ปลายนิ้วของภวินท์คลายแรงลง นพเก้าร่วงไปกองบนพรมที่พื้นทันที
เธอเอาแต่ลูบลำคอที่ปวดร้าวของตัวเองพลางจ้องเขาด้วยแววตาแดงก่ำ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงเหมือนจะร้องไห้ว่า “ทำไมคุณถึงไม่ยอมเชื่อฉัน เมื่อตอนยังเด็กบทเรียนแรกที่เราได้เรียนรู้จากozoneคือการไม่หักหลังกัน”
เมื่อมองใบหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดแต่ยังคงพยายามอธิบาย แววตาของภวินท์ก็เต็มไปด้วยแสงมืดมิด เมื่อก่อนเขาเคยเห็นสีหน้าแบบเดียวกันนี้บนใบหน้าเด็กน้อยไร้เดียงสาของเธอ
แต่ภายหลังเธอกลับค่อย ๆ วิ่งสวนทางกับเขาทีละก้าว...
เมื่อนพเก้าเห็นว่าเขาไม่พูดไม่จาอยู่นาน จึงคิดว่าอาจจะยังพอมีโอกาส จึงรีบพุ่งตัวเข้าไปคว้ามือของเขาไว้โดยไม่สนใจความเจ็บปวดของตัวเอง
“ถึงคุณจะไม่เชื่อฉัน แต่ก็น่าจะเชื่อในความสามารถในการสอนของozone ฉันพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะชดเชยที่เคยทำร้ายธิดาในตอนนั้น ไม่อย่างนั้นฉันจะเสี่ยงชีวิตเข้าไปสืบเรื่องพวกนี้ทำไม”
ภวินท์มองเธออย่างเงียบ ๆ กระทั่งเธอพยายามแสดงความบริสุทธิ์ของตัวเองออกมาจนหมด ก่อนจะพูดเตือนสติเธอทีละคำว่า “ฉันเชื่อใจธิดาเท่านั้น”
นพเก้าร้องห่มร้องไห้ มองเขาด้วยสายตาเหลือเชื่อพลางถามเขาว่า “แล้วสิ่งที่ฉันทำมาทั้งหมดมันไม่มีค่าในสายตาของคุณเลยเหรอ?”
เขาไม่ได้ตอบคำถามของเธอ เพียงแต่ฉีกยิ้มเยาะเย้ยให้เป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ปลายนิ้วของนพเก้ากระชับแน่นขึ้น เล็บที่ทั้งยาวทั้งแหลมคมของเธอแทบจะเจาะลึกเข้าไปในเนื้อหนังข้อมือเขา เธอหัวเราะอย่างขมขื่นแววตาเต็มไปด้วยความร้ายกาจ
เธอยิ่งคิดก็ยิ่งไม่พอใจจนแทบอยากจะฟันแทงญาธิดาเป็นร้อยเป็นพันแผล ตอนนี้นางผู้หญิงชั้นต่ำนั่นได้ทุกอย่างที่ควรจะเป็นของเธอ!
โชคดีที่เธอไม่ได้ลงมือ โชคดีที่เธอไม่ได้ช่วยญาธิดาจริง ไม่อย่างนั้นศึกครั้งนี้เธอต้องพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชแค่ไหน นางผู้หญิงชั้นต่ำนั่นสามารถเหยียบเธอจมดินได้โดยไม่ต้องขยับหรือทำอะไรเลยแม้แต่น้อย
ภวินท์หมดความอดทน เมื่อไม่เห็นว่ามีข่าวใหม่อะไรเขาก็ปัดมือของเธอออกอย่างรังเกียจ
นพเก้ากรีดร้องกับการกระทำของเขา ข้อเท้าของเธอพลิกก่อนจะเอนตัวซบอกของภวินท์ ปลายรองเท้าส้นสูงของเธอเหยียบเข้าที่หลังรองเท้าของเขา ยังไม่ทันที่เขาจะได้ผลักเธอออก ร่างกายเย้ายวนของเธอก็ผลักเขาล้มลงบนเตียงเสียแล้ว
เข็มวินาทีบนหน้าปัดนาฬิกาบนผนังเคลื่อนไปอย่างช้า ๆ เข็มนาฬิกาทั้งสามเคลื่อนมาหยุดอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน
ติ๊ก——
ประตูห้องถูกเปิดออกอย่างแรง ญาธิดากับนิธิศปรากฏตัวที่หน้าประตูห้อง ในเวลานี้แววตาของเธอเต็มไปด้วยความตกตะลึงมองตรงไปยังสองคนที่นอนอยู่บนเตียง
ภายในห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นหอม หญิงสาวในอ้อมแขนของภวินท์ยังนุ่งน้อยห่มน้อย ท่าทางที่ยากจะบรรยายของทั้งสองคนกระตุ้นประสาทสัมผัสอันละเอียดอ่อนของเธอ
นพเก้าพลิกตัวลุกจากตัวของภวินท์โดยสัญชาตญาณ แสร้งทำเป็นตื่นตระหนกจัดแจงกระโปรงสั้นจนถึงโคนขาของตัวเอง ก่อนจะรีบอธิบายอย่างรีบร้อนว่า “ธิดา เธอฟังฉันอธิบายก่อนนะ มันไม่ใช่อย่างที่เธอคิด ฉัน...”
ขณะที่เธอกำลังพูด สายตาก็เหลือบมองไปที่นิธิศที่ยืนอยู่ข้างญาธิดา “คุณนิด หรือว่าคุณ...”
นพเก้ามองทั้งสองคนอย่างพิจารณาก่อนจะหันไปมองภวินท์อย่างตกใจอยู่นาน ก่อนจะบีบคำพูดออกจากลำคอตัวเองว่า “พวกคุณสองคนทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ด้วยกัน?”
“ประโยคนี้ฉันควรจะถามเธอมากกว่ามั้งคุณเก้า?”
น้ำเสียงของญาธิดาดังขึ้น แต่สายตากลับเอาแต่จ้องมองไปที่ภวินท์ ก่อนที่สุดท้ายจะหยุดยืนอยู่ตรงหน้าเขา “พวกคุณสองคนมาทำอะไรที่นี่?”
“ธิดา วินกับฉันมีธุระสำคัญต้องคุยกัน แต่คิดไม่ถึงว่าเธอกับคุณนิดจะมาเปิดห้องที่นี่เหมือนกัน มันก็แค่เรื่องเข้าใจผิด”
เพี๊ยะ——
นพเก้าพูดยังไม่ทันจบฝ่ามือของญาธิดาก็ฟาดลงบนใบหน้าของเธอทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...