ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 546

ย่านที่พักคนร่ำรวยอันลึกลับแห่งหนึ่งในเมืองJ วิลล่าหลังหนึ่งตั้งอยู่ทางมุมทิศตะวันออกเฉียงใต้ ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางป่าไม้เขียวขจีที่ดูไม่สะดุดตามากนัก

รถยนต์สีดำธรรมดาคันหนึ่งขับมาถึงหน้าประตูวิลล่า รถชะลอตัวและหยุดลงอย่างช้า ๆ ไม่นาน พี่เข้มกับพยัคฆ์ก็ลงมาจากบนรถ พี่เข้มเดินอ้อมมาอีกฝั่งของรถ เปิดประตูออกและเชิญหญิงชราลงมาจากรถ

หลังจากคุณย่าผ่านเหตุการณ์ทั้งหมดมา บวกกับตอนอยู่บนรถก็ได้ยินพวกพี่เข้มพูดว่าพวกเขาเป็นคนของภวินท์ แต่เธอก็ยังตกใจมากอยู่ดี และยังคงสะดุ้งกลัวมาตลอดทาง

ประตูรถถูกเปิดออก เธอมองออกไปด้านนอกมองบ้านเรือนที่ไม่คุ้นเคย และกำลังลังเลว่าจะลงไปดีไหม และในเวลานี้เอง ประตูเหล็กก็ถูกเปิดออก ใบหน้าสดใสและคุ้นเคยปรากฏขึ้นตรงหน้าเธอ

ทันใดนั้น คุณย่าก็ดีใจมาก ขอบตาของเธอรื้นน้ำตา และรีบก้าวลงมาจากรถทันที “ธิดา!”

“คุณย่า!” ญาธิดารีบก้าวเข้าไปพยุงเธอ พอได้เห็นหน้าเธอก็อดอยากจะร้องไห้น้ำตาไหลออกมาไม่ได้

คุณย่ามองเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ “นี่เรื่องจริงใช่ไหม? วินกำลังรอฉันอยู่จริง ๆ เหรอ?”

ญาธิดาพยักหน้าอย่างจริงจัง “เขากำลังรออยู่ข้างในค่ะ เดี๋ยวหนูพาท่านไปนะคะ”

เมื่อหญิงชราได้ยินแบบนั้น เธอรีบเดินออกไปข้างหน้าอย่างร้อนรน ใบหน้าของเธอแสดงให้เห็นการผ่านโลกมาอย่างโชกโชนตามอายุของเธอ

เมื่อคิดว่าอีกเดี๋ยวหลังจากคุณย่าเข้าไปด้านในแล้วต้องเห็นภวินท์ในสภาพที่นั่งอยู่บนรถเข็นแล้ว ญาธิดาก็ชะลอฝีเท้าเดินช้าลงโดยไม่รู้ตัว และเริ่มรู้สึกเหมือนจะทนดูต่อไปไม่ได้ขึ้นมา

ถ้าเห็นหลานชายตัวเองในสภาพแบบนั้น คุณย่าคงจะเจ็บปวดใจมากแน่ ๆ

แต่ถึงจะไม่อยาก คุณย่าก็รีบเดินไปจนถึงประตูใหญ่แล้ว หลังจากก้าวเข้าไปเธอก็เห็นภวินท์ที่กำลังนั่งอยู่บนรถเข็น

เขาสวมเสื้อสเวตเตอร์ถักสีขาวนวล กางเกงขายาวสีน้ำตาล ไม่ได้แต่งองค์ทรงเครื่องอะไร ผมของเขายุ่งเล็กน้อย แต่งตัวแบบสบาย ๆ แต่มันกลับทำให้ร่างผอมบางของเขาดูอ่อนโยนขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก เมื่อเห็นคุณย่า บนใบหน้าของเขาก็เผยรอยยิ้มผ่อนคลายแบบที่ไม่ค่อยเผยให้เห็นบ่อย

วินาทีที่คุณย่าเห็นเขา เธอได้แต่ยืนนิ่งอยู่กับที่ พูดอะไรไม่ออก จนกระทั่งภวินท์เรียกคุณย่า เธอถึงได้ค่อย ๆ เรียกสติของตัวเองกลับมา

เมื่อได้เห็นเขานั่งอยู่บนรถเข็น ดวงตาของหญิงชราสั่นไหว เพียงไม่นานน้ำตาก็ไหลออกมา เธอก้าวออกไปข้างหน้าอย่างลังเล มือสองข้างสั่นเทาไม่กล้าแตะตัวเขาราวกับว่ากลัวจะทำให้เขาผุพังยังไงอย่างนั้น “วิน...”

“คุณย่า ผมยังมีชีวิตอยู่ครับ” ภวินท์เอื้อมมือออกไปจับมือสองข้างของหญิงชราไว้ และพูดเบา ๆ ว่า “ไม่ต้องห่วง ผมไม่เป็นไร”

“แต่ว่าขาของหลาน...”

คุณย่าอายุปูนนี้แล้ว มีเหรอจะไม่เข้าใจ นับตั้งแต่ที่เห็นเขานั่งอยู่บนรถเข็น ในใจของเธอก็พอจะเข้าใจเรื่องนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว

ไม่นานคุณย่าก็เข้าใจ แล้วถามเขาว่า “ภูผาเป็นคนทำใช่ไหม? ใช่เขาใช่ไหม?”

ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร

“บาปกรรม! บาปกรรมแท้ ๆ ! ถ้าตอนนั้นพ่อแกไม่พาผู้หญิงคนนั้นกลับมาก็คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น...”

ญาธิดายืนอยู่ข้าง ๆ เธอยืนมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าเหมือนเป็นคนนอก และได้แต่รู้สึกเจ็บปวดในใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

นึกถึงเมื่อห้าปีก่อน ตอนที่เธอยังอยู่ STN Group เธอคิดว่าตระกูลสถิรานนท์มีทั้งอำนาจ มีทั้งเงิน เสื้อผ้าอาหารไม่เคยต้องกังวล อำนาจล้นฟ้า แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าครอบครัวแบบนี้จะมีเรื่องความคับแค้นใจเข้ามาพัวพันในครอบครัว ตรงกันข้ามครอบครัวที่ยิ่งเรียบง่ายยิ่งมีความสุข

ท้ายที่สุดหญิงชราก็ยังไม่สามารถยอมรับความจริงที่ว่าหลานชายผู้สมบูรณ์แบบของเธอต้องมาขาหักขาเสียแบบนี้ บวกกับความเครียดความกดดันที่เข้ามากระทบอารมณ์ในช่วงนี้ เพียงไม่นานร่างกายของเธอก็ทนไม่ไหวและหมดสติไป

หลังจากส่งคุณย่าไปที่ห้องนอนแล้ว ไม่นานหลุยส์ก็เรียกคุณหมอประจำครอบครัวมาช่วยตรวจอาการ หลังจากได้ทานยาแล้วอาการก็ดีขึ้น

ผ่านไปกว่าสองชั่วโมง ท้องฟ้ายิ่งมืดลงเรื่อย ๆ ภายในวิลล่าก็ค่อย ๆ เงียบลงเช่นกัน

ด้านข้างห้องอาหารที่อยู่ชั้นหนึ่งมีบาร์เล็ก ๆ ที่สร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ ข้างในเต็มไปด้วยไวน์ชั้นดีที่หลุยส์สะสมไว้ส่วนตัว

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์