ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 641

หลังจากลงมาจากรถของภูผา ญาธิดาจะอยู่ในฤดูหนาวชั่วพริบตา ถึงแม้ด้านนอกจะยังได้ความอบอุ่นจากแสงอาทิตย์ แต่ลมหนาวที่พัดผ่านก็ทำให้เธอรู้สึก เธอเดินไปตามถนนด้วยความสับสนเล็กน้อย ทุกอย่างดูเหมือนจะวุ่นวายไปหมด ทำให้เธอไม่สามารถมีเหตุผลและสงบสติอารมณ์ได้

ในวินาทีนี้ ความสมดุลในใจของเธอได้พังทลายลงอย่างสมบูรณ์แล้ว เธอเชื่อในสิ่งที่ภูผาพูดมาทั้งหมด เพราะเธอรู้จักกับธีทัตมาหลายปี ทำให้เธอรู้จักเขาดีมากเกินไป ความผิดปกติในขณะที่เขาพูด ถ้าเขากำลังร้อนตัวไม่มั่นใจนิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือของของเขาจะปัดกันไปมา เรื่องนี้เธอรู้ดีอยู่แล้ว

และในวิดีโอเมื่อตะกี้นี้ เธอก็เห็นการกระทำที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี

เธอมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าผู้ชายในวิดีโอคือธีทัต แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะทำเรื่องแบบนั้นออกมา การทรยศเธอเป็นแค่เรื่องเล็ก แต่การตัดสินใจของเขานั้นโหดร้ายไม่คำนึงถึงความรู้สึกของใคร เขาที่ปกติมักจะอ่อนโยนและอดทน ใจดีและให้เกียรติคนอื่น แต่คนที่สามารถทำแบบนี้ได้ต้องเป็นผู้ชายที่เห็นแก่ตัว และมีจิตใจที่มืดมนมาก

และนี่คือจุดที่เธอรับไม่ได้มากที่สุด

เธอเดินไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย สติของเธอล่องลอยไปไกล และทันใดนั้น แสงสว่างอันเจิดจ้าและเสียงบีบแตรอันดังก้องก็ดึงสติของเธอกลับมาในโลกของความเป็นจริงทันที

เธอหันไปมองด้วยความตกใจ ก่อนจะพบว่าเธอกำลังยืนอยู่กลางถนนตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ และในขณะนี้ก็เป็นช่วงไฟแดงด้วย คนขับทั้งสองข้างต่างก็หยุดจอดแล้วบีบแตรใส่เธออย่างไม่พอใจ คนขับคนหนึ่งถึงกับเอนตัวออกมานอกหน้าต่าง แล้วตะโกนใส่เธอเสียงดัง “อยากตายใช่ไหม ไม่มีตามองสัญญาณจราจรหรือไง!”

ญาธิดาสะดุ้งตกใจ แล้วได้สติกลับมาทันที เธอรีบเดินไปข้างหน้า และวิ่งผ่านเสียงแตรรถที่ดังก้องไปทั่ว ความเศร้าโศกพุ่งเข้าสู่หัวใจของเธอ จนน้ำตาหลั่งไหลลงมาไม่หยุด

เธอกัดริมฝีปากล่าง กลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลออกมา และในขณะที่เธอไม่รู้ว่าจะไปไหนต่อดี โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นมา

เธอสูดหายใจเข้าลึก แล้วรีบหยิบโทรศัพท์ในกระเป๋าออกมา พอเห็นเบอร์โทรเข้าบนหน้าจอ เธอรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว ก่อนที่จะมือสั่นแล้วกดวางสายไปโดยไม่รู้ตัว

คนที่โทรมาคือธีทัต ไม่รู้ว่าทำไม พอเห็นชื่อ “ธีทัต” เธอก็รู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว และรู้สึกต่อต้านขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

ในตอนนี้ เธอไม่มีทางรับสายของเขาโดยเด็ดขาด ก่อนที่เธอจะคิดได้ ก่อนที่เธอจะตัดสินใจได้ เธอไม่สามารถเผชิญหน้ากับเขาด้วยท่าทีสงบนิ่งได้

ในขณะที่เหม่อลอย เธอเดินมาถึงสวนสาธารณะเล็กๆ แห่งหนึ่ง เธอมองหามุมที่เงียบสงบและนั่งลงบนม้านั่ง สิ่งที่แวบเข้ามาในหัวของเธอคือภาพความทรงจำของธีทัตที่อยู่ข้างๆ เธอตลอดหลายปีที่ผ่านมา ผู้ชายที่ใจดีและโดดเด่นมากขนาดนั้น ทำไมถึงทำเรื่องแบบนั้นออกมาได้?

ก่อนที่เธอจะรู้สึกตัว ท้องฟ้ารอบด้านก็มืดครึ้มแล้ว และหัวใจของญาธิดาเองก็เยือกเย็นลงเช่นกัน เธอคบทบทวนมาเยอะมาก และพยายามปลอบใจตัวเอง แต่หัวใจดวงนั้นเหมือนเหมือนกระจก ที่ตกแตกแล้วเอามาเชื่อมต่อกันใหม่ ก็ยังมีรอยแตกร้าวที่ไม่อาจลบเลือนได้

ความรู้สึกที่มีต่อธีทัตเองก็เช่นเดียวกัน เธอไม่สามารถยกโทษให้เขาได้ และไม่สามารถยอมรับได้ เพราะสิ่งที่เขาทำมันผิดศีลธรรมมากเกินไป เธอไม่สามารถยกโทษให้เขาได้

เธอค่อยๆ มั่นคงกับความคิดในใจของเธอ เธอสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะลุกขึ้นยืน แล้วเดินไปตามข้างถนน กวักเรียกรถแท็กซี่ และบอกตำแหน่งที่อยู่ของแกรนด์ บูเลอวาร์ดกับคนขับรถ

หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่า เธอก็มาถึงแกรนด์ บูเลอวาร์ดอย่างราบรื่น เธอยืนอยู่ที่หน้าประตูหน้าบ้าน และมองดูแสงไฟที่สว่างไสวในเขตบ้าน ในใจยังคงโศกเศร้ามาก

เธอเคยถือว่าที่แห่งนี้เป็นบ้านของตัวเอง แต่ตอนนี้มันกลับแปลกหน้าและอ้างว้าง ไม่มีความรู้สึกคุ้นเคยอีก

เธอสูดหายใจเข้าลึก ก่อนจะกัดฟันเดินเข้าไป เธอเปิดประตู และเดินข้ามลานกว้างด้านหน้ามาถึงประตูไปที่ทางเข้า

คนรับใช้ที่กำลังเก็บของเห็นเธอทันที สีหน้าของทุกคนทั้งดีใจและยินดี ก่อนจะกล่าวทักทายเธอ “คุณผู้หญิงกลับมาแล้วเหรอคะ! คุณผู้ชายรอคุณอยู่นานแล้วค่ะ!”

พอถูกเรียกแบบนี้ ญาธิดาก็รู้สึกอึดอัดใจ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย หน้าซีดเผือด แล้วถามออกไป “อีธานกับเอลล่าล่ะ”

“พวกคุณหนูอ่านหนังสืออยู่ในห้องค่ะ”

ญาธิดาพยักหน้า แล้วเดินตรงไปที่ห้องเด็กๆ อย่างรวดเร็ว

คนรับใช้ใช้ตะลึงงัน ก่อนจะรีบเดินตามไปพร้อมกับเอ่ยถาม “คุณผู้หญิง ทานข้าวหรือยังคะ”

“กินแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์