ภวินท์เคยคิดไหมว่า คำพูดของเขาอาจจะเปิดเผยแผนการทั้งหมดของเธอเลยก็ได้ หรือแม้กระทั่งผลักเธอเข้าสู่ขุมนรก
ถึงแม้ว่าตอนนี้พวกเขาจะไม่ใช่สามีภรรยากันแล้ว แต่ว่าก็ไม่ได้ถึงขั้นเป็นศัตรูที่เห็นหน้ากันแล้วจะรู้สึกอิจฉาตาร้อน แล้วทำไมเขาถึงได้ผลักเธอทีละก้าวให้เดินเข้าสู่ความตายแบบนี้!
ญาธิดากำหมัดทั้งสองข้างแน่น แล้วก็ตอบอย่างขุ่นเคืองว่า “ในเมื่อพวกคุณคุยเรื่องธุระกัน งั้นฉันกลับก่อนล่ะ”
นพเก้าเห็นสีหน้าทุกอย่างของเธอ บวกกับความดุดันของภวินท์ มันทำให้เธอมีความสุขขึ้นมาอย่างมากมายทันที สิ่งที่ญาธิดาทำให้เธอรู้สึกอึดอัดในช่วงเวลาที่ผ่านมา เหมือนกับเธอได้ระบายมันออกมาทั้งหมดในตอนนี้
พอเห็นว่าญาธิดาลุกขึ้นจะเดินออกไป นพเก้าก็หัวเราะเยาะออกมาทันทีและขวางทางของเธอเอาไว้ พร้อมกับพูดช้าๆ ว่า “ไม่ว่าจะยังไง พวกเราก็ถือว่าเป็นเพื่อนของคุณนิด ตอนนี้เขาได้สาวงามไปครอบครองแล้ว พวกเราก็ต้องฉลองให้เขาหน่อยสิ”
หลังจากที่เธอพูดจบก็โบกมือเรียกพนักงานเสิร์ฟทันที แล้วก็หยิบบัตรทองออกมาจากกระเป๋าตังค์ของตัวเอง แล้วก็กระซิบบางอย่างกับเขา หลังจากนั้นพนักงานก็เดินออกไปด้วยท่าทีที่นอบน้อม
ไม่นาน นอกจากของหวานและกาแฟอันเป็นเอกลักษณ์ของร้านแล้ว ยังมีอาหารบนโต๊ะอีกมากมายที่ไม่ได้เป็นของคาเฟ่ ซึ่งแต่ละจานเป็นเมนูพิเศษของร้านอาหารรอบๆ ข้างนี้ทั้งหมด
รอยยิ้มที่จอมปลอมผุดขึ้นบนใบหน้าของนพเก้า แล้วก็อธิบายด้วยเสียงดังฟังชัดว่า “ฉันคิดว่าทุกคนก็เหนื่อยมามากแล้ว ก็เลยให้พนักงานนำของมาเยอะหน่อย”
ตอนที่เธอยังไม่ทันจะพูดจบ ภวินท์ก็คีบอาหารขึ้นมาอย่างสง่างามและวางลงบนจานของเธอ
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาทำอะไรแบบนี้ นพเก้ารู้สึกปลื้มปริ่มเป็นอย่างมาก แก้มของเธอแดงขึ้นทันที เธอลืมไปเลยว่าหลังจากนี้เธอเตรียมจะพูดอะไร แล้วก็มุดตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขาด้วยความเขินอาย
ส่วนภวินท์ก็ไม่ได้หลีกเลี่ยงอย่างที่เป็นตามปกติ และก็พูดด้วยเสียงเบาว่า “วันนี้เหนื่อยหน่อยนะ ดูแลตัวเองให้ดีหน่อยสิ”
“วิน……”เสียงที่ละเอียดอ่อนของเธอดังขึ้น แทบทนไม่ไหวที่อยากจะเทร่างกายทั้งหมดแนบไปกับตัวของภวินท์
พอญาธิดาได้ยินดังนั้น มือที่คีบอาหารอยู่นั้นก็สั่นทันที เมล็ดทานตะวันแสนอร่อยหล่นลงบนโต๊ะอย่างกะทันหัน สีหน้าของเธอยิ่งดูเก้อเขินมากขึ้นไปอีก และเธออยากจะฝังหัวของเธอลงในจานทันที
นิธิศวางปลาที่คีบมาบนจานของเธอ แล้วก็ยิ้มให้เธอพร้อมกับอธิบายว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ธิดามาเป็นเพื่อนกับผมเรื่องงาน ก็คงยังปรับตัวไม่ค่อยได้เท่าไหร่ หวังว่าทั้งสองคนจะไม่ถือสานะครับ”
“จะถือสาได้ยังไงล่ะคะ”นพเก้ามองไปทางทั้งสองคนอย่างอารมณ์ไม่ดี แล้วก็ยื่นมือไปป้อนอาหารให้ภวินท์
ภวินท์หันหน้าไปทางอื่นอย่างไม่เกี่ยวข้อง แล้วก็หยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดริมฝีปากของเธอ แล้วก็หันไปสบตาญาธิดาอย่างไม่ได้ตั้งใจ
พอรู้สึกถึงสายตาที่เย็นชา เธอก็ก้มหน้าลง และเธอก็รู้สึกไม่สบายขึ้นเรื่อยๆ และพยายามปกปิดความเขินอายของตัวเองด้วยการดื่มน้ำ
“ระวังร้อน”
นิธิศยังไม่ทันจะพูดจบ ใบหน้าที่บอบบางของเธอก็บูดเบี้ยว เธอวางแก้วน้ำลงแล้วร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด นิธิศเห็นดังนั้นใบหน้าก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างไม่มีทางเลี่ยง แม้แต่น้ำเสียงที่บ่นเธอนั้นยังดูอ่อนโยนผิดปกติ
สำหรับญาธิดาแล้วนั้น โต๊ะอาหารนี้เหมือนเป็นอสุราที่ไม่มีควันปืนมากกว่า ทั้งสี่คนต่างแสดงความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเอง มีเพียงแค่เธอเท่านั้นที่เข้าไม่ได้
ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกท้อแท้ในใจ เธอเพียงวางภาชนะบนโต๊ะอาหารแล้วยืนขึ้น แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ขอโทษด้วยจริงๆนะ แต่ว่าฉันไม่ชอบสถานที่แบบนี้เลย ฉันไม่รบกวนการกินข้าวของทุกคนดีกว่า”
“ธิดา……”นิธิศรีบตามเธอออกมา แล้วทั้งสองคนก็ออกมาจากร้านกาแฟ
พอเห็นว่าญาธิดาหนีเตลิดไป นพเก้าก็เชิดหน้าขึ้น สายตาของเธอดูพึงพอใจอย่างไม่ปิดบัง แล้วก็หัวเราะออกมาอย่างดูถูกเหยียดหยาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...