ร้านแพลนท์เวิลมีทั้งหมดสี่ชั้น ด้านล่างชั้นสามเป็นกำแพงสีขาวบริสุทธิ์ หน้าต่างโปร่งแสง และชั้นบนสุดเป็นกระจกใสเหมือนห้องกระจกขนาดใหญ่ที่สามารถมองเห็นความเขียวชอุ่มได้จากภายนอก ภายในมีพืชพรรณนานาชนิดพันกัน ค่อนข้างสะดุดตาทีเดียว
เมื่อชวิศที่เดินเข้ามาในลาน ญาธิดาก็ถูกดอกไม้พืชพันธุ๋ทั้งสองข้างดึงดูดความสนใจไปแล้ว นางอดไม่ได้พูดออกมาว่า “นี่คือต้นกระบองเพชรชนิดไหนกัน เพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรกเลย”
สองข้างทางของถนนหินมีกระบองเพชรหลากหลายชนิด มีทั้งกระบองเพชรกลมและกระบองเพชรยาว มีทั้งสูงและเตี้ย บางต้นก็เริ่มมีดอกสีเหลืองอ่อนเบ่งบาน เห็นได้ชัดว่าแตกต่างออกไปจากกระถางเล็กที่ปลูกไว้ที่บ้านอย่างชัดเจน
ชวิศยิ้มอ่อนๆ “เข้าไปดูกันเถอะ ด้านในยังมีหลายชนิดที่ยังไม่เคยเห็นนะ”
ญาธิดาได้ยินแล้ว ก็รีบตามเขาเข้าไป
เพิ่งเข้าไป ญาธิดาก็ตกตะลึงกับภาพตรงหน้า ทั้งชั้นเต็มไปด้วยพืชพันธุ์หลากหลายชนิดที่ปลูกเอาไว้ ตรงกลางมีต้นไม้ใหญ่ที่กำลังเบ่งบานแตกกิ่งออกกลับปลูกอยู่ในดิน ด้านข้างยังมีแปลงดอกไม้ด้วย
ทั้งห้องเต็มไปด้วยพืชพันธุ์นานาชนิด บ้างก็ใหญ่และเล็ก บ้างก็รูปทรงแปลกประหลาด บ้างก็มีกลิ่นหอมโชยออกมาจางๆ บ้างก็จัดวางอยู่บนโต๊ะ บ้างก็ปลูกอยู่ในกระถางดอกไม้ ค่อนข้างพิเศษและหาดูยากมาก
ญาธิดาอดไม่ได้พูดว่า “สวยจริงๆ……”
ชวิศมองดูเธอแล้วยิ้ม เลือกโต๊ะแล้วนั่งลง ต่อมาก็ยื่นเมนูอาหารให้เธอ แล้วพูดเสียงเบาว่า “ดูสิอยากดื่มอะไร”
ญาธิดาพยักหน้า รับเมนูที่หน้าปกที่วาดรูปพืชพันธุ์นานาชนิดไว้เต็มไปหมด เปิดข้างในออกช้าๆ ด้านในมีเครื่องดื่มทุกอย่าง ต่างก็ตั้งชื่อด้วยชื่อของพืชพันธุ์ ไม่ซ้ำใครและเต็มไปด้วยความลึกซึ้งด้วย
ไม่นานก็มีคนเดินเข้ามา ยิ้มแล้วทักทายชวิศ “ไอ่วิศ ไม่ได้เจอกันตั้งนานเลยนะ! มาแล้วทำไมไม่มาทักทายล่ะ?”
ต่อมา คนคนนั้นก็มองไปที่ญาธิดา แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “หื้ม สาวสวยคนนี้คือใคร? ดูไม่คุ้นหน้าเลยนะ!”
ชวิศยิ้มแล้วแนะนำว่า “เพื่อนฉันเอง ญาธิดา”
ญาธิดาเงยหน้าขึ้น เห็นชายหนุ่มมีรูปหน้าทรงกลม ใบหน้าใจดีและอ่อนโยน ถึงแม้จะไม่ยิ้มบนใบหน้าก็ยังมีรอยยิ้มแขวนอยู่ตลอดเวลา
ไม่รอชวิศแนะนำ ผู้ชายคนนั้นก็ยื่นมือมาให้ญาธิดาก่อนเลย “สวัสดีครับ ผมดนุช เป็นเพื่อนทหารของชวิศครับ”
ญาธิดายิ้มแล้วจับมือทักทายเขา “สวัสดีค่ะ”
ดนุชพูดอย่างเป็นมิตรว่า “พวกเธอรีบดูสิว่าอยากดื่มอะไร?”
ญาธิดาเลือกเครื่องดื่มที่ขายดีที่สุดในเมนู จากนั้นก็พูดกับดนุชว่า “เอาอันนี้แล้วกัน”
“ฉันเอาเหมือนเดิม”
“ได้เลย รอสักครู่นะครับ” ดนุชพูดแล้ว ทันใดนั้นก็ต่อยหมัดชวิศเบาๆ “ไอ่วิศ ไม่เจอกันนานเลยนะ ไว้นัดกันดื่มสักแก้วสิ!”
ชวิศยิ้มแล้วพูดว่า “ได้อยู่แล้ว ไว้นัดกันนะ”
ดนุชรับเมนูมากลับหลังเดินไปที่เคาน์เตอร์บาร์ ตอนนี้เอง ญาธิดาก็ถึงเห็นว่า ตอนที่ดนุชเดิน มีขาข้างหนึ่งที่พิการอยู่
ชวิศเห็นสายตาของเธอก็พูดอธิบายเสียงเรียบว่า “ดนุชเป็นเพื่อนร่วมรบของผม ก่อนหน้านี้บาดเจ็บจากการปฏิบัติภารกิจ หลังจากนั้นขาก็เป็นแบบนี้แล้ว ไม่สามารถกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้ เขารู้สึกเสียใจและไม่อยากเป็นภาระของพวกเรา เลยขอออกจะกองทัพก่อน กลับมาแล้วก็เปิดร้านนี้ด้วยเงินบำนาญที่กองทัพให้”
ได้ยินดังนี้แล้ว สายตาของญาธิดาก็มีความรู้สึกผิดหวังปรากฏขึ้นมา เธอมองดูรอบๆ แล้วพูดเสียงเบาว่า “คนที่เปิดร้านนี้ได้ ต้องเป็นคนใจดีมากแน่ๆ”
ชวิศหัวเราะ “ก่อนหน้านี้ตอนที่พวกเราปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน นอนในป่าเป็นเดือน เจ้าหมอนี่ก็หลงใหลในพืชพันธุ์ตั้งแต่ตอนนั้นมา ดังนั้นพอกลับมาแล้ว เขาก็เปิดร้านที่เขาใฝ่ฝัน”
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ ฟังเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกใจอ่อนลงทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...