอ็นเอที่โรงพยาบาลเองกับมือ และเฝ้าอยู่หน้าประตูตั้งแต่ต้นจนจบ ผลตรวจต้องไม่ผิดแน่นอน
และในตอนนี้เอง ทันใดนั้นคุณก็ย่าพูดขึ้น ยกมือขึ้นตบหลังมือเขาเบาๆ “วิน แกจะมีเหลนให้ย่าอุ้มเมื่อไหร่กันนะ!”
ภวินท์ได้ยินแล้วก็เงียบไม่พูด
“ตอนนี้บริษัทเกิดเรื่องแบบนี้ ถ้ามีข่าวดีออกมา เรื่องร้ายๆทั้งหมดก็จะคลี่คลายลงไปเอง” คุณย่าว่าแล้วก็มองเขา แล้วพูดเตือนว่า “วิน เรื่องการมีลูก แกต้องคิดดีๆนะ”
ภวินท์ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ แต่ยังไงนี่ก็เป็นคำพูดที่ออกมาจากปากคุณย่า เขาตอบโต้ไม่ได้ จึงต้องตอบตกลง “เข้าใจแล้วครับคุณย่า”
คุณย่าพยักหน้าจับมือของเขาแล้วพูดอย่างลึกซึ้งว่า “แกเข้าใจก็ดีแล้ว ร่างกายของย่าแกก็รู้ดี อย่าให้ย่ารอนานเกินไปล่ะ”
ภวินท์พยักหน้า พูดคุยกับคุณย่าสักพัก ก็ถึงโน้มน้าวให้เธอไปลองเสื้อผ้าได้
ซื้อเสื้อผ้าและกินข้าวกับคุณย่าเสร็จ ก็ถึงส่งคุณย่ากลับไป
ตอนเย็นวันนั้น ก็มีสำนักข่าวรายงานข่าวว่า ภวินท์เที่ยวห้างและกินข้าวกับนายท่านแห่งตระกูลสถิรานนท์ ย่าหลานสองคนสนิทกันมาก ภวินท์ก็กตัญญูมากเช่นกัน
ข่าวด้านดีๆประกาศออกไป ทำเอาชาวเน็ตปลื้มภวินท์มากขึ้นไปอีก บวกกับที่มีคุณย่าอยู่ด้วย ขนาดพวกหุ้นส่วนในบริษัทที่มีอำนาจยังต้องเงียบไปหลายวัน
ใช้โอกาสสองวันนี้ ภวินท์รีบเซ็นสัญญาโครงการใหญ่ๆที่ร่วมงานกับบริษัทอื่น จึงทำให้ข่าวลือในบริษัทลดลงไปมาก
แต่เรื่องเอกสารลับที่ถูกเผยแพร่ออกไปก่อนหน้านี้ แม้ภวินท์จะทำงานได้ดีแค่ไหน ก็ไม่อาจจะปิดบังเรื่องนี้ไปได้ ทุกคนต่างก็รอให้เขาออกมาพูดแก้ต่าง แต่ภวินท์กลับใจเย็นมาก ไม่พูดถึงผลการจัดการเรื่องนี้เลยสักนิด
STN Group
ภวินท์นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน เปิดดูกราฟตลาดหุ้นบนแท็บเล็ต ขมวดคิ้วเป็นปม
ทันใดนั้น ประตูห้องถูกเปิดออก พายุรีบเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเข้มงวด ยื่นเอกสารในมือไปแล้วพูดว่า “นี่คือการเดินทางช่วงนี้ของคุณหลุยส์ครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...