นิวราโมโหแทบจะระเบิด เธอทนไม่ได้กับการที่คนอื่นปฏิบัติกับเธอเช่นนี้ โดยถูกคนอื่นด่าตี ซ้ำยังเกือบถูกคนล่วงเกิน!
เธอมองแผ่นหลังที่จากไปของคุณป้อง แล้วกัดฟันแน่น จากนั้นก็ด่าด้วยความโกรธ “สารเลว!”
ขณะที่เธอพูด จู่ ๆ รู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย เมื่อเงยหน้าขึ้น ก็เห็นภูผากำลังยิ้มตาหยีจ้องมองเธออยู่ด้านข้าง
นิวรากวาดตามองเขาแวบหนึ่งยังไม่สบอารมณ์ จากนั้นก็จะสาวเท้าเดินโดยไม่พูดไม่จา
ถึงแม้ว่าก่อนหน้านั้นตระกูลวรโชติกับตระกูลสถิรานนท์จะไปมาหาสู่กันอย่างไม่ขาดสาย ตอนที่ภูผาเข้ามาในประตูบ้านของตระกูลสถิรานนท์ พวกเขาก็รู้จักกันแล้ว เพียงแต่ว่าเธอไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีต่อภูผา ก่อนหน้านี้เขาติดตามอยู่ด้านหลังของภวินท์ตลอด ดังนั้นจึงรู้สึกเฉยๆ กับเขา
ต่อมาภูผาเข้ามาแทนที่ภวินท์ แล้วยังมักหลอกให้ชนัดพลทำงานให้กับเขา นิวราจึงยิ่งรู้สึกไม่มีความประทับใจในตัวเขา
แต่ว่าตอนนี้เขายื่นหน้าออกมาช่วยเธอ เธอรู้สึกผิดคาดเล็กน้อย
และในเวลานี้ ภูผามาพร้อมกับเสียงหัวเราะเบาๆ ลอยดังขึ้น “รีบร้อนกลับเหรอ”
นิวราชะงักเท้าทันใด แล้วหันหน้ามามองเขาอย่างเย็นชา จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร “ไม่เช่นนั้น”
จะอยู่ที่นี่ให้คนอื่นตบตีเหรอ
ภูผายิ้มเบาๆ “อย่างนั้นก็ต้องรอสักครู่”
พลางพูดเขาพลางยกมือขึ้นยื่นมาทางแก้มของเธอ นิวราตกใจ ยังไม่ได้ตั้งตัว ก็ถูกชายหนุ่มใช้นิ้วชี้ลูบปลาสเตอร์บนใบหน้าเบาๆ ที่หลุดออกมาครึ่งหนึ่งให้เรียบ จากนั้นชายหนุ่มก็กล่าวเบาๆ “ใบหน้านี้ไปโดนอะไรมา เสียโฉมไหม”
ไม่เอ่ยถึงเรื่องใบหน้ายังรู้สึกค่อยยังชั่ว แต่เมื่อเอ่ยถึงใบหน้านิวราก็นึกถึงเรื่องนี้ที่เกิดขึ้นตอนไปหาภวินท์ เธอโกรธจนกำหมัดแน่น ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน แทบอยากจะไปหาญาธิดาทันที แล้วผ่าเธอออกเป็นสองท่อน
หากไม่ใช่เป็นเพราะเธอ เธอก็คงจะไม่ต้องเกือบจะเสียโฉม และก็คงไม่เกิดเรื่องราวหลายอย่างตามมามากมาย
เห็นใบหน้าที่ขุ่นเคืองไม่มีความสุขของหญิงสาว แม้ว่าเธอจะไม่พูด ภูผาก็พอจะเดาออกอย่างได้ เขายิ้มแล้วก็กล่าวถาม “เห็นที คงจะเกี่ยวข้องกับพี่ใหญ่”
คำพูดนี้ทิ่มแทงใจดำ นิวราเหมือนกับถูกจี้โดนจุดอ่อน เธอสูดลมหายใจเข้าแล้วหันหน้าไปมองทางภูผา จากนั้นกล่าวอย่างเย็นชา “แล้วเกี่ยวกับคุณยังไง”
เธอส่งเสียงฮึดฮัด นึกอะไรบางอย่างได้ จึงเอ่ยปากถาม “ครั้งก่อนพ่อของฉันต้องการให้ฉันไปหาจิตแพทย์ คุณเป็นคนหามาล่ะสิ ต่อไปเรื่องของฉัน คุณอย่าก้าวก่าย!”
ทิ้งประโยค เธอสาวเท้าจะจากไป ใครจะไปรู้ว่าภูผาส่งเสียงหัวเราะออกมา “พวกเราสองคนทำไมต้องแข็งกระด้างใส่กันด้วย ว่าไปแล้ว พวกเราถือว่าเป็นเพื่อนสหายหลุมในสงครามนะ”
นิวราขมวดคิ้ว หันไปมองเขา “คุณหมายความว่าอย่างไร”
ภูผาประกายแสงใต้ดวงตา “คุณไม่อยากขจัดญาธิดาเหรอ”
ประโยคนี้ ใช้ได้ผลดีกว่าคำพูดอื่นใดๆ นิวราสีหน้าเปลี่ยน จากนั้นสายตาก็แปรเปลี่ยนเป็นลึกล้ำและซับซ้อนขึ้น
ภูผาเก็บความเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของเธอไว้ใต้ตา มุมปากกระตุกเบาๆ “บังเอิญจัง ผมก็เหมือนกัน”
ค่ำคืนเริ่มมืดลง เมื่อญาธิดาตื่นขึ้นมา ก็เลยเวลาอาหารเย็นแล้ว
ขณะที่เธอขยับตัวนั้น จู่ๆ หางตาเหลือบไปเห็นอะไรบางอย่าง เธอเอียงหน้าไปดู ถึงได้สังเกตเห็นว่าภวินท์นั้นอยู่ข้างเตียง เขานั่งอยู่บนเก้าอี้เข็น หลับตาลงเล็กน้อย ราวกับว่ากำลังนอนหลับ
ญาธิดาหรี่ตาลง ถึงเห็นแขนของเขาได้พันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผ้าพันแผลสีขาวพันเป็นชั้นๆ
เธอหายใจเข้าลึก กำลังครุ่นคิดว่าจะเอ่ยปากเรียกเขาให้ตื่นดีหรือไม่ เพราะเธอหิวมากจนกระเพาะจะทะลุอยู่แล้ว และอดทนต่อไม่ไหวแล้วจริงๆ
ใครจะไปรู้เวลานี้ รถเข็นของชายหนุ่มเกิดขยับ เขาขมวดคิ้วแน่น สีหน้าดูแปลกเล็กน้อย ราวกับกำลังฝันร้าย
ญาธิดามองดูท่าทางกระสับกระส่ายในขณะหลับของเขา จึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ที่แท้เขาที่ภายนอกดูเย็นชา ไม่น่าเชื่อว่าจะมีสิ่งที่ทำให้เขากลัวและเป็นกังวลด้วยเช่นกัน
“ไม่!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...