เสียทีที่เธอพยายามแก้ตัวเพื่อเขา เสียทีที่เธอคิดว่าเขาเป็นคนที่น่าเชื่อถือและน่าพึ่งพาที่สุด แต่เธอไม่ได้คาดหวังว่าในท้ายที่สุดเขาจะเป็นคนที่ทรยศเธออย่างรุนแรงมากที่สุด!
นี่ถือเป็นการทำลายความไว้วางใจทั้งหมดในใจของคนคนหนึ่ง ทำให้จากนี้ไปเธอจะเชื่อใจใครง่ายๆ ไม่ได้อีก
“ธิดาครับ ในตอนนั้นผมไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นแบบนี้...”
ธีทัตก้าวไปข้างหน้า ยื่นมือออกมาตั้งใจจะรั้งแขนของเธอ แต่ญาธิดาสะบัดมือออก แล้วถอยหลังไปสองก้าวเพื่อรักษาระยะห่างจากเขา พร้อมกับส่ายหน้าแล้วพูดว่า “แต่เมื่อตะกี้คุณยังพูดโกหกฉัน...เรื่องของเกล้าแก้วก็เกี่ยวข้องกับคุณด้วยใช่ไหม”
ธีทัตนิ่งเงียบ เขาไม่อยากยอมรับ แต่จะไม่ยอมรับก็ไม่ได้ เพราะมันเป็นเรื่องจริง และเขาไม่สามารถปิดบังไว้ได้อีกต่อไป แต่ถ้าเขายอมรับ เขาก็จะตกเป็นคนผิดทันที ทุกสิ่งที่เขามีในตอนนี้ก็จะสูญเสียทั้งหมดไปอย่างสิ้นเชิง
“ธิดาครับ ผมรู้ว่าสิ่งที่ผมทำมันผิด แต่ที่ผมทำทั้งหมดนี้เพราะความห่วงใยที่ผมมีต่อคุณ… คุณก็รู้ดี ผมไม่เคยคิดทรยศคุณเลย!”
ญาธิดาเจ็บปวดหัวใจ ก่อนจะพูดเสียงดังขึ้นมาว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันยอมให้คุณไม่ต้องห่วงใยฉันดีกว่า! เพราะฉันทำให้คุณต้องไปทำร้ายคนอื่น คุณคิดว่าแบบนี้ฉันจะนอนหลับอย่างสบายใจได้ยังไง”
เดิมทีเธอก็รู้สึกผิดกับเรื่องของเจ้าอาวาสมากพออยู่แล้ว แต่ตอนนี้พอได้ยินเขาพูดแบบนี้ออกมา เธอยิ่งสั่นเทา ถ้าเป็นอย่างที่ธีทัตพูดจริง ๆ เธอก็จะกลายเป็นฆาตกรที่ทำให้เจ้าอาวาสเสียชีวิต
ความคิดแบบนี้เหมือนกลุ่มของวิญญาณที่กดเธอไว้ จนเธอไม่สามารถยืนตัวตรงได้เลย
“ธิดา...”
