ตอนนี้ ถึงแม้เธอจะไม่อยากแต่ก็ต้องจำใจตอบตกลง
มาร์ตินแสยะยิ้มเย็นชา “งั้นเหรอ?”
ญาธิดาทำใจกล้าแล้วพูดอีกครั้งว่า “คุณมาร์ตินวางใจได้เลยค่ะ ฉันจะต้องทำหน้าที่นี้ได้แน่นอนค่ะ”
มาร์ตินมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า “ขอให้เป็นแบบนั้นแล้วกัน”
ในตอนนี้เอง ทันใดนั้นข้างๆก็มีเสียงเท้าเดินดังขึ้น ต่อมาก็มีเสียงเย็นชาพูดขึ้นว่า “คุณมาร์ตินมาอยู่นี่ได้ยังไงครับ?”
ได้ยินเสียงของภวินท์ ญาธิดาก็ตื่นเต้นขึ้นมา เธอเงยหน้า ก็เห็นเขากำลังเดินมาทางนี้
ภวินท์มองผ่านเธอ ไม่ได้หยุดมองนาน สายตาก็หันไปมองมาร์ตินแล้ว เป้าหมายชัดเจน
แววตาของมาร์ตินมืดมนลง เขาแสยะยิ้มเย็นชาแล้วตอบรับว่า “นี่ไง ผู้ช่วยที่แผนกธุรการส่งมา ไม่ค่อยรู้กาลเทศะเท่าไหร่ ผมเลยมาสั่งเธอสักหน่อยน่ะ”
“งั้นเหรอครับ?” ภวินท์เดินเข้าไปแล้วพูดว่า “งั้นให้ผมสั่งแผนกธุรการเปลี่ยนคนไหมครับ”
มาร์ตินหัวเราะ แต่กลับเหมือนไม่ได้หัวเราะจริงๆ “ไม่ต้องหรอกครับ แค่ไม่กี่วันเอง เด็กคนนี้ก็ดูฉลาดอยู่ ไม่รบกวนคุณภวินท์ดีกว่าครับ”
แววตาภวินท์มืดมนลง เขาชะงักสักพักแล้วพูดว่า “งั้นก็ดีแล้วครับ”
“ในเมื่อคุณภวินท์มาแล้ว งั้นผมก็ไม่ต้องไปที่ห้องทำงานคุณแล้ว มานั่งดื่มน้ำชาในห้องทำงานผมก่อนไหมครับ?”
ภวินท์แววตาเย็นชา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “ผมยังมีธุระ ต้องขอตัวก่อนนะครับ”
ญาธิดายืนอยู่ข้างๆ ได้ยินทั้งสองคนสนทนากันอย่างสนิทสนม ภายนอกอยู่สันติ แต่เธอกลับรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงและคำพูดของทั้งสองที่กำลังกดขี่กันอยู่
ในตอนที่เธอเหม่อลอยอยู่นั้น ทันใดนั้นภวินท์ที่อยู่ข้างๆก็หันหน้ากลับมา แล้วสั่งเธอว่า “ทางนี้ไม่มีเรื่องของเธอแล้ว เธอออกไปก่อนได้”
ได้ยินแล้ว ญาธิดาก็โล่งอก แล้วรีบพูดว่า “ค่ะ”
เธอรู้ดีว่า ภวินท์พูดแบบนี้ก็เพื่อช่วยเธอหลุดพ้นจากสถานการณ์น่าคับขันนี้
เธอโล่งอก แล้วรีบเดินออกไปจากที่นี่
เดินได้ไม่กี่ก้าว กลับรู้สึกแผ่นหลังเย็นวาบ แต่ก็ไม่กล้าหันกลับไปมอง
แม้เธอจะไม่รู้ว่าคุณมาร์ตินเป็นคนยังไง แต่ดูจากตอนนี้แล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างคุณมาร์ตินกับภวินท์ไม่ธรรมดาแน่นอน แต่ตอนนี้คุณมาร์ตินถูกโยกย้ายกลับมาที่บริษัทหลัก เขามีเป้าหมายอะไรกันแน่นะ?
ญาธิดาไม่ทันได้คิดมาก เธอสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วกลับไปในห้องทำงาน ดื่มน้ำเพื่อทำใจเย็นลงก่อน
ไม่ว่ายังไง ในเมื่อเธอตกลงกับพี่แนนไว้แล้ว อาทิตย์นี้จะต้องทำงานกับมาร์ตินดีๆ ก็แค่อาทิตย์เดียวเอง เดี๋ยวก็ผ่านไปแล้ว
พอคิดได้แบบนี้ เธอก็ค่อยสบายใจหน่อย
พริบตาเดียวก็ถึงเวลาบ่ายแล้ว ยังไม่เลิกงาน เธอก็ได้รับข้อความจากภวินท์ “เลิกงานเช้าหน่อย ฉันรอเธอข้างล่างตึก วันนี้เธอต้องกลับคฤหาสน์หลังเก่าเพื่อไปเยี่ยมคุณย่ากับฉัน”
ตอนแรกยังสบายใจอยู่ ตอนนี้กลับหนักอึ้งขึ้นมาทันที
เมื่อคืนตอนที่ตกลงคำขอของภวินท์ เธอไม่ได้คิดมากเลย หัวร้อนก็เลยตอบตกลงไป ตอนนี้พอมาคิดว่าต้องกลับไปในที่คฤหาสน์ตระกูลสถิรานนท์กับเขาจริงๆ เธอกลับรู้สึกหนักใจขึ้นมา
ก่อนหน้านี้พวกเขาเป็นสามีภรรยากันจริงๆ แต่ตอนนี้หย่ากันแล้วกลับยังต้องมาแสดงเป็นสามีภรรยากันอีก ก็ต้องรู้สึกอึดอัดบ้างสิ
เธอเกาหัวแกรกๆ ญาธิดาไม่รู้ว่าควรทำยังไงดี ชมพู่ที่มาส่งเอกสารเห็นแล้วก็ทั้งแปลกใจและตกใจ “ธิดาเป็นอะไรไปเหรอ? ถ้าเธอเกาอยู่แบบนี้เดี๋ยวก็ได้หัวล้านพอดี!”
ญาธิดาได้ยินแล้วก็ก้มหน้ามองเส้นผมที่ร่วงอยู่บนโต๊ะตัวเอง เธอก็ตกใจแล้วรีบจัดทรงผม และเก็บกวาดผมบนโต๊ะ “ชมพู่ ฉันมีเรื่องนิดหน่อยน่ะ เธอช่วยฉันหน่อยนะ ฉันขอกลับบ้านก่อน”
ชมพู่ได้ยินแล้วก็กะพริบตา แล้วถามว่า “จะไปเดตใช่ไหม?”
ญาธิดาผลักเธอเบาๆอย่างโมโหและน่าขำ “ไม่ใช่สักหน่อย!”
ถ้าเป็นเดตล่ะก็ เธอจำเป็นต้องเศร้าขนาดนี้ไหม
ในตอนนี้เอง เสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ก็ดังขึ้น ญาธิดาเปิดดู ก็เห็นข้อความที่ธีทัตส่งมา “เลิกงานกินข้าวด้วยกันไหมครับ? ผมรอคุณ”
ธีทัตนัดเธอเวลานี้อีก
ชมพู่ที่อยู่ข้างๆก็ขยับเข้ามาใกล้ แล้วกวาดตามองหน้าจอ ก็อดไม่ได้ยิ้มกว้าง “ไหนว่าไม่ได้เดตไง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...