“ปล่อย!” ญาธิดากดเสียงต่ำและพยายามดิ้นเพื่อจะหลุดพ้นจากเงื้อมมือของเขา “คุณสมิธที่นี่ถิ่นของฉันโปรดให้ความเคารพกับฉันด้วย”
อาริโอไม่พบแผ่นชิปบนตัวของเธอซึ่งมันทำให้สีหน้าของเขายิ่งแย่เข้าไปใหญ่ ก่อนจะสลัดข้อมือของเธอออกและเดินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
ยังไม่ทันที่เธอจะได้ถอนหายใจโล่งอก ร่างสูงของใครคนหนึ่งก็สะท้อนอยู่ในดวงตาของเธออีกครั้ง
ภวินท์...
ปลายนิ้วของเธอสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ ขาทั้งสองข้างเดินแหวกผ่านฝูงชนออกไปด้านหน้าเหมือนขาเต็มไปด้วยตะกั่ว
เมื่อเธอขยับเข้าไปใกล้คนที่เฝ้านึกถึงอยู่ทั้งวันทั้งคืน จู่ ๆ ฝีเท้าของเธอก็หยุดชะงักอย่างกะทันหันและมองภาพเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างไม่อยากจะเชื่อ
ไม่รู้ว่านพเก้าเดินมาโผล่ข้าง ๆ ภวินท์ตั้งแต่เมื่อไหร่ แขนเรียวขาวคล้องแขนของภวินท์ไว้อย่างเป็นธรรมชาติพลางเอนศีรษะซบลงตรงไหล่เขา
ญาธิดามองภาพปาดตาปาดใจตรงหน้า ปลายนิ้วกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัวจนเล็บจิกเข้ากับฝ่ามือจนเป็นรอยไปหมด
เธอร้องตะโกนในใจหวังให้ภวินท์ผลักนพเก้าออกไป
แต่น่าเสียดายที่มันไม่เป็นแบบนั้น...
ภวินท์ลูบปัดลูกผมตามหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา พลางก้มกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของเธอ ส่วนนพเก้าก็ฉีกยิ้มออดอ้อนอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ญาธิดาถอยหลังสองก้าวอย่างอดไม่ได้ ทำได้เพียงใช้มือค้ำโต๊ะที่อยู่ข้าง ๆ เพื่อพยุงตัวเองไว้
เธอพยายามห้ามไม่ให้ตัวเองหุนหันพลันแล่นเดินเข้าไปถาม และคอยบอกตัวเองอยู่ตลอดว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่วิน วินไม่มีทางใกล้ชิดสนิทสนมกับผู้หญิงคนอื่นขนาดนี้...
เพล้ง——
ขณะที่กำลังเหม่อลอยหอคอยแก้วที่อยู่ข้าง ๆ ก็ถูกเธอปัดจนร่วงแตก สายตาของทุกคนทยอยหันมองมาที่เธอ ทุกคนต่างกำลังแสดงสีหน้าที่ยากจะอธิบายได้
ราวกับกำลังคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงที่สามารถพยุงเมือง J ได้ด้วยมือเพียงข้างเดียวจะมีด้านที่อับอายแบบนี้ด้วย
กลิ่นไวน์แดงหอมกรุ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ของเหลวสีแดงเลอะเปรอะตามชุดกระโปรงสีขาวของเธอ เธอเงยหน้าขึ้นมองภวินท์โดยไม่รู้ตัว ราวกับอยากจะเห็นว่าใบหน้าเมินเฉยไม่แยแสของเขามีอะไรเปลี่ยนไปบ้างไหม แต่สุดท้ายเขาก็ยังมองเหมือนเป็นคนแปลกหน้าอยู่ดี
อารมณ์ของเธอจมดิ่ง สายตาเย็นชาค่อย ๆ เหลือบมองไปทางนพเก้า ส่วนนพเก้าก็กำลังมองตามสายตาของภวินท์ด้วยเหมือนกัน
วินาทีที่พวกเธอสบตากัน สีหน้าของเธอเหมือนกำลังตื่นตระหนก ราวกับคิดไม่ถึงว่าจะมาเจอญาธิดาที่นี่ แต่แค่ไม่นานเธอก็ปรับอารมณ์ของตัวเองได้ และยังทำท่าทางสนิทสนมกับภวินท์ต่อโดยไม่คิดที่จะเข้ามาทักทายเธอ
รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนี้ไม่สามารถรอดพ้นจากสายตาของญาธิดาไปได้ แสงหนึ่งวาบเข้ามาในแววตาของเธอ หลังจากสูดหายใจเข้าลึก ๆ ยกมือขึ้นเช็ดคราบไวน์แดงบนชุดกระโปรงของตัวเองแล้วเดินตรงเข้าไปหานพเก้า
“คุณเก้าไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” เธอเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดก่อน
นพเก้ายังคงจับมือกับภวินท์อย่างสนิทสนม ความตื่นตระหนกเมื่อครู่ได้หายไปแล้ว การได้มาเผชิญหน้ากับญาธิดาในวันนี้ ในแววตาของเธอมีแต่ความสะใจ ราวกับเธอเป็นผู้ชนะคนสุดท้าย
“ไม่คิดเลยนะว่าเพื่อนเก่าคนแรกที่ฉันได้เจอหลังกลับจากยุโรปจะเป็นเธอ”
นพเก้าพูดด้วยน้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม ทันใดนั้นก็ซุกตัวเข้าซบอกของภวินท์พลางพูดแนะนำว่า “นี่ภวินท์คู่หมั้นของฉัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...