ญาธิดาเดินกลับห้องทำงานอย่างหดหู่ และนั่งเก้าอี้ก้นยังไม่ทันจะร้อนเลย ก็มีคนผลักประตูห้องเธอเข้ามาทันที
พิชญ์สินียืนอยู่ตรงประตู พลางมองและถามญาธิดา “เป็นไงบ้าง? จัดการเรียบร้อยแล้วใช่มั้ย?”
ญาธิดาหมดอารมณ์ จะตอบรับตามน้ำไป “อืม”
พิชญ์สินีตกใจอยู่บ้าง “ประธานภวินท์กลับมาแล้วเหรอ?”
“อืม”
พลางเห็นญาธิดาพูดไม่เกินสองคำ พิชญ์สินีอ้าปากพูดอย่างไม่พอใจ “นี่เธอกำลังหมายความว่ายังไง? เรื่องงานคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?”
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จนตั้งสติได้ จึงหันมาทางพิชญ์สินี และพูดเน้นย้ำทุกถ้อยคำ “ไปต้อนรับคุณคณินแล้ว และจัดการให้เขาไปอยู่ในห้องรับรอง สิ่งที่ฉันควรทำก็ทำทั้งหมดแล้ว ท่านประธานภวินท์ก็มาแล้ว ส่วนเรื่องพวกเขาพูดคุยกันว่ายังไงกันฉันไม่รู้เรื่องเลยค่ะ”
เมื่อได้ยินเธอพูดเช่นนี้ พิชญ์สินีแสดงความไม่พอใจออกนอกหน้า แต่กลับไม่สามารถตอกกลับได้
เธอเคยได้ยินมาตั้งนานแล้วว่าคณินเป็นคนเจ้าชู้ประตูดินปากว่ามือถึงตลอด และมีข่าวลือหนาหูเรื่องการชอบรังแกคน ดังนั้นเธอจึงจงใจโยนงานเผือกร้อนนี้ให้กับญาธิดา แค่อยากมองเห็นอับอายของเธอ ทว่าไม่คิดเลยว่าท้ายที่สุดแล้วเรื่องนี้ไม่ได้เป็นไปตามที่เธอคาดการณ์เอาไว้
เมื่อมองถึงประเด็นนี้แต่กลับไม่มีความคืบหน้าอะไร เธอทำได้แค่เปลี่ยนประเด็นหัวข้อเรื่องเท่านั้นเอง “แล้วรายงานสถานการณ์การเข้างานทำเสร็จแล้วหรือยัง? ฉันรีบใช้”
ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ จึงตอบไปตามความจริง “เมื่อเช้าคุณเพิ่งเอามาให้ฉันเอง ตอนบ่ายก็มีงานอื่น เวลากระชั้นชิดเกิน ยังทำไม่เสร็จ”
พิชญ์สินีได้ยินดังนั้น พลางพูดเสียงเย็นชาใส่ “คุณเร่งๆ ให้หน่อยแล้วกัน”
พูดจบ เธอก็หันหลังกลับ พลางเดินจ้ำอ้าวออกจากห้องทำงานทันที
เสียงบานประตูปิดดัง “ปึง” ญาธิดานั่งลงหน้าโต๊ะทำงาน อารมณ์ยังไม่มีท่าทางดีขึ้นสักนิด
เมื่อคิดถึงภวินท์ เธอก็เหมือนกับไร้จิตวิญญาณ ร่างกายกะปลกกะเปลี้ยไม่สามารถเรียกพลังงานกลับมาได้
ท้ายที่สุดก็ทนมาถึงเวลาเลิกงาน ญาธิดากลับมาถึงบ้าน เดิมก็อยากจะขอคำแนะนำจากป้าจันทร์ว่าจะทำยังไงถึงทำให้ภวินท์เขาหายโกรธได้ ทว่าหลังจากสอบถามไปแล้ว เธอถึงรู้ว่าคืนนี้ภวินท์ไม่กลับบ้าน
เดิมยังคิดว่าแค่คืนเดียว ทว่าใครจะรู้ว่า สามวันติด ภวินท์ไม่กลับมานอนที่บ้านเลยสักวัน
ดูเหมือนว่าครั้งนี้ เขาโกรธเธอจริงๆ
