เมื่อภวินท์ได้ยินคำพูดแซวๆของเธอ สีหน้าก็พลันเรียบตึง อาศัยแสงไฟเหลือบมองจึงเห็นว่าดวงตาของเธอกำลังเป็นประกายระยิบระยับ ดวงตาของเขาจึงปรากฏแววอ่อนโยนอย่างไม่รู้ตัว
เสียงของเขายังคงเย็นชาเหมือนเคย เขาเก๊กเสียงเข้มแล้วพูดว่า “คุณไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?”
ญาธิดาแอบแขวะเขาในใจ จากนั้นก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับเขา ก่อนจะเดินจากไปภวินท์ก็ลงมือลงกลอนประตูจนแน่นสนิท เมื่อเห็นสายตาสงสัยของเธอ เขาจึงเอ่ยอธิบายว่า “ต่อไปนี้ห้องนี้คงไม่ได้ใช้แล้ว”
ญาธิดายังไม่ทันได้เข้าใจความหมายของเขา เขาก็หันกายเดินไปเปิดประตูห้องนอน
ห้องนอนใหญ่ถูกตกแต่งใหม่ทั้งหมด ในอากาศอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมเย็นๆ
ตำแหน่งตู้เสื้อผ้าถูกปรับย้าย โดยเจาะเชื่อมกับห้องข้างๆกลายเป็นห้องเสื้อผ้า ข้างในนั้นมีเสื้อผ้าแบบใหม่ล่าสุดอยู่เต็ม แต่ละตัวล้วนแล้วแต่เป็นไซส์ของญาธิดาทั้งนั้น
การตกแต่งห้องเปลี่ยนจากโทนสีเย็นเป็นโทนสีอบอุ่น บริเวณกลางห้องมีเตียงขนาดKingSizeที่ดูแล้วคงจะนุ่มสบายเป็นไหนๆวางอยู่อย่างสะดุดตา
“ที่นี่ต่างหากคือห้องของคุณ”
ญาธิดาทอดสายตามองเตียงหลังใหญ่ ในหัวอดนึกถึงเรื่องไม่ดีอย่างว่าขึ้นมาเป็นฉากๆ จนใบหน้าแดงแปร๊ดลามไปถึงหู
เธอกลัวว่าภวินท์จะมองออกว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ และกลัวว่าภวินท์จะคิดเหมือนกับเธอ พร้อมทำให้ฉากที่เธอกำลังจินตนาการถึงเป็นจริงขึ้นมา เธอจึงรีบเดินออกไปจากห้องอย่างรกๆลนๆ
เดินไปอีกหน่อยคือห้องนอนของอีธานกับเอลล่าที่ภวินท์เตรียมไว้
ห้องหนึ่งเป็นโทนสีชมพูแสนหวาน ส่วนอีกห้องเป็นโทนสีเทาอ่อนสดใส ซึ่งตรงกับความชอบของเด็กทั้งสองคนพอดี แม้แต่ของตกแต่งก็ยังเลือกจากของที่เด็กๆชอบทั้งนั้น
ที่โดดเด่นคือทั้งสองห้องต่างมีเพดานใสเล็กๆที่สามารถเอาไว้ดูดาวได้
ญาธิดาแอบบ่นงึมงำในใจ มีเงินนี่บันดาลได้ทุกสิ่งจริงๆ ภวินท์คงใช้ของราคาแพงพวกนี้ ซื้อใจลูกของตัวเองได้ง่ายดายแน่นอน
พวกเขาสองคนเดินไปถึงสุดทางเดินอย่างไม่รู้ตัว และห้องสุดท้ายนี้ก็เป็นห้องต้องห้ามของที่นี่เหมือนกัน - ห้องทำงานของภวินท์
ก่อนที่ญาธิดาจะได้พูดอะไร ภวินท์ก็ยัดกุญแจหนักๆไว้ในมือของเธอ "นี่คือกุญแจห้องนี้ ต่อไปนี้คุณเก็บไว้ได้เลย"
ประโยคง่ายๆของเขาส่งผลถึงส่วนอ่อนไหวที่สุดในหัวใจของญาธิดาได้อย่างง่ายดาย เธอพยักหน้าอย่างหนัก ถือกุญแจไว้ในมือแน่น รอยยิ้มบนใบหน้าขยายกว้างขึ้น
ตั้งแต่ทั้งสองกลับมาที่บ้านพัก ญาธิดาก็หนีไม่พ้นจากอาการเจ็บเอวและขาเลยสักวัน ทั้งๆที่เธอบอกภวินท์อย่างชัดเจน ว่าจะให้ทำความสะอาดแผลให้เขาเท่านั้น
เธอลากร่างที่เหมือนจะแตกสลายเต็มทีลงไปชั้นล่าง ก่อนที่จะเดินถึงห้องอาหาร เธอก็ได้กลิ่นอาหารที่คุ้นเคย อีธานและเอลล่ากำลังกินข้าวอย่างเชื่อฟัง ส่วนภวินท์ที่ยังคงรักษาท่วงท่าสูงส่งและสง่า กำลังนั่งจบกาแฟอยู่ข้างๆ
“วันนี้คุณจะไปบริษัทหรือเปล่า”
“อืม”ภวินท์ตอบเธอเบาๆ แล้วเอ่ยเสริมอย่างเรียบนิ่ง: “คุณพักผ่อนอยู่ที่บ้านนี่แหละ คืนนี้คงต้องรบกวนคุณอีก”
“แค่กๆ…” ญาธิดาสำลักออกมา ถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ ทั้งยังแอบกัดฟันกรอด
พูดเรื่องแบบนั้นออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย ผู้ชายคนนี้ทำได้ยังไงกัน!
“ผมหมายถึงช่วยทายา” เขาพูดต่อ
ความโกรธของญาธิดารุนแรงมากขึ้นไปอีก แต่เธอก็ไม่สามารถเถียงชนะเขาอยู่ดี จะตีก็ยังไม่กล้า ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงตักโจ๊กในชามขึ้นมาอย่างโกรธจัด เพื่อแสดงความไม่พอใจของเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...