ขณะที่กำลังพูด เขาก็เหลือบไปมองพายุที่อยู่ข้าง ๆ ด้วยแววตาเย็นชามาก
พายุเข้าใจในทันที เขาก้าวเข้าไปคว้าข้อมือของนิวราและควบคุมข้อมือของเธอจากด้านหลัง เขาจับมือของเธอก่อนจะลากมีดปอกผลไม้วาดผ่านแก้มของเธอ
นิวราไม่ทันรู้ตัว เธอรู้สึกปวดแสบที่แก้มของตัวเองขึ้นมากะทันหัน ก่อนจะกรีดร้องออกมาด้วยความตื่นตระหนก หน้าซีดขาวไปด้วยความกลัว และพยายามเบี่ยงใบหน้าออกไปด้านข้างอย่างสุดกำลัง
“อย่า...อ๊าย! อย่า!”
นิวราดิ้นอย่างแรงจนหลุดจากพายุ และรีบวิ่งออกไปด้านข้างด้วยความตื่นตระหนก แต่เท้ากลับลื่นและล้มลงไปกับพื้นเสียก่อน
หลังจากนั้นเธอก็ไม่สนใจสิ่งอื่นใดอีก รีบยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาปิดแก้มของตัวเองอย่างรวดเร็ว พลางส่ายหน้าไปมาด้วยความหวาดกลัว “อย่าแตะต้องหน้าฉันนะ! อย่า!”
เธอเอามือที่ปิดแก้มออกมาอีกครั้ง เมื่อเห็นเลือดบนฝ่ามือ ใบหน้าของเธอก็ซีดเผือดด้วยความตกใจ เธอรีบหยิบโทรศัพท์ออกมาด้วยความตื่นตระหนกและใช้หน้าจอโทรศัพท์เป็นกระจกสะท้อนมองดูใบหน้าของตัวเอง เมื่อเห็นว่าบนแก้มขวาของเธอมีรอยข่วนเล็กน้อยจากคมมีดผลไม้ แผลเล็กมากและไม่ลึก มีเลือดออกเพียงเล็กน้อย
เธอสูดหายใจเข้า ก่อนที่ความโกรธจะปะทุออกมา เธอเงยหน้าขึ้นมองไปทางพายุอย่างโกรธเคือง พลางกัดฟันพูดว่า “แกบ้าไปแล้วหรือไง! กล้าดียังไงมาทำกับฉันแบบนี้!”
ทันทีที่เธอพูดจบ เธอก็สัมผัสได้ถึงความเย็นยะเยือกกำลังแผ่ซ่านเข้ามาจากข้างกายของเธอ เธอหันไปมองโดยไม่รู้ตัว ก่อนจะพบกับใบหน้าเยือกเย็นของภวินท์
ความโกรธกำลังปะทุอยู่ในดวงตาเขา ทั้งยังแฝงไว้ด้วยความรังเกียจและรำคาญใจ นิวราตกใจและรีบระงับอารมณ์ที่แสดงออกทางสีหน้าของตัวเองเอาไว้ทันที
ทันใดนั้นเสียงของภวินท์ก็ดังขึ้น “เธออยากตายไม่ใช่เหรอไง? อยากจะควักหัวใจออกมาพิสูจน์ไม่ใช่เหรอ? ทำไมกับอีแค่แผลเล็ก ๆ น้อย ๆ แค่นี้ก็ทนไม่ได้ซะแล้วล่ะ?”
ภวินท์ไม่ไว้หน้าเธอเลยสักนิด เขามองทะลุทะลวงใบหน้าจอมปลอมของเธอจนหมดแล้ว จู่ ๆ ใบหน้าของนิวราก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง และมันดูน่าเกลียดน่ากลัวมาก
เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว เธอรู้ดีอยู่แก่ใจว่าไม่ว่าตอนนี้เธอจะพยายามแก้ตัวหรืออธิบายยังไง ภวินท์ก็คงไม่เชื่ออีกต่อไปแล้ว
เธอกัดฟันแน่นไม่พูดไม่จา และยันตัวลุกขึ้นยืน เพื่อรักษาศักดิ์ศรีสุดท้ายของตัวเธอเอง เธอจึงพูดออกมาว่า “พี่วิน ถ้าพี่ไม่เชื่อนิวก็ตามใจ นิวยังคงยืนยันในสิ่งที่นิวพูดไปเมื่อกี้ และค่ารักษาพยาบาลของญาธิดานิวจะจ่ายเอง”
หลังจากพูดจบเธอก็เดินตรงออกไปด้านนอกโดยไม่รอให้ภวินท์พูดอะไรอย่างอื่นอีก
ภวินท์กัดฟันแน่น ความโกรธปะทุอยู่ในใจของเขาและมันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
เพียงไม่นานเสียงไซเรนของรถพยาบาลก็ดังมาจากด้านนอก ตามด้วยพยาบาลสองสามคนลงมาจากรถและถามอาการและสถานการณ์เบื้องต้น หลังจากตรวจดูอาการบาดเจ็บของญาธิดาแล้ว พวกเขาก็พาญาธิดาไปขึ้นรถพยาบาลและตรงไปที่โรงพยาบาลส่วนกลางทันที
ภวินท์ให้พายุขับรถตามไปที่โรงพยาบาล แต่เมื่อไปถึงกลับถูกหมอห้ามให้รออยู่ด้านนอก คุณย่าก็ตามมาด้วยเหมือน เธอเดินไปเดินมาด้วยความกังวลและบ่นพึมพำอยู่ตลอดเวลา
ผ่านไปกว่าครึ่งชั่วโมง ภวินท์มองคุณย่าที่ยังกระสับกระส่ายกระวนกระวายใจไม่หยุด เห็นแล้วก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา “คุณย่า ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับ เธอจะไม่เป็นอะไร”
พูดจบเขาก็ยื่นมือออกไปและจับมือของคุณย่าเอาไว้เบา ๆ
แต่คุณย่ากลับไม่ยอมรับ แถมยังสะบัดมือของเขาออกทันที แล้วพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า “เรื่องในวันนี้ถ้าไม่ใช่เพราะแกมันก็คงจะไม่เกิดขึ้นหรอก!ทำไมแกไม่ลองคิดดูบ้างว่าเสือสองตัวมันอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ ห้องหนึ่งห้องยากจะให้เมียสองคนอยู่ แกปล่อยให้พวกเธอสองคนอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน ไม่มีเรื่องสิถึงแปลก!”
พอดิ้ยนแบบนั้น ภวินท์ก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที เดิมทีเขาไม่ได้ตั้งใจจะให้นิวราเข้ามา แต่เพราะเธอเอาแต่ร้องไห้งอแง พอเขานึกถึงความสัมพันธ์เก่า ๆ ก็เลยทำให้เขาใจอ่อน แต่กลับกลายเป็นว่าการให้อภัยที่เขามีต่อนิวรากลับเป็นตัวให้ท้ายให้เอทำในสิ่งที่มันแย่ลง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...