วันรุ่งขึ้น ญาธิดาลากขาที่เจ็บของเธอเดินออกมา และทันทีที่เธอเข้ามาในสนามฝึกใต้ดิน เธอก็เห็นอลิสามองมาด้วยท่าทางแซวๆ
ญาธิดารู้สึกอึดอัดที่อีกฝ่ายเธอจ้องมองมาอย่างนี้ จึงถามด้วยความเขินอายเล็กน้อย “วันนี้ฉันดูแปลกๆ เหรอ”
"ธิดา สีหน้าดูไม่ค่อยดีเลยนะ" น้ำเสียงของเธอชวนให้อยากรู้อยากเห็นมากกว่าการแสดงออกบนใบหน้าเสียอีก
ญาธิดาเอาหลังมือแตะแก้มแล้วพูดพึมพำอย่างสงสัย "ฉันว่าก็ไม่เห็นเป็นไรนะ"
อลิสาเดินวนรอบตัวเธอ ประกายในดวงตาของอลิสาสว่างขึ้นเรื่อย ๆ และในที่สุดก็แตะหลังเธอด้วยข้อศอกพูดด้วยเสียงต่ำว่า "ทำไม? เมื่อคืนน้องสาวได้รับน้ำหล่อเลี้ยงมาเหรอ?"
เมื่อญาธิดาได้ยินแบบนั้น แก้มของเธอก็แดงทันที เธอรีบหันไปปิดปากของอลิสา และกลอกตามองอีกฝ่าอย่างหมดคำจะพูด
ภวินท์และหลุยส์ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าที่จะใส่วันนี้แล้ว ทั้งคู่อยู่ในชุดทหารสีเขียว ยิ่งขับให้ร่างกายล่ำสันกำยำของพวกเขาสูงขึ้น
“เธอสองคนยังมีอารมณ์มาเล่นตลกกันที่นี่อีหเหรอ วันนี้ถึงเวลาที่พวกเธอจะร้องไห้แล้ว” หลุยส์บ่นด้วยเสียงต่ำ จากนั้นก็คว้าข้อมือของอลิสาแล้วดึงเธอออกไป
ประกายแดงระเรื่อบนหน้าของญาธิดายังไม่จางหายไป เมื่อเห็นภวินท์ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ แก้มของเธอก็ยิ่งแดงขึ้นกว่าเดิม เธอก้มหน้าลงแล้วถามเสียงเบาว่า “วันนี้คุณหมอไม่ต้องฝึกกับฉันเหรอ? "
“อืม หลุยส์จะสอนเธอเอง” ภวินท์จับมือเล็กๆของเธอและกระซิบเบาๆ “หวังว่าคุณจะรับการฝึกในวันนี้ได้”
ขณะที่ทั้งสองพูด พวกเขาก็เดินไปที่ห้องปิดสนิทข้างๆ ทันทีที่ประตูเหล็กหนักๆเปิดออกด้วยสัญญาณอัตโนมัติ อาการหน้าแดงของญาธิดาก็จางหายไปทันที ถูกแทนที่ด้วยสีขาวซีด
ขนาดของห้องนั้นใหญ่มาก ขนาดแค่หายใจก็ยังมีเสียงสะท้อน
เมื่อเดินเข้ามาในประตูจะเห็นแท่นสีแดงขนาดใหญ่สะดุดตาอยู่ตรงกลางห้อง ตรงจุดที่สูงที่สุดของแท่นสีแดงมีเป้าวงกลมสีแดงสลับขาวหลายอันตั้งอยู่ แถมยังมีอาวุธต่างๆ แขวนอยู่สองข้างของกำแพงสีเขียวเข้ม แค่เห็นก็ให้ความรู้สึกเยือกเย็นแล้ว
ญาธิดาอดไม่ได้ที่จะก้าวถอยหลังไปสองก้าว ร่างกายที่ผอมเพรียวของเธอหยุดสั่นเทาอย่างไม่อาจห้ามได้ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความกลัวที่ถูกครอบงำด้วยความทรงจำ
เธอนั่งยองๆ บนพื้น จับศีรษะด้วยความเจ็บปวด และภาพตอนที่เธอเล็งปืนไปที่ภวินท์ก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเธออีกครั้ง
“ธิดา มันผ่านมาแล้ว” ภวินท์รีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อโอบเธอไว้ในอ้อมแขน และปลอบเธอเบาๆ “ใจเย็นๆ ไม่มีใครทำร้ายคุณได้…”
ญาธิดาฟังหูซ้ายทะลุออกหูขวา หลับตาและพึมพำกับตัวเอง: "ฉันไม่อยากทำ ฉันทำไม่ได้จริงๆ"
“ธิดา!” หัวใจของภวินท์กระตุก ความรู้สึกเจ็บปวดพลันเอ่อล้นออกมาอย่างเงียบ ๆ แต่ก็ถูกเขาระงับเอาไว้ได้
เขาไม่อยากใจอ่อน เขาอยากให้เธอเผชิญสิ่งนี้ แม้ว่าความทรงจำที่บ้านพักจะถูกเธอเก็บซ่อนเอาไว้ในส่วนลึกของหัวใจ แต่ก็ต้องมีระเบิดออกมาสักวัน และธิดาก็ไม่ควรต้องมาติดอยู่ภายใต้เงาของเหตุการณ์นี้ตลอดไป
เขาขมวดคิ้ว ขึ้นเสียงโดยไม่รู้ตัว ดึงไหล่ของเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม: “มองมาที่ผม! ถ้าคุณอยากอยู่ที่ozone คุณก็ต้องผ่านสิ่งนี้ไปให้ได้ คุณหนีมันไปตลอดไม่ได้หรอก!”
“วิน ได้โปรด…” เธอพึมพำด้วยเสียงแผ่วเบา พร้อมสะอื้นเสียงร้องไห้ออกมาอย่างหนัก
เธอกำแขนเสื้อของเขาแน่นราวกับว่ากำลังถือฟางช่วยชีวิตสุดท้ายเอาไว้
เมื่อเห็นท่าทางอ่อนแอของเธอ ดวงตาของภวินท์ก็ทอแววใจอ่อน เอนตัวแนบกับหูของเธอและกระซิบ: "ยอมแพ้เถอะ ทางสายนี้ไม่เหมาะกับคุณหรอก"
ญาธิดาเงยหน้าขึ้นอย่างลังเล ขนตาหนาเป็นแพรของเธอก็เปียกเล็กน้อย ดวงตาที่มัวหมองมีแต่ความลังเล
ยอมแพ้?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...