ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 832

ท้องฟ้าค่อย ๆ เปลี่ยนจากสว่างสู่ความมืดมิด ก้อนเมฆขาวค่อย ๆ ลอยขึ้น โทรศัพท์ของภวินท์ยังไม่มีการรับสายอยู่เหมือนเดิม

กาแฟบนโต๊ะของญาธิดาถูกเติมให้แก้วแล้วแก้วเล่า แล้วก็หมดแก้วในไม่ช้า

เธอเหลือบมองหน้าจอครั้งแล้วครั้งเล่า ความมุ่งมั่นปรากฏบนใบหน้า

เมื่อเธอได้กลับมาทำงานนี้อีกครั้งจึงได้อ่านข้อมูลในอีเมล และพบว่าภวินท์ไม่ได้เฝ้าจับตาดูเธอ แต่เขากำลังตรวจสอบเรื่องของนิธิศ และดูแลความปลอดภัยของเธอ

ที่แท้เธอก็เป็นฝ่ายโวยวายไร้เหตุผลจริง ๆ ถึงได้ทำให้เรื่องมันแย่จนถึงวันนี้

ท้องฟ้าด้านนอกค่อย ๆ สว่าง เธอขยี้ตาอันปวดร้าว เงยหน้าขึ้นจากกองเอกสารหนาทึบและกดส่งแผนงานใหม่ให้พายุ จากนั้นใช้ประโยชน์จากอีเมลที่ยังไม่ได้ล็อกเอ้าท์โดยใช้วิธีการพูดแบบภวินท์กดส่งอีเมลแบบกลุ่มออกไป

ในระหว่างที่ “ภวินท์” เดินทางไปทำงานที่ต่างประเทศ งานทั้งหมดจะมีญาธิดาเป็นผู้ดูแลจัดการทั้งหมด

หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็ลุกไปอาบน้ำเย็นเพื่อชะล้างความเหนื่อยล้าออกไปจากร่างกาย และตรงไปยังสถานที่แรกที่ตั้งกำหนดการไว้

นิกรเป็นกรรมการบริหารที่มีหุ้นน้อยที่สุดในกลุ่ม STN Group เป็นเศษละอองเล็ก ๆ ที่พ่อของเขาทิ้งเอาไว้ให้ก่อนตาย คนคนนี้ปกติจะเป็นคนว่าง่ายไม่ค่อยหาเรื่องใคร จัดเป็นพวกประเภทที่แค่ทำเงินได้กำไรก็มีความสุข

ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้ญาธิดาแทบไม่ต้องพยายามอะไรเลย เพราะผู้ถือหุ้นอีกสองสามคนก็จัดการค่อนข้างง่ายเช่นกัน ส่วนคนที่รับมือยากที่สุดคือชายวัยกลางคนที่กำลังนั่งอยู่ตรงข้ามเธอในตอนนี้

ถ้าเธอจำไม่ผิด อินสมคนนี้เป็นหนึ่งในผู้บงการที่คอยปลุกปั่นความวุ่นวายบนบอร์ดบริหาร

“ในเมื่อคุณญาธิดารับที่จะจัดการ STN Group ที่กำลังประสบปัญหาที่รับมือยากนี้แล้ว คุณก็ควรจะรีบเข้าบริษัทไปจัดการปัญหาให้เรียบร้อยสิ มาที่บ้านผมในเวลาแบบนี้มันจะสร้างความเข้าใจผิดที่ไม่จำเป็นเอาได้ง่าย ๆ นะครับ” อินสมมองเธออย่างมีชัย น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน

ญาธิดาไม่สนใจท่าทีของเขา เธอยืดหลังตรงและวางเอกสารลงตรงหน้าเขา “คุณอินสม พวกเรามาคุยกันอย่างตรงไปตรงมาเลยดีกว่านะคะ วันนี้ดิฉันมาที่นี่เพราะสิ่งนี้”

เอกสารขอซื้อหุ้น?

อินสมหัวเราะลั่นออกมาทันทีก่อนจะขยำเอกสารสัญญาโยนลงในถังขยะใต้เท้าของเขา พลางพูดด้วยน้ำเสียงเหยียดหยันว่า “คุณญาธิดายังเด็กเกินไปจริง ๆ แม้แต่วิธีจัดการปัญหาก็เป็นวิธีแบบเด็ก ๆ ทำไมคุณถึงคิดว่าผมจะต้องขายหุ้นให้คุณ?”

“ก็เพราะฉันถือหุ้น 47% ของ STN Group อยู่ในมือ และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดในตอนนี้ไงคะ”

เธอพูดพลางวางสัญญาฉบับใหม่ลงบนโต๊ะ “ถ้าไม่มีลายเซ็นของคุณมันก็ไม่ต่างอะไรกับกระดาษเปล่า ฉันยังมีอีกหลายฉบับ ที่ให้คุณไปไม่ใช่ฉบับสุดท้ายแน่นอนค่ะ”

เมื่อเห็นสีหน้ามั่นอกมั่นใจของเธอ สีหน้าของอินสมเปลี่ยนไปเล็กน้อย รอยยิ้มบนใบหน้าแทบจะเกร็งไว้ไม่อยู่ แต่สุดท้ายก็ยังฝืนยิ้มอยู่ได้

“หุ้น 47%ที่คุณญาธิดาว่าคงไม่ได้รวมตัวของผมด้วยหรอกใช่ไหม? คงไม่ใช่มีแต่เช็คเปล่าใช่ไหม?”

“กระดูกแข็งเคี้ยวยากอย่างคุณ ฉันต้องเหลือไว้เป็นคนสุดท้ายอยู่แล้ว แถมยังมาพร้อมกับความมั่นใจเต็มร้อยเลยด้วย”

เธอจัดเรียงสัญญาขอซื้อหุ้นสามสี่ฉบับที่ลงนามเรียบร้อยแล้วลงบนโต๊ะ เมื่อมองเอกสารขาวดำที่มีผลบังคับใช้เหล่านี้แล้ว สีหน้าของอินสมก็ค่อย ๆ คลายลง

จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าผู้หญิงตรงหน้าน่ากลัวกว่าที่เขาคิดไว้ แถมเขายังเอาเปรียบอะไรไม่ได้ด้วยจึงไม่อยากพูดไร้สาระกับเธอต่อ “ผมไม่สนใจสัญญาของคุณ คุณไปได้แล้ว”

เขาพูดพลางลุกขึ้นยืน

ญาธิดาไม่ได้มองเขาและจัดเก็บเอกสารในมืออย่างไม่รีบร้อน ก่อนจะพูดท่ามกลางความเงียบขึ้นมาว่า “ลงมือตอนนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของคุณนะคะ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะต้องสูญเสียทุกอย่างโดยไม่ได้อะไรกลับคืน”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์