เธอมองลงไปดูการจราจรที่คับคั่งด้านล่างตึกสูง ทันใดนั้นโลกเบื้องหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป หลังจากดิ้นรนได้เพียงไม่กี่ครั้งก็ถูกนิธิศกดไว้แน่น
เขาบีบคางของเธออย่างแรง ในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง “ธิดา ทีแรกฉันไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเธอหรอกนะ เพราะฉันชอบเธอมาก แต่ทำไมเธอถึงชอบแตะขีดจำกัดของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่า!”
ใบหน้าสวยของเธอแดงก่ำ เอ่ยปากพูดออกมาอย่างยากลำบาก “ทิวัตถ์ ในชีวิตของคุณไม่ได้มีแค่ฉัน ยังมีพ่อแม่และครอบครัวของคุณอีก ลองนึกถึงพวกเขา...”
“หุบปาก!” เขาแหกปากคำรามด้วยดวงตาแดงก่ำ “ในสายตาของพวกเขามีแค่นิธิศ มีแค่ลูกชายที่หาผลประโยชน์มาให้พวกเขาคนนั้น พวกเขาไม่เคยมองฉันตรง ๆ เลยด้วยซ้ำ! พวกเขาสมควรตาย...เธอก็สมควรตายเหมือนกัน!!!”
เขาเพิ่มแรงที่มือ ออกแรงบีบคอของญาธิดา กดร่างเพรียวบางของเธอแนบติดกับริมดาดฟ้า
“หลุยส์น่าจะได้เอกสารฉบับนั้นแล้ว ยังไงฉันก็มีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ลากเธอไปตายด้วยกันเลยแล้วกัน! ธิดา ชาติหน้า หรือพวกเราอาจจะกลายไปเป็นสามีภรรยากันในนรกก็ได้ ไม่เป็นไร ฉันรอได้!”
ทิวัตถ์ดูบ้ามาก ในดวงตาของเขาเหลือเพียงเส้นเลือดแดงก่ำ ญาธิดาถูกเขาบีบคอแน่น แก้มขาวเนียนก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีม่วงเนื่องจากถูกบีบจนหายใจไม่ออก
ตอนนี้ญาธิดาพูดไม่ออกแม้แต่ประโยคเดียว ในใจเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
เมื่อนึกถึงอีธานกับเอลล่า หัวใจของญาธิดาก็เกิดความรู้สึกไม่เต็มใจตายทั้งแบบนี้ขึ้นมา
ใครก็ได้ช่วยเธอที
ตุบ——
เสียงของหนักล้มลงกับพื้น คอของญาธิดาคลายลงก่อนที่จะสูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอดเป็นจำนวนมาก ญาธิดารู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่ ร่างกายเธออ่อนแรง ได้แต่จับต้นคอที่ปวดร้าวของตัวเองและทรุดตัวลงกับพื้น พลางพยายามสูดอากาศหายใจ
ไม่กี่วินาทีต่อมาหลังจากเธอเริ่มสงบลงไปบ้างเล็กน้อย ญาธิดาก็เงยหน้าขึ้นมองถึงได้พบว่าเกิดอะไรขึ้น
ทิวัตถ์ถูกกดลงกับพื้น และมีหมัดรัวลงบนใบหน้าของเขาราวกับพายุฝน โดยที่เขาไม่มีแม้แต่โอกาสจะสู้กลับจึงถูกชกจนหมดสติไป
ขายคนนั้นหันหลังให้เขา หลังจากรอจนแน่ใจว่าทิวัตถ์สลบไปแล้วเขาถึงลุกขึ้นยืนเช็ดรอยเลือดที่มือของตัวเอง และเดินเข้าไปหาญาธิดา
เมื่อสายตาของเธอจับจ้องคนที่อยู่เบื้องหน้า แววตาของเธอก็เต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
กระทั่งภวินท์เดินเข้ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอแล้วเอื้อมมือเข้ามาหา ญาธิดาถึงได้สติ
ญาธิดาวางมือลงบนฝ่ามืออบอุ่นของภวินท์และเงยหน้าขึ้นมองเขา “คุณ...”
เธออยากถามเขาว่าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้
แต่ทันทีที่อ้าปากจะพูด ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่คอก็ทำเอาญาธิดาถึงกับไอสำลักออกมา ภวินท์กอดเธอพลางเหลือบมองรอยสีแดงเข้มที่ลำคอก่อนจะพูดเสียงขรึมว่า “คอของเธอบาดเจ็บ ยังไม่ต้องพูดจะดีกว่า”
ญาธิดามองเขาอย่างพิจารณา ภวินท์นิ่งไปและไม่ได้อธิบายอะไร ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนขึ้นมาบนดาดฟ้าและพาทิวัตถ์ที่หมดสติลงไป
ส่วนญาธิดาก็นั่งรถพยาบาลมาถึงโรงพยาบาลพร้อมกับภวินท์
หลังจากผ่านการตรวจอย่างละเอียด ร่างกายของญาธิดามีเพียงแค่รอยขีดข่วนเล็กน้อยตามร่างกายเท่านั้นและไม่ได้ร้ายแรงอะไร แต่ลำคอของเธอเนื่องจากเส้นเสียงได้รับความเสียหาย เกรงว่าระยะนี้เธอคงจะพูดไม่ได้ไปอีกสักระยะ
หลังจากสถานการณ์เรื่องนี้คลี่คลาย ภวินท์ก็จองเที่ยวบินกลับ ด้านญาธิดาก็ไม่มีกะจิตกะใจจะเที่ยวเล่นอยู่ที่นี่ต่อแล้ว
ทางด้านนิธิศก็มีตำรวจข้ามพรมแดนทั้งสองประเทศคอยประสานงานกันอยู่ ญาธิดาก็ไม่จำเป็นต้องติดตามเรื่องนี้แล้ว ดังนั้นเช้าวันรุ่งขึ้นเธอจึงพาลูกกลับมาที่เมือง J ทันที
ญาธิดาบาดเจ็บที่คอพูดไม่ได้ จึงทำได้แค่อยู่แต่ที่บ้านเท่านั้น
เช้าวันต่อมาเสียงกริ่งประตูบ้านดังขึ้น และคนที่เธอเห็นยืนอยู่ด้านนอกประตูก็ทำให้เธอแปลกใจมากไม่น้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...