เขาถอดกางเกงของญาธิดาออก ญาธิดาเขินอายและพูดอย่างตกใจว่า “วิน เดี๋ยวก่อน……ตอนนี้พวกเรายังอยู่ที่ห้องรับแขกอยู่เลยนะ”
ถึงแม้ว่าจะแต่งงานกันมานานหลายปีแล้ว แต่ว่าญาธิดาก็ยังรู้สึกเขินอายเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง
แต่ว่าภวินท์กลับไม่ได้หยุดการกระทำของเขา แถมยังลูบไล้ไปที่ขา พร้อมกับนวดไปที่น่องที่บวมตุ่ยของเธอ
“ขาคุณบวมแล้ว เดี๋ยวผมนวดให้”
พอรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ขา ญาธิดาก็หน้าแดงขึ้นมาทันที เธอได้แต่ก้มหน้าก้มตาไม่ได้พูดอะไร
เธอก็นึกว่าภวินท์จะทำเรื่องอย่างว่ากับเธอซะอีก
เธอคิดบิดเบี้ยวไปเองแหละ
นิ้วมือของภวินท์นั้นคล่องแคล่วมาก เขาช่วยนวดขาให้ญาธิดาอย่างคล่องแคล่ว พอความเจ็บปวดเริ่มบรรเทาลง กล้ามเนื้อที่เกร็งของเธอก็เริ่มผ่อนคลายลง
ญาธิดานั่งเสพสุขกับการที่ภวินท์นวดให้อยู่บนโซฟา แล้วก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว
ตอนที่เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งนั้น ฟ้าก็สว่างแล้ว ญาธิดามองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นภวินท์อยู่ตรงนั้น
เขาทิ้งอาหารเช้าและข้อความไว้บนโต๊ะ บอกญาธิดาว่าตัวเองออกไปข้างนอก
ญาธิดาก็ไม่ทันได้ถามอะไรมากมาย พอเธออาบน้ำเสร็จแล้วก็รีบมากินข้าวเช้า จัดแจงตัวเองให้เรียบร้อยแล้วก็รีบออกจากบ้านไป
พอมาถึงบริษัทของแซม ญาธิดาก็เตรียมใจไว้แล้วว่าต้องไม่ได้รับการยอมรับอย่างแน่นอน แต่ไม่คิดเลยว่าพอพนักงานต้อนรับเห็นเธอก็ให้เธอเข้าไปทันที
ญาธิดารู้สึกประหลาดใจ แล้วก็ตามพนักงานต้อนรับคนนั้นไป และเข้าไปในห้องทำงานของแซมพอเปิดประตูออก ญาธิดาก็มองไปรอบๆ แต่กลับเห็นภวินท์อย่างคาดไม่ถึง
ภวินท์เงยหน้าขึ้นมองญาธิดา หลังจากนั้นก็หันหน้าไปและพูดนิ่งๆ ว่า “ถ้ายังงั้น คุณแซม ในเมื่อพวกเราตกลงกันแล้ว ผมก็คงไม่รบกวนต่อแล้วละครับ”
แซมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นยื่นสัญญาให้ภวินท์ให้ด้วยความเคารพ สายตาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “แน่นอนรับ คุณโจอี้เชิญตามสบายเลยครับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...