สามวันนี้ต่างยุ่งตลอดทั้งสามวัน เธอยุ่งหัวหมุนกับงานในแผนกอยู่ตลอด การได้พบเจอกับภวินท์นั้นก็มีจำนวนน้อยครั้งจนสามารถนับนิ้วได้ แต่เป็นเพียงการพบเจอในบริษัทเพียงบางครั้งคราวทั้งสิ้น และกล่าวทักทายกันทั่วไปเท่านั้น
ญาธิดาหาโอกาสนับครั้งไม่ถ้วน ท้ายที่สุดทางแผนกมีเอกสารฉบับหนึ่งที่ต้องเอาไปส่งให้สำนักงาน CEO เธอจึงอาสาไปส่งเอกสารเอง
เธอเองก็ไม่ได้ร้องขอเรื่องอื่น การที่ได้พบเจอกับภวินท์สักครั้ง ได้พูดคุยหลายประโยคก็ยังดี
ญาธิดาหนีบเอกสาร เธอกอดอารมณ์ความตื่นเต้นเอาไว้และเดินมุ่งหน้าไปยังห้องทำงาน CEO จังหวะที่เพิ่งมาถึงประตูห้องทำงานของCEOนั้น ก็เจอกับนีราภา
เมื่อเหมือนว่าเธอออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ทั้งสองคนสบตากัน ญาธิดาเบนสายตาไปอีกทางหนึ่ง พลันเดินไปทางห้องทำงานภวินท์ทันที
“รอเดี๋ยว”
วินาทีที่เดินสวนกัน เธอกลับถูกเรียกรั้งเอาไว้อย่างกะทันหัน
ญาธิดาหันศีรษะกลับไปมองนีราภา “ทำไมเหรอ?”
เวลานี้เมื่อมองมาที่ตัวของนีราภา เธอปฏิบัติตัวด้วยอารมณ์ปกติ ไม่คาดหวังและไม่ได้คิดเยอะ
ราวกับมีความรู้สึกหวาดหวั่นต่อญาธิดาอยู่ในใจบ้าง น้ำเสียงนีราภาแสดงความลังเลเล็กน้อย แต่ยังคงแสดงท่าทีเย็นชาเล็กน้อย “คุณจะเข้าไปทำอะไร?”
ญาธิดาชูเอกสารที่อยู่ในมือ “ส่งเอกสารสิ”
นีราภายื่นมืออกมา “เอามาให้ฉัน ฉันไปส่งเอง”
ญาธิดาเอาเอกสารที่อยู่ในมือหลบหลีก พลางพูดอย่างแผ่วเบา “มีเรื่องบางอย่างที่ต้องรายงานเล็กน้อย ฉันเข้าไปเองจะดีกว่า”
พูดจบ เธอไม่รอให้นีราภาพูดอะไรต่อ พลางเดินปรี่มุ่งหน้าไปทันที
สีหน้านีราภาในชั่วขณะนั้นเปลี่ยนเป็นย่ำแย่มาก เมื่อเธอหันศีรษะกลับมานั้น พลางจ้องมองแผ่นหลังญาธิดาด้วยอาการกินเลือดกินเนื้อ
ถึงอย่างไรต้องมีสักวันหนึ่ง ที่เธอต้องเอาโทษทันณ์ก่อนหน้านี้ที่ตัวเองได้รับตอบแทนเธอให้สาสม!
ญาธิดาเดินมาถึงประตูห้องทำงาน พลางชูมือเคาะประตู เมื่อได้ยินเสียงภายในห้อง ถึงได้ผลักประตูเข้ามา
เธอเดินเข้ามา จึงเห็นว่าภวินท์กำลังนั่งเปิดเอกสารอ่านอยู่ที่หน้าโต๊ะทำงาน
เธอสูดลมหายใจลึกๆ “ประธานภวินท์ นี่คือเอกสารรายงานของแผนกธุรการที่คุณต้องการค่ะ”
ภวินท์ได้ยินเสียงแล้ว พลางหยุดมือที่กำลังวุ่นวายอยู่ทันที พลางช้อนสายตามองเธอ “อืม วางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ”
“ได้ค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...