เธอสูดหายใจเข้าลึก พยายามสงบสติอารมณ์ให้เร็วที่สุด แล้วมองอีธานกับเอลล่า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “พวกลูกสองคนตามแม่มา”
อีธานกับเอลล่ามองหน้ากัน หลังจากลังเลเล็กน้อย จากนั้นก็เดินตามเธอไป
พอพวกเขาเดินเข้ามา ญาธิดาก็เอ่ยถามว่า “ยอมรับคุณอาสุดหล่อที่พวกลูกพูดหมายความว่ายังไง?”
อีธานกระพริบตา และยกยิ้มออกมา “ความหมายก็คือ... พวกเราตกลงที่คุณแม่กับคุณอาสุดหล่อจะคบกันไงครับ”
ญาธิดาโกรธจนพูดไม่ออก “แม่...”
ใครอยากจะคบกับภวินท์กัน ล้อกันเล่นใช่ไหม
“คุณแม่ไม่ต้องห่วงนะครับ เอลล่ากับผมเข้าใจดี ในเมื่อคุณพ่อไม่ต้องการคุณแม่แล้ว เราก็ไม่ต้องการเขาแล้วเหมือนกัน เขาทำให้คุณแม่โกรธจนไม่สบาย แล้วยังไม่มาเยี่ยมคุณแม่อีก โชคยังดีที่คุณอาสุดหล่อคอยดูแลคุณมาตลอด คุณอาสุดหล่อดูแลคุณแม่เป็นอย่างดี ดังนั้น พวกเราไม่ต่อต้านถ้าคุณแม่กับเขาจะคบกัน”
อีธานพูด ก่อนจะขยิบตาให้เธอ และตบไหล่เธอด้วยสีหน้าจริงจัง
หลังจากได้ยินในสิ่งที่เขาพูดแล้ว ถ้าไม่ใช่ว่าเขาจะดูละครน้ำเน่ามากเกินไป ก็คงจะดูคลิปวิดีโอติ๊กตอกเยอะมากเกินไป ทำให้สิ่งที่เขาพูดออกมาดูมีเหตุมีผลเหมือนคำพูดของผู้ใหญ่
ญาธิดาคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เขาพูดก่อนหน้านี้ แล้วรู้สึกว่าเลือดในร่างกายของเธอพุ่งขึ้นไปในสมองของเธอ เธองุนงง รู้สึกเหมือนตกอยู่ในความฝัน
เธอคิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งเธอจะถูกลูกชายเกลี้ยกล่อมให้มีความรักแบบนี้ อีกทั้งยังให้เธอคบกับภวินท์อีก
เปลี่ยนเป็นใครก็ได้ นอกจากเขาที่ไม่ได้เด็ดขาด!
ญาธิดาสูดหายใจเข้าลึก และสงบสติอารมณ์ลงอย่างรวดเร็ว เธอมองไปที่อีธานกับเอลล่า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ลูกคิดมากเกินไปแล้ว ระหว่างแม่กับเขามันไม่มีอะไรทั้งนั้น!”
ในขณะที่พูดอย่างนั้น เธอก็ยื่นมือออกไปและจงใจขยุ้มผมของอีธานจนยุ่งเหยิง แล้วเลิกคิ้วขึ้นทำหน้ามุ่ย แล้วมองไปทางภวินท์
“คุณตามฉันมา”
เธอทิ้งประโยคนี้ไว้ข้างหลัง แล้วหันหลังเดินไปที่ระเบียง
เธอจะต้องคุยกับภวินท์ให้เข้าใจ ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ถ้าไม่มีเขาคอยเกลี้ยกล่อมอยู่ข้างหลัง อีธานกับเอลล่าคงไม่เป็นแบบนี้
เรื่องนี้ เขาต้องมีส่วนร่วมด้วยแน่ๆ!
ญาธิดารู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย พอภวินท์เดินเข้ามา เธอก็มองหน้าเขาอย่างจริงจังแล้วถามออกไป “ภวินท์ คุณหมายความว่ายังไง”
ภวินท์ยกยิ้มมุมปาก และแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง “หมายความว่ายังไงอะไรครับ”
“คุณไม่รู้จริงๆ แน่เหรอคะ?” ญาธิดากำลังจะโมโหตาย “อะไรคือธีทัตไม่ต้องการฉันแล้ว สนับสนุนพวกเราให้คบกัน คุณสอนให้พวกเขาพูดแบบนี้ใช่ไหม”
ภวินท์นิ่งเงียบ แววตาเป็นประกาย และพูดออกมาเบา ๆ “ผมเป็นคนสอนเอง ผมยอมรับ”
ญาธิดากัดฟันกรอด “ทำไมคุณถึงทำแบบนี้คะ!”
ภวินท์ยกยิ้มกริ่ม “หรือว่าเป้าหมายของผมยังไม่ชัดเจนพอ”
เขาพูด ก่อนจะเดินเข้าไป และเข้าใกล้เธอมากขึ้นเรื่อยๆ แววตาที่มองเธอเร่าร้อน สองมือของเขาเปิดกว้าง และจับที่กั้นระเบียงไว้ โดยขังเธอไว้ตรงกลาง
ระยะห่างระหว่างทั้งสองลดลงจนแนบชิด บรรยากาศดูคลุมเครือมาก
หัวใจของญาธิดาเต้นแรง เธอขยับริมฝีปาก แต่กลับพูดอะไรไม่ออก “นี่คุณ...”
“ในเมื่อคุณไม่รู้ ผมก็จะบอกคุณเอง” ริมฝีปากของภวินท์ยกยิ้ม “ผมอยากเป็นพ่อของเด็กๆ …”
ทันใดนั้นเอง ใบหูทั้งสองข้างของญาธิดาอื้ออึง แก้มของเธอร้อนขึ้นมาทันที
เธอคิดไม่ถึงว่าวันนี้ภวินท์จะพูดตรงไปตรงมา และยังกล้าพูดแบบนี้
เธอรวบรวมความกล้า ในที่สุดก็รวบรวมสติกลับมาได้ เธอถึงได้นึกขึ้นได้ว่าต้องปฏิเสธ “ไม่... ไม่ได้!”
ภวินท์หัวเราะ “ทำไมล่ะ?”
ญาธิดารู้ดีแก่ใจ ในเวลานี้ถ้าอาละวาดกับภวินท์จะได้ผลตรงกันข้าม เขาบ้าอำนาจจนไม่ปล่อยโอกาสให้เธอเลย
แทนที่จะใช้วิธีอื่น กระตุ้นเขาให้ตัดใจเองจะดีกว่า!
เธอสูดหายใจเข้าลึก แล้วพูดอย่างหนักแน่น “อีธานกับเอลล่าไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือดกับคุณเลย ไม่มีผู้ชายคนไหนในโลกนี้ที่จะเต็มใจเลี้ยงลูกให้ผู้ชายคนอื่นหรอกค่ะ!”
“ผมเป็นข้อยกเว้น” ภวินท์ยักไหล่และหัวเราะออกมาอย่างไม่ใส่ใจ “ผมไม่รังเกียจเลย”
พอเห็นท่าทางของเขา ศีรษะของญาธิดาก็พองตัว เธอสูดหายใจเข้าลึก และบังคับตัวเองให้สงบลง “คุณไม่ใส่ใจ แต่ฉันใส่ใจ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...