พอพูดถึงแฟนคลับ ชาช่าก็เริ่มเปิดบทสนทนาขึ้นมาทันที คุยไปคุยมาก็พูดถึงนักแสดงหน้าไม่อายที่ตัวเองเจอระหว่างถ่ายทำกับผู้กำกับที่อยากจะทำนอกกฎครั้งแล้วครั้งแล้ว
ปกติแล้วเธอก็เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้นอยู่แล้ว พวกกับอารมณ์ที่ร้อนของเธอ เธอก็เลยจงใจทำให้คนที่ทำให้เธอไม่สบายใจต้องลำบาก
ความจริงแล้วคนพวกนี้ก็ไม่ยอมปล่อยเธอไปอยู่แล้ว ได้แต่ปล่อยข่าวลือเกี่ยวกับเธอ เธอก็เลยต้องกลายมาเป็นชาช่าที่ปากร้ายและเล่นตัวในตอนนี้
“ในเมื่อทุกคนพูดถึงฉันแบบนั้นทั้งนั้น ฉันก็เลยต้องทำให้ข่าวลือพวกนั้นมันเป็นเรื่องจริงน่ะสิ ไม่อย่างนั้นถ้าเกิดว่าอยู่ดีๆ แล้วโดนพวกนั้นทำให้ชื่อเสียงแปดเปื้อนก็เสียเปรียบน่ะสิ”
พอชาช่าพูดจบ ในที่สุดพี่ยู่ยี่็พาสามีและลูกเดินมา และเธอก็ไม่ได้ขอโทษอะไรกกับพวกพนักงานด้วย แต่กลับหันหน้าเข้าหากล้องและอธิบายกับเพื่อนชาวเน็ตว่าทำไมเธอถึงมาสาย
“ทุกท่านคะ ขอโทษด้วยมากจริงๆ นะคะ เพราะว่าสินค้าล็อตนี้ขายดีมาก ฉันเลยมัวแต่จัดเลขออเดอร์เลยลืมดูเวลาไปเลยน่ะค่ะ”
ในช่องคอมเมนท์มีคนตอบโต้เธอแค่ไม่กี่คนเท่านั้น แถมยังมีคนด่าที่เธอไม่รักษาเวลาอีกด้วย พี่ยู่ยี่ก็เลยได้แต่ยิ้มขอโทษตรงหน้ากล้องเท่านั้น
แต่พอหันหลังให้กล้องแล้ว เธอก็เก็บรอยยิ้มทันทีแล้วก็เบะปากอย่างรำคาญ
ญาธิดาเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง แล้วก็เข้าใจในทันทีว่าทำไมชาช่าถึงไม่ชอบเธอ
เพราะว่าเธอมาสายมาก เวลาเก็บผักที่เหลือก็ค่อนข้างจะต้องกระชับ เจ้าหน้าที่เร่งจัดทุกคนเข้าสวนนิเวศน์ แล้วก็แจกตะกร้าเล็กๆ ให้ทุกคน เพื่อให้ทุกคนได้เลือกผักที่ตัวเองชอบ
พี่ยู่ยี่ขยับเข้าไปใกล้ภวินท์ แล้วก็ทำท่าทางโปรยเสน่ห์ในทุกอิริยาบถ “คุณภวินท์ สามีของฉันน่าจะมาสายหน่อย คุณพอจะช่วยฉัน……”
“ไม่ได้!”ภวินท์พูดจบแล้วก็รักษาระยะห่างกับเธอในทันที แล้วก็ไปเลือกเก็บสิ่งที่ญาธิดาชอบกิน
เธอบ่นว่าน่าเบื่อ แล้วก็ก้มหน้าก้มตาเดินออกไปด้วยความโกรธ
อีธานกับเอลล่ารู้สึกสงสัยในทุกสิ่งทุกอย่าง เอาแต่ถามญาธิดาไม่หยุดว่าของพวกนี้คืออะไร เธอถูกถามจนปวดหัวไปหมด ก็เลยต้องหันไปขอความช่วยเหลือจากภวินท์
โชคดีที่ภวินท์เป็นพ่อที่เก่งกาจ เขาตอบคำถามที่ยุ่งยากของเด็กน้อยทีละคน สายตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความชื่นชม แล้วก็กลายมาเป็นผู้ติดสอยห้อยตามของเขาในทันที
ชาช่าผลักแขนของเธอเบาๆ ส่งสัญญาณให้เธอหันไปมองพี่ยู่ยี่ แล้วทั้งสองคนก็มองไปยังที่ที่ไม่ไกลจากตรงนี้เท่าไหร่นัก ลูกชายของพี่ยู่ยี่กำลังดึงผักบนพื้นขึ้นมาแล้วก็โยนขึ้นไปบนฟ้า
ในตะกร้าของพี่ยู่ยี่ไม่ได้มีผักเยอะเท่าไหร่นัก แต่แปลงผักใต้เท้าของครอบครัวสามคนถูกถอนเกลี้ยงจนมองไม่เห็นสีเขียวเลย
ชาช่าพูดจาถากถางว่า “บรรยากาศครอบครัวที่กลมกลืนและมีความสุขเป็นของปลอมเท่านั้นแหละ รายการเรียลลิตี้ประเภทนี้เป็นเหมือนกระจกเงาแหละ พวกสัตว์ประหลาดก็จะพูดเปิดเผยผ่านทางเลนส์กล้อง”
ญาธิดาก็ส่ายหน้าและถอนหายใจออกมา “เดาว่าถ้ารายการนี้จบลง หนทางการเป็นเน็ตไอดอลของครอบครัวนี้น่าจะสิ้นสุดลงแล้วล่ะ”
พี่ยู่ยี่ที่อยู่ด้านข้างโน้มตัวลงมา แล้วก็กระซิบอะไรบางอย่างกับลูกชายของตัวเอง แล้วก็หันมามองอีธานกับเอลล่า
ชาช่าเห็นเหตุการณ์นี้ ก็รีบดึงข้อมือของญาธิดาแล้วพาเดินไปหาเด็กน้อยทั้งสองคน “ผู้หญิงคนนั้นร้ายมากนะ สามารถทำอะไรก็ได้เพื่อความดัง คุณอย่าอยู่ห่างจากลูกมากเกินไป”
พอญาธิดาได้ยินดังนั้นก็หัวใจเต้นแรงทันที แต่ว่ายังไม่ทันจะได้เข้าไปใกล้อีธานกับเอลล่า เด็กผู้ชายคนนั้นก็เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กน้อยทั้งสองคนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...