ธีทัตตอบเสียงเข้ม “อืม จะปล่อยเธอไป”
หากยังไม่ปล่อยคนอีก เกรงว่าภวินท์จะเล่นงานหนัก ถึงตอนนั้นแข็งกระทบแข็ง เกรงว่าทั้งสองจะบาดเจ็บ
ในใจของญาธิดาเกิดความผิดหวังเล็กน้อย และตอบรับ เธอเบี่ยงประเด็นและพูดคุยกับธีทัตอีกครู่ ถึงได้วางสายไป
เป็นตรงไหนกันนะที่เกิดปัญหา? วันนี้แกร่งอ่อนควบเข้ากัน ใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง หรือว่าจะไม่มีทางหาเบาะแสจากตัวนิวราได้จริงๆงั้นเหรอ?
หรือว่า ตั้งแต่ต้น พวกเขานั้นสงสัยผิดคนกัน?
ความคิดเช่นนี้เพิ่งจะผุดมาในหัวของเธอ ก็ถูกปัดทิ้งไปทันที
เธอเชื่อสัญชาตญาณของเธอ ดังนั้น เธอแน่ใจว่าคนร้ายที่ขับรถชนก็คือนิวรา
แม้ว่าตอนนี้จะไม่มีหลักฐานใดๆเลย ความคิดนั้นไร้หนทาง แต่ในใจของเธอก็ปักใจเชื่อความรู้สึกแรก
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึกๆ ค่อยๆกำหมัดแน่น
หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก เธอก็แอบตัดสินใจบางอย่าง บางที เธออาจจะไปที่สถานีตำรวจ แล้วกระทำการบางอย่างต่างจากอีกมุมหนึ่ง
ตอนนี้ บนถนนกว้างใหญ่ในเมือง J รถตู้สีขาวคันหนึ่งอยู่ๆก็จอดลงที่ข้างทาง ต่อมา ประตูรถก็ถูกเปิดออก และโยนคนลงมาหนึ่งคน ประตูรถปิดลงอย่างรวดเร็ว รถก็ “ฟิ้ว!” จากไป
นิวรานั่งทรุดอยู่บนพื้น สภาพย่ำแย่มาก ท้องหิวมาตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงวันนี้ตอนเช้า ท้องเธอร้องจ๊อกๆ ร่างกายไร้เรี่ยวแรง ความตกใจและการเหวี่ยงผลัดกันทำให้เธอประหม่า จนถึงตอนนี้ เธอถึงได้กล้าผ่อนคลายลงเล็กน้อย และถอนหายใจเฮือกใหญ่
ขณะนั้น รถMaybachสีดำคันหนึ่งก็ค่อยๆเข้ามาทางเธอ และจอดลงข้างเธอ ประตูรถเปิดออก ไม่นาน ก็มีคนลงมา และพยุงเธอขึ้นรถ
เมื่อนิวราขึ้นรถ ก็มองที่เบาะหลัง มีภวินท์สวมชุดสูทสีดำนั่งอยู่ น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่ขาดสายโดยที่ควบคุมไม่ได้ “พี่วิน ในที่สุดพี่ก็มาช่วยฉัน...”
เมื่อคืน เดิมที่เธอคิดว่าจะมีคนมาช่วยเธอ คิดไม่ถึง ว่าเธอต้องใช้เวลาตลอดทั้งคืนอยู่ในห้องใต้ดินที่เย็นและชื้นนั่น เธอถึงได้ถูกปล่อยตัวออกมา!
ภวินท์ยื่นมือออกไป ดึงกระดาษทิชชูมา และยื่นให้ตรงหน้านิวรา “ตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว ฉันจะส่งเธอกลับบ้านนะ”
นิวราไม่ได้รับ และยื่นมือออกไปคล้องแขนภวินท์อย่างน้อยใจ และสะอื้น “พี่วิน ฉันไม่เคยได้รับการปฏิบัติแบบนี้มาก่อน! ธีทัตนั่นถึงกับกล้าจับฉัน พี่ต้องแก้แค้นแทนฉันนะ......”
ได้ยินดังนั้น ภวินท์ก็ขมวดคิ้วแบบไม่ทันสังเกต สีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย “นิว เธอไม่ได้ทำเรื่องอะไรที่ผิดต่อตระกูลกรเวชจริงๆเหรอ?”
ธีทัตไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น ถ้าหากเขาลงมือ จะต้องมีแนวโน้มว่าแน่ชัดแล้ว
เขาพูดถึงเหตุผลถูกต้องเต็มไปด้วยสัจธรรม และถามเธออย่างจริงจัง ท่าทางราวกับสอบปากคำนักโทษ
นิวราได้ยินดังนั้น เดิมทีหน้าเล็กๆที่บึ้งตึงอยู่แล้วก็ยิ่งน้อยใจเข้าไปอีก “พี่วิน ฉันต้องพูดยังไงพี่ถึงจะเชื่อ? ฉันไม่เคยทำอะไรเลยจริงๆ......”
ภวินท์หรี่ตาเล็กน้อย แสดงให้เห็นความอันตรายเล็กน้อย “งั้นทำไมธีทัตถึงต้องจับเธอไปด้วย?”
นิวราสูดหายใจเข้าลึกๆ เผชิญหน้ากับสายตาของชายผู้นั้น ก็ไม่มีความกล้าอย่างอธิบายไม่ได้ “นิว......นิวก็ไม่รู้เหมือนกัน!”
ภวินท์เอ่ยปากเสียงเข้ม “ที่ไหนไม่มีไฟที่นั่นก็ไม่มีควัน ถ้าหากเธอกำลังปิดบังอะไรฉัน นิว ถึงตอนนั้นฉันก็ปกป้องเธอไม่ได้!”
ประโยคนี้ของเขาตรงไปตรงมา พูดแสดงอย่างชัดเจน นิวราได้ยิน สีหน้าก็ซีดลงไปเล็กน้อยทันที
เป็นไปได้มั้ย ที่ภวินท์ก็สงสัยในตัวเธอแล้ว?
เธอไม่ทันได้ตอบ ผู้ชายก็หันหน้ามาแล้ว มองมาทางเธอด้วยสีหน้าซีเรียส “เข้าใจมั้ย?”
นิวราเลิ่กลั่ก พูดอะไรไม่ออก
เธอสูดหายใจเข้าลึก กัดริมฝีปาก น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง “พี่วิน ฉันไม่เคยทำอะไรเลยจริงๆ”
เวลานี้ นอกจากกัดฟันไม่ยอมรับ เธอก็ไม่มีวิธีอื่นแล้ว
นัยน์ตาของภวินท์มีแสงสลัว มองเธออย่างลึกซึ้ง และพูดออกมาเสียงเข้ม “แบบนั้นก็ดี”
พูดประโยคนี้แล้ว เขาก็หันไป และไม่พูดอะไรอีก
นิวราแอบถอนหายใจ เมื่อก้มหน้า ถึงพบว่าตนกำลังกุมชายเสื้อตัวเองอยู่ ไม่รู้เลยว่าชายเสื้อยับตอนไหน
ไม่นาน รถก็ได้มาถึงคฤหาสน์ นิวราลงจากรถ มองดูภวินท์ที่อยู่บนรถไม่มีปฏิกิริยาอะไรสักนิด จึงเอ่ยถาม “พี่วิน วันนี้พี่อยู่เป็นเพื่อนฉันได้มั้ย ฉันกลัว......”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...