ภวินท์มองไปที่แผ่นหลังของชายหนุ่มด้วยแววตามืดมน เม้มปากอย่างไม่พอใจ
รถขับออกไปช้าๆ พายุก็เห็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยนั้นเหมือนกัน เขาเงยหน้าขึ้นแล้วมองภวินท์จากกระจกมองหลัง คำขึ้นอย่างลังเลว่า “คุณภวินท์ จะให้หยุดรถหรือเปล่าครับ”
ภวินท์เบือนหน้าหนีด้วยสายตาที่เย็นชา “ขับต่อไป”
ทำไมเขาจะต้องหยุดรถ? เพื่อผู้หญิงคนนั้นงั้นเหรอ?
เห็นท่าทีแบบนี้ของภวินท์ พายุก็แอบโล่งอก เขาเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็ว
รถขับออกไปอย่างรวดเร็ว และถนนเล็กๆที่ไม่ไกลมาก ญาธิดาไม่รู้เรื่องภายในรถเลย
คนส่งอาหารคนหนึ่งกำลังขับรถมาทางนี้อย่างเร็ว ญาธิดาก้มหน้าไม่ทันได้สังเกต
คนส่งอาหารจะขับชนญาธิดาอยู่แล้ว ทันใดนั้นธีทัตก็ยื่นมือเข้าไปดึงตัวเธอไว้ “ระวัง!”
ญาธิดาหมุนตัว สะดุดล้มในอ้อมกอดของเขา พอทรงตัวได้แล้ว ต่อมาก็มีเสียงอันอ่อนโยนของชายหนุ่มดังขึ้น “โอเคไหมครับ?”
เธอเงยหน้าขึ้นมองนัยน์ตาสีดำเป็นประกายของเขา
“ไม่…ไม่เป็นไรค่ะ”
เธอถอยหลังออกไป รักษาระยะห่างของสองคนไว้ ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงมีความรู้สึกผิด ในสมองก็มีภาพของชายอีกคนโผล่ขึ้นมา
ทำไมเธอชอบนึกถึงภวินท์อยู่เรื่อยเลยนะ?
ญาธิดาขมวดคิ้ว อยากจะแงะสมองตัวเองดูว่าข้างในมีอะไรกันแน่ และในตอนนี้เอง ข้างหูก็มีเสียงของธีทัตดังขึ้น “ธิดา โอเคไหมครับ?”
เธอเงยหน้าขึ้นมองธีทัต แล้วยิ้มตอบว่า “ฉัน…ไม่เป็นไรค่ะ ไปกันเถอะค่ะ”
เพราะเวลาพักตอนกลางวันมีจำกัด ทั้งสองเลยนั่งกินในร้านอาหารใกล้บริษัท ใกล้เวลาทำงานตอนบ่ายแล้ว ธีทัตก็ส่งญาธิดากลับบริษัทอย่างสุภาพบุรุษ
ก่อนจะไป ธีทัตก็กระตุกยิ้มแล้วพูดเสียงเบาว่า “อาหารมื้อนี้รีบร้อนไปหน่อย วันหน้าผมจะชดเชยนะครับ”
ญาธิดายิ้มแล้วพูดว่า “ไม่นะคะ ฉันว่ามันดีมากเลย”
ตอนที่อยู่กับธีทัต เขาพูดหยอกและเอาใจใส่อย่างพอเหมาะ ทำให้เธอรู้สึกสบายใจมากขึ้น
ธีทัตยิ้มแล้วถามว่า “ตอนเย็นผมมารับคุณนะครับ?”
ญาธิดายิ้มแล้วพูดปฏิเสธว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
ธีทัตได้ยินแล้วก็ไม่บังคับ เขายกมือขึ้นลูบผมเธอเบาๆ แล้วพูดเสียงเบาว่า “ก็ได้ครับ ตั้งใจทำงานล่ะครับ คุณเข้าไปก่อนเถอะ ผมจะดูคุณเข้าไปเอง”
ญาธิดาหนักใจ ในใจก็รู้สึกแปลกๆ เมื่อก่อนไม่เคยมีผู้ชายคนไหนทำกับเธอแบบนี้มาก่อน ความอ่อนโยนในใจก็เหมือนถูกกระตุ้น เหมือนกับหินก้อนหนึ่งที่ตกไปในทะเลสาบ และน้ำก็กระเพื่อมขึ้นมา
ญาธิดาเงยหน้ามองชายหนุ่มตรงหน้า แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ได้ค่ะ แล้วเจอกันใหม่นะคะ”
กลับหลังหันเดินเข้าไปในห้องโถงของบริษัท เธอยังเดินไปได้ไม่ไหล ด้านหลังก็มีเสียงเท้าเดินตามมา
“ธิดา!”
ญาธิดาหันไปมอง ก็เห็นชมพู่วิ่งเข้ามาหาเธอด้วยรอยยิ้มร่าเริง
ชมพู่เอาไหล่กระทุ้งเธอเบาๆ “เมื่อกี้พ่อรูปหล่อคนนั้นคือใครเหรอ?”
ญาธิดาไม่รู้ว่าทำไมถึงตื่นเต้น “แค่…เพื่อนน่ะ”
“จริงเหรอ?” ชมพู่ยิ้มแล้วพูดต่อว่า “ฉันคิดว่าเป็นแฟนกันซะอีก ดูเหมาะสมกันดีนะ!”
แก้มญาธิดาร้อนผ่าว แล้วรีบพูดว่า “เธออย่าพูดเล่นสิ!”
ทั้งสองพูดคุยหยอกล้อกันจนมาถึงแผนกที่ทำงาน ญาธิดายังไม่ทันได้เข้าไปในห้องทำงาน ก็มีเพื่อนร่วมงานมาเตือนเธอว่า “คุณญาธิดา เมื่อกี้โทรศัพท์บนโต๊ะทำงานคุณดังตลอดเลยค่ะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...