อัญมณีถูกส่งไปอยู่ที่บ้านพักของตระกูลสถิรานนท์เป็นการชั่วคราว ห้องพักรับรองอยู่ใกล้กับบ้านใหญ่มาก จึงสามารถเว้นพื้นที่ส่วนตัวให้เธอได้อย่างเพียงพอ และไม่เสียเวลาหากญาธิดาจะไปเยี่ยมบ่อยๆ
จิตแพทย์ที่ภวินท์เชิญมาถึงในเวลาไม่ช้า หลังจากให้การปรึกษาเรื่องทางจิตใจกับเธอแล้ว อารมณ์ของเธอจึงสงบนิ่งลง
พายุเดินไปมาอยู่หน้าห้องรับรองอย่างกระวนกระวายใจ มีหลายครั้งที่อยากจะลองบุกเข้าไป แต่ก็ถูกญาธิดารั้งเอาไว้ “ฉันเข้าในอารมณ์นายในตอนนี้ แต่ว่าเวลานี้นายณไม่เหมาะที่จะเข้าไปเจออันอัน ”
พายุเห็นเธอเอาแต่ห้ามเขา สีหน้าก็ไม่พอใจขึ้นมา น้ำเสียงก็หนักแน่นขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ “คุณนาย ขอร้องอย่าทำให้ผมลำบากใจเลย ผมก็แค่อยากจะเห็นเธอจากที่ไกลๆเท่านั้น”
เธอคิดไม่ถึงว่าพายุจะแสดงกิริยาเช่นนี้กับเธอ แม้ว่าเธอจะเข้าใจพายุ และไม่โทษเขา แต่ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วแน่น
“นายทำกิริยาแบบนี้กับธิดาเหรอ”เสียงเคร่งขรึมของภวินท์ดังขึ้นข้างหลังพวกเขาสองคน เขาก้าวเท้าหนักๆเข้าไปหาพายุ จากนั้นก็ปล่อยหมัดชกพายุจนล้มลงไปที่พื้น “อยากจะเป็นตัวเร่งให้อัญมณีเป็นบ้า ก็ไม่มีใครห้ามนาย”
“ท่านประธาน……”
หมัดนี้หนักมาก แก้มด้านข้างของพายุสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าว่ากำลังบวมแดงขึ้น มุมปากมีเลือดซิบออกมา เขาสูดลมหายใจเข้า เช็ดเลือดที่มุมปาก ลุกขึ้นจากพื้นด้วยท่าทีคล่องแคล่ว
“คุณนาย ยกโทษให้ผมด้วยที่ผมใจร้อนเกินไป”เขาพูดออกมาอย่างนอบน้อม
ญาธิดาโบกมืออย่างรู้สึกรำคาญใจ สายตาที่เป็นห่วงหันไปมองประตูห้องรับรองอีกครั้ง
จิตแพทย์ที่ภวินท์เชิญมาเป็นหมอที่เพิ่งจะกลับมาจากอเมริกาเป็นที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยมมาก แม้ว่าเธอจะดูเป็นสาวน้อยน่ารักสดใสคนหนึ่ง แต่ความจริงแล้วมีประสบการณ์ทำงานที่โชกโชน
หลายวันก่อนหลุยส์เอาหัวเป็นประกันว่าจิตแพทย์คนนี้เป็นผู้นำในวิชาชีพนี้อย่างแน่นอน เขาจึงเชิญเธอมาช่วยรักษาอัญมณีที่บ้านสถิรานนท์
ผ่านไปนานมากแล้ว สาวน้อยคนนั้นจึงเดินออกมาจากห้องรับรองด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
เธอก้มหน้าเล็กน้อยเป็นการทักทายกับภวินท์และญาธิดา ใบหน้าที่สดใสแสดงออกให้เห็นถึงความกังวลใจอย่างที่ไม่สอดคล้องกับอายุเลย “คุณอันอันไม่ยินดีจะให้ใครมาช่วยแก้ปมในใจของเธอ ฉันต้องการเวลาสักหน่อยเพื่อจะทำการแก้ไข”
“คุณอลิสา ผู้ป่วยคนนี้รักษายากมากเลยเหรอ”ญาธิดานวดที่หัวคิ้ว สีหน้ามีความเจ็บปวดเล็กน้อย
อลิสาจริงจังมาก พยักหน้าอย่างหนัก“เธอเอาแต่เราเรื่องระหว่างเธอกับพี่ชายสมัยเด็กไม่หยุด แสดงว่าเธอยังคงใช้ชีวิตอยู่ในอดีต ไม่สามารถเผชิญกับปัจจุบัน และไม่ยินดีจะยอมรับความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้า นี่เป็นปมที่อยู่ในใจของเธอ”
ภวินท์ดึงตัวญาธิดาเข้าไปในอ้อมกอด เหมือนจะใช้วิธีการนี้แบ่งเบาความเจ็บปวดในใจของเธอ ตอนนี้ในบรรดาคนทั้งหมดที่ยังสามารถรักษาความนิ่งในใจได้มีเพียงแค่เขากับอลิสาเท่านั้น
“ถ้าจะทำการรักษาให้หายขาดต้องใช้เวลานานแค่ไหน”เขาถามเสียงขรึม
อลิสาถอนหายใจอีกครั้ง ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา“ก่อนอื่นเราต้องดึงผู้ป่วยกลับมาจากความทรงจำเก่าๆ ให้เธอลองเปิดใจยอมรับความเป็นจริงในตอนนี้ ทำแบบนี้จึงจะคลายปมในใจของเธอได้ ให้เธอได้รับการรักษาในขั้นต่อไปอย่างมั่นคง ”
“ต้องการให้พวกเราช่วยเหลืออะไรหรือเปล่า”เขาถามขึ้นอีกครั้ง
“ต้องการให้คนที่ผู้ป่วยสนใจปรากฏตัวขึ้น ให้เธอรับรู้ได้ถึงความอบอุ่นในชีวิตในตอนนี้ เธอจึงจะสามารถลองเปิดใจยอมรับความเป็นจริงได้”
อลิสาพูดจบแล้ว สายตาของทุกต่างก็จ้องไปทางร่างของพายุ
แม้เขาจะพยายามทำเป็นใจเย็นสักแค่ไหน แต่สองมือก็ยังคงสั่นเทาโดยที่ควบคุมไม่ได้ “ผมเทียบกับพี่ชายเธอไม่ได้ เรื่องที่คุณหมอพูดผมทำไม่ได้”
ญาธิดารีบเดินเข้าไปตรงหน้าเขา กำเสื้อสูทตัวนอกของเขาไว้แน่น “ตอนนี้มีแต่นายเท่านั้นที่สามารถช่วยอันอันได้ ถ้าหากแม้แต่นายก็ไม่ช่วย อันอันคงจะไร้ทางรอดแล้วจริงๆ”
“คุณผู้หญิง ผม……”สีหน้าเขาเจ็บปวดมาก “ผมทำไม่ได้จริงๆ……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...