พอเห็นว่าเธอสามารถเบี่ยงเบนประเด็นไปได้อย่างง่ายดาย แล้วก็ทำให้เธอต้องถูกภวินท์แค้นเคือง นพเก้าก็รู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แล้วก็พุ่งเข้าไปทันที
“ญาธิดา เธออย่าทำมาเป็นไม่รู้เรื่องหน่อยเลย ใครไม่รู้บ้างว่าเธอเคยเป็นคนขององค์กร ไม่เจอกันตั้งหลายปี ใครจะไปรู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงที่เธอเข้าหาตระกูลสมิธคืออะไร!”
แล้วบรรยากาศภายในห้องทำงานก็ลดลงจนสู่จุดเยือกแข็งในทันที ญาธิดายังไม่ทันจะได้พูดอะไร จู่ๆ ภวินท์ก็ลุกขึ้น แล้วก็จบลงไปบนใบหน้าของนพเก้าอย่างแรง
“วิน!”เธอค่อยๆ หันหน้ามา แก้มแดงๆ ของเธอมีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความคับข้องใจ แล้วก็ถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งว่า “พวกเราโตมาด้วยกัน แต่ว่าพอผู้หญิงชั้นต่ำคนนี้ยัดเยียดตัวตนปลอมๆ ให้คุณ นายเชื่อฟังคำพูดของมันงั้นเหรอ?!”
ความเยือกเย็นที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างกายของภวินท์มันหนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงของเขาก็เย็นชาจนทำให้คนที่ได้ยินต้องสั่นสะท้าน “ถ้าเกิดว่าเธอยังอยากจะกลับยุโรปอย่างสงบสุด ก็หุบปากเดี๋ยวนี้! แล้วก็ขอโทษคุณญาธิดาสำหรับความหยาบคายของตัวเองด้วย!”
“ไม่ต้องหรอก”
ญาธิดาเดินเข้าไปหานพเก้า แล้วก็ใช้ปลายนิ้วลูบไล้บนใบหน้าที่บวมแดงของเธอเบาๆ และริมฝีปากสีเชอร์รี่ของเธอก็แผยรอยยิ้มจางๆ “คุณนพเก้าก็แค่ลืมตัวไป ว่าตัวเองก็เป็นคนที่มาจากองค์กรเหมือนกัน แถมยังเป็นตนของสำนักงานใหญ่……”
หินเพียงก้อนเดียวทำให้เกิดคลื่นสั่นสะเทือนเป็นพัน อาริโอมองดูคนสามคนที่อยู่ตรงหน้าของตัวเองตอนนี้ด้วยความตกใจ แล้วก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกหนาวเหน็บ พลางคิดในใจว่าคนที่อยู่ข้างเขาจริงๆ คือใครกันแน่
ถ้าเกิดว่าเขาจำไม่ผิดล่ะก็ ตอนที่นพเก้าร่วมงานกับสหภาพการค้ายุโรปนั้น ภวินท์ยังเป็นคนขององค์กรภายในประเทศ แต่หลังจากที่นพเก้ารับประกันว่าเขาความจำเสื่อม ไม่มีอันตรายใดๆ ตระกูลของเขาก็สังเกตอย่างระมัดระวังมาสามปี ถึงได้ไว้วางใจให้ภวินท์รับหน้าที่สำคัญนี้
แต่ว่าสิ่งที่เขานึกไม่ถึงเลยก็คือ คนที่เขาไว้ใจได้มากที่สุดอย่างนพเก้าที่เป็นคนช่วยชีวิตของเขาเอาไว้ ก็มีความเกี่ยวข้องกับองค์กรภายในประเทศเหมือนกัน
พอเห็นสายตาที่ตื่นตระหนกของนพเก้า ญาธิดาก็ยิ้มอย่างมั่นใจมากขึ้ “ทำไมฉันถึงเข้าร่วมองค์กร และทำไมถึงถูกตัดออก ไม่มีใครรู้ดีกว่าคุณหรอกนะ ตอนนี้ชีวิตของฉันกลับมาสงบสุขเหมือนเดิมแล้ว ก็ขอแนะนำว่าอย่าไปเล่นกับไฟและจุดไฟเผาตัวเองเลยนะ”
จากเหตุการณ์เรื่องชิปครั้งล่าสุดทำให้อาริโอสงสัยในตัวตนของเธอ มันก็ทำให้เธอรู้สึกปวดหัวและคิดว่าจะหลอกเขายังไงดี แต่ไม่คิดเลยว่าวันนี้นพเก้าจะช่วยเธออย่างไม่ได้ตั้งใจ
ถ้าเกิดว่าอาริโอไปสืบจริงๆ จะรู้เลยว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับozoneเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วก็จะเห็นข้อมูลที่เธอไม่ได้เหมาะสมกับozoneเลยด้วย
“ในเมื่อคุณสมิธสงสัยในตัวตนของฉัน ถ้ายังงั้นพวกเราก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่ต้องติดต่อกันอีกแล้วแหละค่ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปทุกคนก็กลับเข้าสู่ลู่ทางของตัวเองแล้วกัน ตอนนี้ฉันรู้สึกไมชอบคุณอย่างมากเลย” น้ำเสียงของเธอหนักแน่นขึ้น หลังจากนั้นก็กระแทกเอกสารในมือลงที่โต๊ะ แล้วก็เดินไปที่หน้าประตู
ใบหน้าของอาริโอมืดมนลงทันที แล้วก็ยื่นมือไปขวางเธอไว้ “ธิดา ผมจะมอบความยุติธรรมให้คุณเอง ดังนั้นคุณต้องอยู่ที่นี่นะ”
“อาริโอ คุณคิดว่าผู้หญิงตะวันออกโง่หมดทุกคนรึไง?!”
เธอไม่ปล่อยให้เขาได้พูดอะไร ยื่นมือไปคว้าเนกไทของอาริโอแล้วก็ดึงเขาเข้ามาตรงหน้าของตัวเอง สายตาที่เธอมองไปที่เขานั้นมันเต็มไปด้วยความรังเกียจ “คุณอยากคืนความยุติธรรมให้ฉัน หรือว่าอยากกำจัดฉันหลังจากที่ได้ผลลัพธ์แล้ว……”
พอพูดจบ เธอก็หัวเราะออกมาแล้วก็ผลักเขาไปด้านข้าง หลังจากนั้นก็ชี้ไปที่คอมพิวเตอร์แล้วก็ตะคอกออกมา “งั้นตอนนี้ก็รีบตรวจสอบตัวตนของฉันเลยสิ นี่คือโอกาสสุดท้ายที่ฉันจะมอบให้”
อาริโอจ้องเธอเป็นเวลานาน เหมือนกับว่าเสียใจที่เมื่อกี้ได้ตัดสินใจไปด้วยความใจร้อน ก็เลยพยายามรักษาระยะห่างทันที และพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนกว่าเดิม “ออกไปสูดอากาศหน่อยเถอะ เดี๋ยวผมจะรอคุณในนี้”
เขาต้องยอมรับเลยว่า ตัวเองรู้สึกชื่นชมสาวชาวตะวันออกคนนี้มากจริงๆ ขอแค่เธอไม่ข่มขู่ถึงผลประโยชน์ของเขา ไม่ว่าจะอะไรเขาก็รับได้ทั้งนั้น
ถ้าเกิดว่าผลลัพธ์เป็นที่ไม่น่าพอใจ เขาจะจบชีวิตเธอด้วยมือของเขาเอง แต่จะไม่ปล่อยให้คนอื่นได้ครอบครองเธอ……
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...