“ธิดา ในเมื่ออันอันปลอดภัยดีไม่เป็นอะไร ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขอตัวกลับก่อน”
ได้ยินขวัญตาพูดแบบนี้ ญาธิดาก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธทันที “ไม่ได้ ธีทัตสืบได้ว่าฉันเป็นคนพาอันอันหนี ก็ต้องสืบได้ว่าคุณเป็นคนช่วยเหลือฉัน คุณกลับไปตอนนี้มันอันตรายเกินไป”
ใบหน้าของขวัญตาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่อบอุ่น ค่อยๆแกะมือของญาธิดาที่จับข้อมือของเธอเอาไว้ อธิบายเสียงด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “ไม่เป็นไร อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ไม่ช้าก็ต้องเผชิญหน้าธีทัตอยู่ดี ”
ญาธิดายังอยากจะพูดต่อ แต่ภวินท์กลับส่ายหน้าให้เธอ ส่งสัญญาณว่าเธอไม่ควรยุ่งกับเรื่องนี้อีก เธอจึงยอมปล่อยมือ
ขวัญตาเพิ่งจะออกจากคฤหาสน์ เธอก็รีบพูดขึ้นมาทันทีว่า “สถานการณ์ของขวัญตอนนี้อันตรายมาก ธีทัตทำร้ายได้แม้กระทั่งน้องสาวที่รักที่สุด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเธอ”
“ผมได้ส่งคนไปเฝ้าสังเกตการณ์บริเวณใกล้กับบ้านพิลากุลแล้ว ถ้าเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นกับเธอจะรายงานพวกเราทันที”เขาตอบเสียงเย็น
เห็นเขาคิดวางแผนอย่างรอบคอบมาก ความกังวลในใจของญาธิดาก็ค่อยๆหายไป
ขณะเดียวกัน ธีทัตได้นั่งอยู่ในห้องรับแขกอันโอ่อ่าของบ้านพิลากุลแล้ว JH Real Estateก็แค่ธุรกิจเล็กๆที่เพิ่งจะเติบโตขึ้นในเมืองJ การมาเยือนของเขาทำให้บรรยากาศของบ้านบ้านพิลากุลที่เดิมทียังมีความรื่นรมย์อยู่ถูกแช่แข็งทันที
แม้ว่าในใจของสุรวุฒิจะรู้สึกตื่นเต้น แต่ก็ไม่ได้เปิดเผยออกมาให้เห็น เผชิญหน้ากับคนรุ่นหลังที่มีฝีมือโดดเด่นคนนี้ เขาพยายามรักษาความมั่นใจเฮือกสุดท้ายเอาไว้ “คุณธีทัตมาเยี่ยมเป็นการเฉพาะ ไม่ทราบว่ามีอะไรจะให้รับใช้หรือเปล่า”
ธีทัตเก็บท่าทีโหดร้ายของตนไม่ให้เผยออกมา เวลาอยู่ต่อหน้า สุรวุฒิยังคงรักษาภาพลักษณ์ของการเป็นชายหนุ่มที่สง่างาม เขายกแก้วน้ำชาขึ้นเป็นการทำความเคารพต่อสุรวุฒิ “ท่านวุฒิ ขวัญคงไม่เคยเอ่ยถึงผมต่อหน้าท่านใช่ไหม”
ได้ยินว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับลูกสาวสุดที่รักของตนเอง ความระแวงในใจของสุรวุฒิก็ยิ่งทวีความเข้มข้นขึ้น เขาเคยได้ยินขวัญตาเอ่ยถึงตระกูลกรเวชมาก่อนก็จริง แต่เธอก็แค่เป็นเพื่อนกับคุณหนูรองของตระกูลกรเวชเท่านั้น
ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้สามารถที่จะนำบริษัทเทคโนโลยีคลาวด์เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ได้หลังจากที่รับช่วงต่อในทันที แสดงว่าเขาต้องไม่ใช่คนที่ดูแล้วอบอุ่นใจดีไม่มีพิษภัยอย่างที่เห็นแน่ๆ เพราะคนที่จะสามารถยืนหยัดในวงการธุรกิจได้ ไม่มีใครที่ขาวสะอาดสักคน
“คุณธีทัตอย่าพูดเล่นไปเลย พวกเราก็แค่คนธรรมดาที่ทำธุรกิจเล็กๆ ลูกสาวของผมจะไปรู้จักกับคนที่มีตำแหน่งหน้าที่สูงอยู่คุณได้ยังไง”
เมื่อเห็นว่าสุรวุฒิเอาแต่พูดกับตนด้วยท่าทีที่มีมารยาทมาก ในใจของธีทัตรู้สึกทนไม่ได้ขึ้นมาเล็กน้อย ตาแก่ที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่ได้หลอกง่ายเหมือนลูกสาวของเขา แต่เขาก็ไม่อยากจะเสียเวลากับเขาเลยสักนิด
คิดถึงตรงนี้ เขาก็เอ่ยปากพูดออกมาตรงๆว่า “ผมรู้จักกับลูกสาวคุณมานานมากแล้ว ช่วงนี้เธอก็เข้าออกบ้านกรเวชอยู่เป็นประจำ ผมกับเขาค่อยๆศึกษาดูใจกันมาพอสมควร ที่มาวันนี้ก็เพื่อจะมาขอความเห็นชอบจากคุณ”
สีหน้าของสุรวุฒิเปลี่ยนไปเล็กน้อย นิ้วมือที่แก่ชราแล้วถูแก้วชาที่อยู่ข้างๆไม่หยุด ครุ่นคิดในใจเงียบๆ ที่แท้ธีทัตคนนี้ก็มาด้วยเจตนาที่ไม่ดีจริงๆ การมาที่นี่วันนี้ไม่ต่างกับการบีบบังคับเลย
และยังไม่พูดถึงจุดประสงค์ที่เขาเข้าใกล้ลูกสาว แค่ลูกสาวไม่เคยพูดถึงเรื่องของธีทัตคนนี้เลย นั่นก็หมายความว่าเธอนั้นไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้
หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ใบหน้าของเขาก็ค่อยๆเผยรอยยิ้มที่มีเมตตาออกมา
“คุณธีทัตนี่ล้อเล่นเก่งจริงๆ ตอนนี้ไม่ใช่ยุคศักดินาแล้ว เรื่องการคลุมถุงชน เป็นเรื่องที่ล้าหลังไปนานแล้ว เรื่องความรักของพวกลูกๆ ผมจะก้าวก่ายได้ยังไง”
“คุณพ่อ หนูกลับมาแล้ว ”ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน เสียงของขวัญตาดังขึ้นตรงทางเข้าประตู
เธอลากสังขารที่เหนื่อยล้าเดินเข้ามาในห้องรับแขก กำลังจะเข้าไปออดอ้อนสุรวุฒิด้วยความเคยชิน แต่คิดไม่ถึงว่าพอเงยหน้าขึ้นจะเจอคนที่เธอไม่อยากจะเจอมากที่สุด สองขาของเธอชะงักลงราวกับมีอะไรหนักๆมาถ่วงเอาไว้ ก้าวไม่ออกแม้แต่ก้าวเดียว
สายตาของธีทัตมีแววมาดร้ายวาบผ่าน ตอนที่เอียงหน้าไปมองเธอก็ไม่ได้ปิดบังดวงตาที่เต็มไปด้วยแผนการ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...