นี่เป็นครั้งแรกที่ญาธิดาทำเรื่องแบบนี้ แถมภวินท์ก็อยู่ห่างเธอแค่ไม่ถึงห้าเมตร เธอประหม่าจนศอกเผลอไปโดนแฟ้มที่อยู่ข้างโต๊ะหล่นลงพื้นดัง “ตุ๊บ!” อย่างไม่ทันตั้งตัว
ทันใดนั้นความเงียบสงบจนผิดปกติก็เข้าปกคลุม สองวินาทีต่อมา ญาธิดารวบรวมความกล้าเงยหน้าขึ้นมองไปทางภวินท์ และภวินท์กำลังมองเธออยู่พร้อมกับขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความสงสัย
ญาธิดาฝืนยิ้ม ก้มลงไปหยิบแฟ้มที่พื้น แล้วพูดขอโทษ “ฉันไม่ได้ตั้งใจ”
พูดจบเธอก็วางแฟ้มกลับเข้าที่เดิม สายตามองคอมพิวเตอร์อีกครั้งราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และแสร้งทำเป็นสงบ
ขณะเดียวกัน ภูผาที่เฝ้าดูทุกการเคลื่อนไหวของที่นี่แบบเรียลไทม์ พอเห็นฉากนี้เข้าก็ถึงกับกระตุกริมฝีปากยิ้มอย่างดูถูกเหยียดหยาม “ไร้ประโยชน์”
เขานึกว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าได้กล้าเสียมากกว่านี้ ได้ยินมาว่าตอนเผชิญหน้ากับสิงโตเธอไม่สะดุ้ง ไม่ตื่นกลัวเลยสักนิด เขานึกว่าเธอจะกล้าหาญ จะแน่วแน่มากแค่ไหนกันเชียว ตอนนี้แค่ให้เธอเอาข้อมูลในแฟลชไดร์ฟใส่เข้าไปในคอมพิวเตอร์ เธอยังรู้สึกผิดมากขนาดนี้เลย
หลังจากครุ่นคิดไปมา ดวงตาของเขาก็จดจ่อมองไปที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง กล้องวงจรปิดอยู่ตรงหัวมุม ซึ่งก็คือมุมเฉียงจากด้านหลังของญาธิดา พอจะมองเห็นหน้าจอบ้าง ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ทั้งหมด แต่มันก็เพียงพอแล้ว
ตอนนี้ภาพบนหน้าจอคือภวินท์กำลังจะรับโทรศัพท์ เขาลุกขึ้นเดินออกไปอีกฝั่งเพื่อรับสาย ทันใดนั้นญาธิดาซึ่งนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์รีบเสียบแฟลชไดรฟ์ที่ซ่อนอยู่ในมืออย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบกดเปิดและย้ายข้อมูลลงในคอมพิวเตอร์
แถบแสดงความคืบหน้าแสดงเปอร์เซ็นต์การดาวน์โหลดปรากฏขึ้นบนหน้าจอ สีเขียวค่อย ๆ กลืนกินสีเทาอย่างช้า ๆ ญาธิดานั่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์โดยไม่กะพริบ ส่วนทางด้านภูผาก็กลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัวเหมือนกัน
จะสำเร็จหรือล้มเหลวก็อยู่ที่ตอนนี้แล้ว!
ตอนนี้ดูเหมือนว่าภวินท์จะโทรศัพท์เสร็จแล้ว เขากดวางสายแล้วเดินตรงมาทางนี้อย่างกะทันหัน ทำเอาญาธิดาตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันที
เธอพยายามจะไม่แสดงอาการประหม่าอย่างเต็มที่ มือที่ถือเมาส์กดเปิดเอกสารอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเริ่มกดแป้นพิมพ์แกล้งทำเป็นว่ากำลังเขียนแผนงาน
ภวินท์เดินเข้าไปข้างเธอ เอื้อมมือเข้ามาหยิบเอกสารบนโต๊ะ หลังจากพลิกอ่านสองหน้า เขาก็ค่อย ๆ หันตัวกลับแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรออกอีกครั้ง
บรรยากาศแสนตึกเครียดผ่อนคลายลงทันที ญาธิดาแอบโล่งใจ ก่อนจะกดออกจากเอกสารไปดูความคืบหน้า ตอนนี้ไฟล์ดาวน์โหลดไปมากกว่าครึ่งแล้ว
ในขณะเดียวกัน ภูผาที่อยู่อีกด้านของหน้าจอก็แอบถอนหายใจด้วยความโล่งอกมากเหมือนกัน ก่อนจะยกมือขึ้นปลดกระดุมคอเสื้อพร้อมกับหันมองครามแล้วยิ้มเบา ๆ “สำเร็จก็เพราะเธอ แพ้ก็เพราะเธอ ภวินท์คงคิดไม่ถึงแน่ว่าคนที่ทำให้เขาล้มซ้ำแล้วซ้ำเล่าจะเป็นผู้หญิงแค่คนเดียว”
ครามลังเลอยู่ครู่หนึ่งและถามว่า “คุณชาย เรื่องนี้คุณมั่นใจไหมว่าจะสำเร็จ?”
พอได้ยินแบบนั้น ภูผาก็เหลือบมองไปที่หน้าจอดูแถบความคืบหน้าบนคอมพิวเตอร์ที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีเขียวทั้งหมดแล้ว การดาวน์โหลดเสร็จสมบูรณ์ เขากระตุกยิ้มและพูดว่า “เก้าสิบเปอร์เซ็นต์”
ครามพูดอย่างลังเล “แค่กลัวว่าผู้หญิงคนนั้นจะเล่นแง่”
“เธอกล้า?” ภูผายิ้มเยาะ “ผู้หญิงแบบนี้แค่จับไพ่ตายได้ เธอก็แพ้อย่างไม่ต้องสงสัยแล้ว จุดอ่อนของเธอ ไม่มีอะไรมากไปกว่าลูกสองคนกับคนแก่ที่บ้านสองคนของเธอ ต่อให้เธอคิดอยากจะเล่นแง่ เธอก็ต้องคิดถึงสองเฒ่าชราสองคนในมือของเรา”
คราวนี้ครามไม่ได้คัดค้าน
ภูผาได้สติและเห็นว่าญาธิดาแอบถอดแฟลชไดร์ฟออกมาอย่างเงียบ ๆ ก่อนจะเขียนแผนงานต่อไปอย่างไม่ส่งเสียง เขายิ้ม ก่อนจะปิดจอกล้องวงจรปิด
ที่เหลือเขาไม่สนใจอะไรแล้ว
ขณะที่กำลังครุ่นคิดเขาก็หันไปมองครามที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มว่า “ทางนั้นเตรียมตัวเป็นยังไงบ้าง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...