สีหน้าของภูผาคล้ำเขียวและน่าเกลียดในฉับพลัน เขาไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ ตอนเขาได้รับสายจากลูกน้อง ปฏิกิริยาแรกคือเขาถูกเกล้าแก้วตลบหลัง ญาธิดาปรากฏตัวที่โรงพยาบาลเวลานี้ มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแน่นอน!
เขาคิดไว้แล้ว วันนี้ต่อให้จะยากเย็นแค่ไหนก็ต้องเอาคนกลับไปให้ได้ แต่ไม่คาดคิดว่าภวินท์จะปรากฏตัว ยื่นเท้าเข้ามาแส่
เขาระงับอารมณ์ในหัวใจ ฉีกรอยยิ้มพลางมองภวินท์แล้วพูดว่า “พี่ชาย คุณไม่จำเป็นต้องเป็นปฏิปักษ์กับผมไปทุกที่จริงไหม”
ภวินท์ตอบอย่างไม่เห็นด้วย “ไม่จำเป็นต้องเป็นปฏิปักษ์กับนาย แต่นายอย่าพยายามจะยุ่งกับคนของฉัน”
“คนของคุณ?” ภูผายิ้มเยาะและพูดเสียงเบา “เท่าที่ผมรู้ผู้หญิงที่อยู่ข้างในคือญาธิดา เป็นคนที่มีครอบครัว มีสามีมีลูก เธอไปมีความสัมพันธ์แบบนั้นกับพี่ใหญ่ตั้งแต่เมื่อไรกัน”
ภวินท์พูดโดยเปลือกตาไม่กะพริบ “เธอเป็นอดีตภรรยาของฉัน ตราบใดที่ฉันยังมีชีวิตอยู่บนโลกนี้หนึ่งวัน ฉันก็ยินดีจะปกป้องเธอหนึ่งวัน”
เมื่อสิ้นเสียง ความเงียบก็เกิดขึ้นโดยรอบ ไม่มีใครคาดคิดว่าภวินท์จะพูดตรงไปตรงมาขนาดนี้
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง สายตาภูผาก็ฉายแววดูถูก พูดเน้นคำต่อคำ “ต่อให้เป็นแบบนี้ คุณก็ขวางไม่ให้ผมค้นหาคนของผมไม่ได้ไม่ใช่เหรอ เมื่อครู่มีคนเห็นกับตาว่าคนทางฝั่งพวกคุณพาคนของผมเข้าไป ตอนนี้ผมจะพาเธอไป คงจะไม่นับว่ามากเกินไปหรอกนะ”
ภวินท์ได้ยินคำพูดนั้น ไม่ได้ตอบเขาโดยตรงแต่เงยหน้าขึ้นมองพยัคฆ์และถามว่า “ในนั้นนอกจากญาธิดาแล้วยังมีใครอีก”
พยัคฆ์ไม่มีความลังเล ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ในห้องมีแค่พี่ธิดาคนเดียวครับ ตอนนี้เธอไม่ค่อยสบายและต้องการพักผ่อน คนนอกไม่ควรรบกวนเธอครับ”
เมื่อได้ยิน ภวินท์ก็พยักหน้าแล้วมองไปที่ภูผา ถามเสียงเย็นชา “ได้ยินหรือยัง”
ภูผาโกรธจนควบคุมไม่ได้ ความโกรธในสีหน้าระงับไม่อยู่อีกต่อไป “ลำพังแค่คำพูดพวกคุณฝ่ายเดียว จะให้คนอื่นเชื่อได้เหรอ”
ภวินท์ยิ้มและพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “หึ ฉันมองว่านายจงใจมาหาเรื่องมากกว่ามั้ง”
พูดอย่างนั้นแล้วเขาก็เก็บรอยยิ้มบนใบหน้า หรี่ตาลงเล็กน้อย “แทนที่จะมุ่งเน้นไปที่การค้นหาในห้องพักผู้ป่วย ภูผา นายควรไปตรวจสอบลูกน้องในบริษัทของนายมากกว่า ฉันเพิ่งได้ยินมาว่ามีคนในบริษัทพวกนายยอมมอบตัวแล้ว บอกว่าในช่วงหลายปีที่ผ่านมาพวกเขายักยอกเงินจากหลายโครงการ”
ภูผาสีหน้าซีดเผือดไปทันใด เขาขมวดคิ้ว หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเหลือบมองดูโดยอัตโนมัติ และสีหน้าก็เปลี่ยนไปมากอย่างรวดเร็ว
จากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นมองภวินท์ด้วยสายตาที่เย็นชามากอย่างไม่ปิดบัง จากนั้นจับจ้องประตูของห้องพักผู้ป่วยอีกครั้ง และพูดด้วยเสียงที่ชัดเจนและเย็นชาว่า “เกล้าแก้ว เธอหลบซ่อนได้ในตอนนี้ แต่หลบซ่อนไปตลอดชีวิตไม่ได้ วันหนึ่งเธฮต้องเสียใจภายหลังกับการเลือกในวันนี้!”
เข้าทิ้งประโยคนี้ไว้แล้วหันหลังกลับทันที นำพวกลูกน้องจากไปอย่างรวดเร็ว
คนทั้งสองฝ่ายไม่ถูกชะตากัน หลังจากทุกคนมองกันอย่างเย็นชา ก็แยกย้ายกันไปทางใครทางมัน แล้วคนกลุ่มใหญ่ก็หายไปครึ่งหนึ่งในทันที
ในเวลาเดียวกัน ญาธิดาผู้ซึ่งฟังการเคลื่อนไหวภายนอกอยู่ในห้องพักผู้ป่วยโดยตลอดก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เธอก็ไม่คาดคิดว่าจู่ๆ ภวินท์จะมาปรากฏตัว ยิ่งไม่คาดคิดว่าภูผาจะโกรธจนกลับไปได้ในที่สุด
แบบนี้ก็หมายความว่าเกล้าแก้วรอดแล้ว!
เมื่อคิดอย่างนี้ จึงก้มลงไปมองใต้เตียงทันที
เกล้าแก้วกำลังหดตัวเป็นก้อนกลม ซ่อนตัวอยู่ในนั้นไม่ขยับ ราวกับสัตว์ตัวน้อยที่หวาดกลัว นี่ทำให้ญาธิดารู้สึกปวดใจ
เธอค่อยๆ ยื่นมือออกไปพลางพูดเสียงอ่อนโยน “ภูผาไปแล้ว เธอออกมาได้แล้ว”
เมื่อได้ยินดังนั้น เกล้าแก้วพยักหน้า จับมือเธอแล้วมุดออกจากใต้เตียง
วินาทีถัดมา ประตูถูกผลักเปิด จากนั้นภวินท์นั่งรถเข็นเข้ามา ข้างหลังติดตามมาด้วยพยัคฆ์และพายุ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...