ธีทัตก้าวเดินตามเพื่ออยากจะอธิบาย แต่ญาธิดาได้หลับตาลงด้วยความเจ็บปวดเสียใจ ก่อนจะสูดหายใจเข้าลึกแล้วพูดว่า “พวกเราแยกกันเถอะค่ะ”
คำพูดประโยคนี้ ทำให้ธีทัตหยุดฝีเท้าทันที เขามองเธอด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย เหมือนไม่อยากเชื่อ “คุณ...พูดว่าอะไรนะครับ”
“แยกกันอยู่เถอะค่ะ”
ญาธิดาพูดซ้ำประโยคเดิม และยังไม่รอคำตอบจากเขา เธอก็หันหลังกลับ แล้วเดินไปที่ห้องเด็กอย่างรวดเร็ว
ธีทัตยืนตัวแข็งอยู่ที่เดิม และนิ่งเงียบไปเป็นเวลานาน แต่รอจนเขาได้ยินเสียง แล้วเงยหน้าขึ้น ก็พบว่าญาธิดาได้จูงมืออีธานกับเอลล่าเดินออกมาจากห้อง
พวกเธอเดินตรงขึ้นไปที่ชั้นสอง ไม่นานหลังจากนั้น ญาธิดาก็ลากกระเป๋าเดินทางลงมาจากชั้นสอง อีธานกับเอลล่าเดินตามอยู่ด้านข้าง พร้อมกับสะพายกระเป๋านักเรียนอยู่บนหลัง ท่าทางเหมือนเตรียมจะออกจากบ้าน พวกเขาต่างก็ตาแดงก่ำ แต่กลับไม่กล้าพูดอะไร และเดินตามญาธิดาอย่างเชื่อฟัง
คนรับใช้ในบ้านเห็นแบบนี้ ก็พากันตกใจ รีบเข้ามาถาม “คุณผู้หญิงคะ นี่คุณผู้หญิงกำลังจะทำอะไรคะ”
ญาธิดาไม่ตอบอะไร เพียงแค่วางกุญแจลงบนโต๊ะ จากนั้นก็จูงมืออีธานกับเอลล่าตรงไปที่ประตู
พอมองไปที่แผ่นหลังของหญิงสาวที่เต็มไปด้วยความแน่วแน่ ธีทัตเริ่มรู้สึกไม่สบายใจแปลกๆ เขาจึงรีบไล่ตามไปทันที “ธิดา คุณคิดจะทำอะไร ตอนนี้มันดึกมากแล้วนะครับ!”
ญาธิดามองเขานิ่ง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “จากนี้ไป พวกเราตัดขาดกัน”
ในขณะที่เธอพูด มือข้างหนึ่งของเธอถือกระเป๋าเดินทาง แล้วมืออีกข้างหนึ่งจูงมือของอีธานกับเอลล่าไว้ เด็กน้อยทั้งสองคนหันกลับมามองเขาบ่อย งุนงงกับสถานการณ์ในปัจจุบัน แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมาก ได้แต่เดินตามไปเงียบๆ
ธีทัตก้าวไปข้างหน้า แล้วคว้ากระเป๋าเดินทางของเธอไว้ “ธิดาครับ เรามาคุยกันดีๆ อีกครั้งได้ไหม ให้โอกาสผมแก้ตัวสักครั้ง!”
ในใจญาธิดารู้สึกผิดหวังเล็กน้อย เธอมองไปที่เขาด้วยรอยยิ้มเศร้า “ก่อนหน้านี้คุณมีโอกาสมากมายที่จะสารภาพกับฉัน แต่คุณกลับไม่เคยพูด และเพื่อที่จะหลอกฉัน คุณยังหาแพะรับบาปมารับผิดแทนคุณ ธีทัต คุณทำแบบนี้ คุณคิดถึงความรู้สึกของฉันบ้างไหม”
ในตอนนั้นเธอรู้สึกผิดมาก พยายามทุกวิถีทางเพื่อตามหาคนทรยศให้เจอ แต่คิดไม่ถึง ว่าเรื่องทุกอย่าง จะเป็นเพียงเหตุการณ์ที่เขาวางแผนขึ้นมา ไปๆ มาๆ กลับไม่สามารถหนีไปจากแผนการของเขาได้ พูดไปแล้วน่าตลกสิ้นดี
ธีทัตพูดไม่ออก เขารู้ดีแก่ใจ ว่าเรื่องนี้เป็นความผิดของเขาจริงๆ ความผิดพลาดทั้งหมดเกิดจากอารมณ์ชั่ววูบในเวลานั้น เพราะเขาห่วงใย เพราะความหึงหวง ถึงทำให้เขาตัดสินใจผิดพลาดแบบนั้น
ในตอนนี้ถ้าญาธิดายอมตกลงจะคุยกับเขาดีๆ เขาก็จะพยายามชดเชยความผิด แต่ตอนนี้เธอไม่แม้แต่จะเปิดโอกาสให้เขาคุยเลยด้วยซ้ำ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...