“สบายใจได้” ภวินท์โอบกอดเธอพลางมองเธอนิ่ง ๆ “พวกเราได้แฮ็คเข้าไปในคอมพิวเตอร์ของทิวัตถ์และสกัดกั้นข้อมูลที่เขาส่งให้นพเก้าเอาไว้ได้ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงยังไม่รู้ว่าทิวัตถ์ถูกพวกเราควบคุมตัวแล้ว”
ทันทีที่สัญญาณเตือนภัยทางคอมพิวเตอร์ของทิวัตถ์ดังขึ้น เขาก็รู้แล้วว่าตัวเองถูกเปิดโปงแล้ว ดังนั้นเขาเลยพาญาธิดาขึ้นไปบนชั้นดาดฟ้า คิดอยากจะตายไปพร้อมกันกับญาธิดา
แถมเขายังเตรียมแผนสำรองไว้อีกด้วย ทันทีที่สัญญาณเตือนภัยดังขึ้นเขาก็กดส่งข้อมูลของญาธิดาส่งไปให้นพเก้าทันที
ถ้านพเก้าได้ข้อมูลนี้ไปญาธิดาคงตกอยู่ในอันตรายแน่นอน
โชคดีที่พวกเขาคาดการณ์ไว้แล้วล่วงหน้าว่าทิวัตถ์จะทำแบบนี้จึงได้สกัดกั้นข้อมูลเอาไว้ก่อน
ญาธิดาโล่งใจ ตราบใดที่ไม่ส่งผลกระทบต่อองค์กรก็พอแล้ว
เธอเหมือนนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ จึงทุบหน้าอกของภวินท์เบา ๆ แล้วเขียนบอกเขาว่า “ฉันยังไม่ได้ถามคุณเลยว่าตอนนั้นคุณไปเจอฉันที่ดาดฟ้าได้ยังไง?”
ภวินท์ยิ้มน้อย ๆ “ฉันไปกับเอลล่า”
ญาธิดาเบิกตากว้าง “คุณสะกดรอยตามฉัน!”
แถมยังพาเอลล่าไปด้วยอีก!
ภวินท์ถอนหายใจและจูบลงบนหน้าผากของเธอ “สถานการณ์ก่อนหน้านี้มันอันตรายขนาดนั้น ฉันจะวางใจให้เธออยู่กับทิวัตถ์ได้ยังไงล่ะ”
ญาธิดาไม่พูดอะไร มีแต่ความหวานที่เกาะกุมในหัวใจ
อย่างน้อยภวินท์ก็ห่วงใยเธอ และยอมเสี่ยงชีวิตมาตามหาเธอ
อาการเจ็บที่คอของญาธิดาไม่ได้รุนแรงมากนัก หลังจากพักผ่อนไม่กี่วันเธอก็สามารถพูดได้ตามปกติ
วันนี้เธอยังคงนึกถึงศัตรูที่ยังซ่อนตัวอยู่ในความมืด ทำให้รู้สึกไม่สบายใจจนต้องเอ่ยถามขึ้นว่า :
“แล้วขั้นต่อไป พวกคุณมีแผนการยังไงต่อไป?”
“ยังไม่พูดเรื่องนี้ตอนนี้ ฉันจะพาเธอไปที่ที่หนึ่ง”
ญาธิดาถูกภวินท์จูงออกไป และก่อนจะออกไปก็ได้พาเอลล่าไปด้วย
ทั้งสามคนขึ้นรถ หลังจากญาธิดามองดูเส้นทางเธอก็รู้สึกถึงบางอย่างขึ้นมา
“นี่กำลังจะไปozone?”
แววตาของเธอดูเหมือนกำลังเย้ยหยันเล็กน้อย เมื่อภวินท์เห็นแบบนั้นก็พูดขึ้นเบา ๆ ว่า “เอาน่า นี่มันก็สองปีมาแล้ว เธอก็อยากโกรธจรณ์อีกเลย เขาก็ลำบากใจเหมือนกัน เธอก็อย่าคิดเล็กคิดน้อยอะไรกับเขาอีกเลยนะ”
ระหว่างการสนทนารถก็ค่อย ๆ หยุดลง ทั้งสามคนเดินเข้าไปในห้องโถง ยังไม่ทันได้ก้าวเดินเข้าไปก็ได้ยินเสียงดังออกมาแว่ว ๆ
“โชคดีที่ย้ายออกมาจากบ้านพักได้ทันเวลา เลยไม่ถูกพ่อลักพาตัวด้วยอีกคน ถ้าไม่ใช่เพราะผมอยู่ที่นี่ ป่านนี้แผนการของพวกคุณคงจะล้มเหลวไปแล้ว” เสียงบ่นของอีธานดังแว่วมา
ญาธิดารีบเดินเข้าไปบิดหูของอีธานพลางตะโกนพูดว่า “ดีจริง ๆ ที่แท้ลูกก็ร่วมมือกับพวกเขาด้วยเหรอ นี่ลูกร่วมมือกับพ่อเพื่อหลอกแม่งั้นเหรอ?”
อีฑานหน้าบูดบึ้งด้วยความเจ็บปวด แต่เพราะรู้ว่าตอนนี้ญาธิดากำลังโมโห เขาจึงทำได้แค่ยอมรับผิด “เจ็บ ๆ ๆ...แม่ครับ พวกเราทำไปเพราะหวังดีกับแม่นะ อีกอย่างที่คุณพ่อต้องหายไปสองปีก็เพื่อจะจัดการเรื่องนี้ให้มันเร็วขึ้นไม่ใช่หรือไง”
เอลล่าที่อยู่ข้าง ๆ พยักหน้าอย่างหนักแน่น “ใช่ คุณพ่อทำลงไปก็เพื่อจะได้จบเรื่องทุกอย่างเร็ว ๆ ถึงได้เลือกที่จะปิดบังแม่ไง”
จรณ์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ทำหน้าหนักใจ พลางแอบบ่นเจ้าเด็กสองคนนี้ว่าถึงกับยอมขายชื่อของตัวเองเพื่อจะปกป้องพ่อ
เมื่อญาธิดาได้ยินแบบนั้นเธอก็มองไปรอบ ๆ ด้วยใบหน้าที่ยิ่งโกรธมากกว่าเดิม “ที่แท้พวกเธอก็รู้กับทุกคน และปิดบังฉันคนเดียว...”
เธอหันกลับมาจ้องภวินท์ “งั้นที่คุณหายไปสองปีก็เพื่อจะกลับมาโกหกฉันเหรอ?”
เอลล่ารีบพูดแทรกขึ้นมาทันที “แม่คะ แม่อย่าโกรธเลยนะคะ เรื่องนี้จะโทษคุณพ่อไม่ได้นะคะ เพราะลุงจรณ์ขอให้คุณพ่อแกล้งทำเป็นความจำเสื่อมเพื่อแฝงตัวเข้าไปภายในองค์กรของศัตรู”
จรณ์กุมขมับ เอาเลย ตอนนี้แม้แต่เขาก็ถูกขายไปด้วยอีกคนแล้ว
ญาธิดายิ้มเยาะคล้ายกำลังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกภวินท์ดึงตัวเข้าไปกระแทกเข้าที่หน้าอกแสนอบอุ่นของเขา
น้ำเสียงรักใคร่เอ็นดูของภวินท์ดังมาจากเหนือศีรษะ “ฉันผิดไปแล้วธิดา ไว้ฉันจะให้เธอลงโทษโอเคไหม?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...