ในตอนที่ปกรณ์ตื่นขึ้นมา ก็พบว่าภวินท์กำลังเล่นหมากรุกอยู่กับดร.ยติภัทร ส่วนญาธิดาพาเด็กทั้งสองคนไปจัดสวนอยู่กับคุณปภาวี มีคุณยายนั่งอาบแดดสบายอารมณ์อยู่ข้างๆ
เมื่อลุงทองเห็นภาพสงบเงียบสบายตาตรงหน้า ในใจก็แอบรู้สึกขมขื่น ปกรณ์ควรได้เป็นหนึ่งในคนที่อยู่ในภาพสวยงามนั้นด้วยซ้ำ
เขาคอยปรนนิบัติรับใช้คุณท่านอย่างซื่อสัตย์มาหลายปี ปัจจุบันต้องมาเห็นคุณท่านทรมานจากอาการป่วยทุกวัน มันทำให้ใจของเขารับไม่ได้เป็นอย่างมาก
ญาธิดาเงยหน้ามองลุงทองที่ยืนเหม่อลอยอยู่ไกลๆ ในใจก็คิดว่าปกรณ์ต้องเป็นอะไรไปอีกแน่ๆ เขาน่าจะไม่กล้าบอกภวินท์ ดังนั้นเลยมาหาเธอแทน
“คุณธิดา คุณท่านตื่นแล้วครับ” เมื่อลุงทองเห็นเธอเดินเข้ามา ก็รายงานความเป็นไปอย่างนอบน้อม
เธอพยักหน้า เอ่ยถามอย่างห่วงใยว่า “ร่างกายคุณท่านเป็นยังไงบ้าง? ตอนนี้ตื่นเต็มตาแล้วหรือยัง”
ลุงทองคาดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นห่วงปกรณ์มากขนาดนี้ หลังจากที่นิ่งไปชั่วครู่ ก็หันไปมองยังบริเวณไม่ใกล้ไม่ไกล “ตอนนี้คุณท่านตื่นเต็มตาแล้วครับ พอได้ยินว่าคุณชายกลับมาเยี่ยมก็ดีใจมาก”
“ฉันเข้าใจแล้ว รอสักครู่นะคะ” ญาธิดาพูดจบ ก็หาเหตุผลโยนสิ่งที่ทำอยู่ให้คุณปภาวีจัดการเองทั้งนั้น จากนั้นก็พาอีธานเดินไปด้วยกัน
สองแม่ลูกเดินตามลุงทองไปยังบ้านพักส่วนตัวที่ปกรณ์ใช้รักษาตัวโดยเฉพาะ ระหว่างทางอีธานกอบกำปลายนิ้วของเธอไว้แน่น เห็นได้ชัดว่ากำลังกลัวปกรณ์
ญาธิดารู้ว่าเขากำลังคิดอะไรในใจ จึงอธิบายเสียงนุ่มนวลว่า “คุณปู่รักแกกับพ่อ เขาไม่มีทางทำร้ายคนที่ตัวเองรักหรอก ดังนั้นไม่ต้องกลัว”
อีธานได้ยินดังนั้น ก็พยักหน้าหงึกๆ ฝีเท้าเปลี่ยนมาก้าวเดินอย่างผ่อนคลาย
“แม่ครับ ทำไมคุณปู่เรียกผมเป็นชื่อพ่อล่ะ?” เขาเอียงคอ เอ่ยถามอย่างสงสัย
ญาธิดาเงียบไปนาน จากนั้นก็ค่อยๆคลี่ยิ้มออกมา อดยื่นมือออกไปลูบหัวของเขาไม่ได้ “มีแต่คนบอกว่าแกกับพ่อแกตอนเด็กๆเหมือนกันมาก ตอนนี้คุณปู่จำอะไรไม่ได้ แต่พอเขาเห็นแกก็นึกถึงพ่อของแก นั่นแปลว่าเขารักพ่อของแกยังไงล่ะ”
“คุณปู่รักคุณพ่อ งั้นอีธานก็รักคุณปู่ด้วย!”อีธานมองไปยังชายชราที่อยู่ในบ้าน บนใบหน้าน่ารักเต็มไปด้วยรอยยิ้มสดใส
ปกรณ์ตื่นขึ้นมาแล้ว เมื่อเห็นญาธิดาเดินจูงมืออีธานเข้ามาหา ดวงตาก็ฉายแวววูบโหวง แต่ก็ยังโบกมือให้ทั้งสองคนอยู่ดี
“คุณท่าน ดีขึ้นหรือยังคะ?” ในน้ำเสียงแผ่วเบาของเธอพกพาความเป็นห่วงอย่างปิดไม่มิด
“แค่ฝืนหายใจไปวันๆ” เสียงอิดโรยของปกรณ์เต็มไปด้วยความอ้างว้าง จากนั้นก็ยิ้มเยาะตัวเอง เอ่ยย้อนถามเสียงเบาว่า “แกมาที่นี่เพื่อสมน้ำหน้าฉันล่ะสิ”
เมื่อญาธิดาเห็นว่าเขาไม่ได้ใช้น้ำเสียงกรุ่นโกรธ จึงอุ้มอีธานขึ้นมานั่งลงตรงหน้าเขา ปกรณ์กวาดสายตามองเด็กในอ้อมกอดของเธอ ดวงตาที่ตอนแรกไร้ชีวิตชีวาพลันเป็นประกายขึ้นมาในทันที
ก่อนหน้านี้เขาไม่สังเกตเห็นเด็กคนนี้เลย ตอนนี้พอได้เห็นอีธาน มือผอมแห้งก็สั่นเทาอย่างห้ามไม่ได้ “เด็กคนนี้…..”
“เขาชื่ออีธานค่ะ เป็นลูกของฉันกับวิน เรายังมีลูกสาวอีกหนึ่งคน วันหลังเดี๋ยวพามาเจอนะคะ”
“ลูกของวิน……” ปกรณ์พึมพำเสียงเบา ค่อยๆยื่นมือออกไป ราวกับอยากแตะตัวอีธาน แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังลังเล มือที่สั่นเครือจึงนิ่งค้างอยู่กลางอากาศ
อีธานเห็นแบบนั้นก็ยื่นอุ้งมืออวบอิ่มไปจับปลายนิ้วของคุณปู่เอาไว้ เอ่ยเรียกเสียงหวานว่า “คุณปู่”
“หือ”ปกรณ์รีบขานรับ ลึกในดวงตาชื้นไปด้วยหยาดน้ำ “เด็กคนนี้เหมือนวินตอนเด็กๆราวกับแกะ ถอดแบบออกมาเหมือนกันเป๊ะๆเลย”
ญาธิดาเห็นเขาไม่ต่อต้านอีธาน ซ้ำยังเป็นฝ่ายเอ่ยถึงภวินท์ก่อน เธอจึงเอ่ยพูดต่อขึ้นมาว่า “ครั้งนี้ที่ฉันพาอีธานมาหา เพราะอยากให้คุณท่านช่วยแก้ปมในใจของอีธาน”
“แกมาหาผิดคนแล้ว เขาไม่มีทางให้อภัยฉันหรอก” ปกรณ์อดถอนหายใจออกมาไม่ได้ “ฉันหลงผิดตอนที่ยังเป็นหนุ่ม ทำให้วินกับวิไลต้องเสียใจ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...