พอเห็นใบหน้าที่ไร้เดียงสาของเด็กทั้งสองคน ญาธิดาก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ แต่สุดท้ายก็บอกเรื่องที่ตัวของภวินท์ถูกติดตั้งระเบิดเอาไว้กับเด็กทั้งสองคน
พอได้ฟังแบบนี้ อีธานก็มองภวินท์อย่างนิ่งเงียบ สองพ่อลูกมองหน้ากันไม่พูดอะไร อีธานกำหมัดแน่น สีหน้าดูแย่อยู่ไม่น้อย
เขาคิดไม่ถึง ว่าทั้งที่แม่ผ่านประสบการณ์ความลำบากมาตั้งมากมาย แถมยังเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนในเมืองอีก ตอนนี้กำลังจะได้กลับมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันกับพ่อ ในที่สุดครอบครัวของพวกเขาก็จะได้กลับไปอย่างมั่งคงปลอดภัยแล้วแท้ๆ
แต่ผลที่ได้กลับกลายเป็นแบบนี้ซะอย่างนั้น พ่อของตัวเองอาจจะถูกขังเอาไว้ในคฤหาสน์ตระกูลสมิทตลอดชีวิต
เอลล่าอดกลั้นอารมณ์ความรู้สึกเอาไว้ไม่อยู่ กระโจนเข้ามาในอ้อมกอดของภวินท์ทันที เงยหน้าขึ้นมาทั้งน้ำตา“พ่อ ไม่มีหนทางอื่นแล้วจริงๆเหรอคะ?”
ภวินท์เม้มปาก มองสีหน้าที่เศร้าสร้อยของลูกสาวตัวเอง ในใจรู้สึกเสียใจไม่น้อย
เขาโอบเอลล่าไว้ในอ้อมกอดตบลงบนไหล่น้อยๆของเธอ ปลอบประโลมอย่างไม่ส่งเสียงออกมา
ผ่านไปสักพัก ภวินท์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงนิ่งขรึม“ไม่เป็นไร แค่ขาข้างเดียวเอง การรักษาในปัจจุบันนี้ก็พัฒนาไปมากแล้วด้วย”
ขอแค่ออกไปจากที่นี่ ครอบครัวได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากัน เขาก็ยอมที่จะใส่ขาเทียม
อีธานใบหน้านิ่งขรึม ดึงขากางเกงของภวินท์ขึ้นมาอย่างไม่ยอมตัดใจ เผยให้เห็นถึงกำไลข้อเท้าที่อยู่ตรงข้อเท้า คิดหาวิธีต่างๆนานาเพื่อที่จะถอดระเบิดออกจากขา
แต่ระเบิดขนาดเล็กแบบใหม่ล่าสุดนี้ วัสดุแข็งแรงมากๆ ประกอบอย่างแน่นหนาไร้ซึ่งรอยต่อ แทบจะทำอะไรไม่ได้เลย
พยายามอยู่นานสองนาน อีธานก็ไม่สามารถทิ้งร่องรอยอะไรไว้ข้างบนได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“น่ารังเกียจที่สุด!ไม่มีหนทางอื่นเลยหรือไงกันนะ…..”
อีธานจ้องมองระเบิดที่ข้อเท้าของภวินท์ สีหน้าดูแย่สุดๆ
ญาธิดากอดอีธานเอาไว้ ยิ้มอย่างกล้ำกลืนฝืนทน“ไม่เป็นไร แม่อยู่ที่นี่ตลอดชีวิตได้……”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...