ธีทัตใจเต้นแรง มองไปยังพนักงานสาวด้วยความตกใจ และถามว่า “เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ?”
พนักงานสาวใบหน้าซีดลง ตอบด้วยเสียงสั่นเครือว่า “มะ..มะ..เมื่อกี้นี้ ..จู่ ๆ ก็มีผู้ชายสองคนเดินเข้ามา แสดงตัวว่าเป็นตำรวจจะมาจับคนไป พวกเราไม่รู้จะทำอย่างไรดี ..สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็ถูกเอาตัวไป...”
ทันใดนั้นธีทัตก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า
รีบก้าวเท้าออกไปทันที หลังออกมาจากร้าน เขาพยายามมองซ้ายมองขวา แต่ก็ไม่เห็นเงาของญาธิดาเลย
ดูเหมือนว่าเธอจะโดนคนลักพาตัวไปจริง ๆ !
เขาเกิดมีลางสังหรณ์แปลก ๆ ขึ้น คนที่ทำอย่างนี้ได้มีแค่สองคนเท่านั้น ถ้าไม่ใช่ภูผาแล้วล่ะก็ ต้องเป็นไอ่ภวินท์แน่ !
ธีทัตขบฟังแน่นด้วยความโกรธ เค้าควักโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรไปยังหมอก “มีคนลักพาตัวธิดาไป ลองตรวจสอบดูหน่อยว่าคนทำมันเป็นใคร!”
หลังจากนั้นเขาก็รีบวางสายและโทรหาหมายเลขต่อไปทันที เขาโทรออกอยู่หลายครั้งจนกระทั่งมีคนรับสาย
ปลายสายคือเสียงของภูผาที่เหมือนจะไม่ค่อยอยากคุยด้วยเท่าไหร่ “คุณธีทัต มีอะไรรึเปล่า?”
จิตใจของธีทัตเต็มไปด้วยความโกรธ เขาพยายามพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาเพื่อไม่ให้มีใครจับสังเกตถึงความวิตกกังวลได้ “คุณจับตัวญาธิดาไปรึเปล่า?”
ปลายสายเงียบลงพักหนึ่ง ก่อนที่เขาจะหัวเราะเล็กน้อยแล้วพูด “คุณธีทัต ผมไม่มีความจำเป็นต้องโกหกคุณ และผมยังจำสัญญาที่ให้ไว้กับคุณได้”
ธีทัตกดเสียงต่ำ ถามกลับอย่างเย็นชาว่า “สิบนาทีที่แล้วเธอถูกคนลักพาตัวไป แน่ใจนะว่าคุณไม่ได้เป็นคนทำ?”
“ต้องไม่ใช่ผมอยู่แล้ว” ภูผาพูดอย่างสบาย ๆ “ผมจะจับเธอมาทำไมล่ะ?”
ธีทัตสูดหายใจเข้าลึก ๆ ถามต่อว่า “แล้วไอ่ภวินท์ล่ะ คุณจับตัวมาได้หรือยัง?”
ได้ยินคำถามนี้ ภูผาก็เงียบไป เขาตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาลงว่า “ยัง”
ธีทัตขมวดคิ้ว “ผมว่าลูกน้องของผมได้บอกที่อยู่ของมันกับคุณไปแล้วนะ ทำไมถึงจะจับตัวไม่ได้อีก”
ภูผาสูดหายใจอย่างเยือกเย็น “คุณคิดว่าผมไม่อยากหรือไง ? ตอนที่ผมนำคนไปที่นั่น มันก็หนีไปก่อนแล้ว”
เสียงของเขาต่ำลง ไม่กี่วิต่อมาเขาก็พูดขึ้น “คุณบอกว่าญาธิดาถูกคนลักพาตัวไปใช่รึเปล่า? ผมว่าต้องเป็นฝีมือของภวินท์นั่นแน่”
ได้ยินดังนั้น ธีทัตขมวดคิ้วพลางลังเลใจเล็กน้อย และถามว่า “แล้วจะหาตัวมันเจอได้ยังไง?”
ตอนนี้ภวินท์ก็ไม่ต่างจากคนตาย ถ้าขนาดภูผายังตามหาเขาไม่ได้ จะนับภาษาอะไรกับเขาเอง
“ถ้าผมรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ผมคงลงมือไปแล้ว” ภูผาหัวเราะอย่างเย็นชา “แต่เป็นไปได้ว่ามันอาจจะได้ความช่วยเหลือจากหลุยส์ หากไม่มีใครช่วยมันไว้ มันคงจะตายไปแล้ว”
ได้ยินดังนั้น แววตาของธีทัตก็เฉียบคมขึ้น พูดกลับไปว่า “ผมรู้แล้ว ขอบคุณมาก”
หลังพูดจบเขาก็วางสายไป ออกไปจากห้างแห่งนี้ และโทรเรียกลูกน้องให้มารวมตัวกัน
แม้ว่าเขาจะยังไม่แน่ใจว่าใช่ภวินท์หรือไม่ที่จับตัวญาธิดาไป แต่เขารู้ดีว่าการปล่อยให้ญาธิดาติดต่อกับภวินท์เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เขาจะต้องหาทางหยุดมันให้ได้
พริบตาเดียว เวลาก็ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ญาธิดาลืมตาตื่นขึ้นก็พบว่าตัวเธออยู่ในห้องมืด ๆ ที่มีเพียงแสงสลัว ๆ มือและเท้าของเธอถูกมัดแน่นติดไว้กับเก้าอี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...