ญาธิดาอึ้งไป แล้วก็หันไปมองขวัญตา สายตาของเธอเต็มไปด้วยความลังเล
เธอรู้ดีอยู่แล้ว ว่าตอนที่ขวัญตาพูดประโยคนี้ออกมานั้น หัวใจของเธอต้องไม่ได้รู้สึกสงบเหมือนสีหน้าที่แสดงออกมาอย่างแน่นอน
เธอนึกไม่ถึงเหมือนกันว่า ขวัญตาจะเป็นคนเสนอออกมาให้ไปถามธีทัตให้ชัดเจน
หลังจากตั้งสติอยู่ครู่หนึ่ง ญาธิดาก็พูดออกมาด้วยความลังเลว่า “ ขวัญ ไม่งั้นเรื่องนี้ให้ฉันเป็นคนไปถามเขาเองดีไหม?”
จะได้หลีกเลี่ยงให้สองคนนั้นไม่ต้องเจอหน้ากัน
แต่อย่างไรก็ตาม ต่อหน้าข้อเสนอของญาธิดา ขวัญตากลับตอบอย่างสงบว่า “ความจริงช่วงนี้ธีทัตก็มาหาฉันหลายครั้งเหมือนกัน”
ช่วงเวลาที่ญาธิดาไม่อยู่เมือง J ธีทัตก็แทบจะมาหาเธอทุกวัน
ต่อให้เธอไม่ยอมไปเจอ ธีทัตก็จะเอาแต่รออยู่ที่หน้าประตูตระกูลพิลากุล
“ธิดา ฉันหลีกหนีมันมานานมากแล้ว ฉันควรจะมีข้อสรุปกับเขาได้แล้ว แล้วอีกอย่าง ฉันก็รู้สึกว่าฉันควรจะทำอะไรบางอย่างเพื่ออันอันด้วย”
ญาธิดาขมวดคิ้วเข้าหากัน เธอนึกไม่ถึงเลยว่าธีทัตจะมาพัวพันกับขวัญตาด้วย
“โอเค ฉันเข้าใจแล้ว งั้นพวกเราไปด้วยกัน”ญาธิดาพยักหน้า
แล้วทั้งสองคนก็ไม่ปล่อยให้เสียเวลาเปล่า เพราะอาการของอันอันเริ่มสงบ พวกเธอก็มุ่งหน้าไปที่บริษัทกรเวช
“ธีทัต คุณจะหลบหน้าฉันไปอีกนานแค่ไหน!?”
นารากระแทกกระเป๋าแบรนด์เนมในมือไปที่หน้าอกของธีทัต ธีทัตขมวดคิ้วและมองหน้าเธอ สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความรำคาญ “นารา ที่นี่คือที่บริษัทนะ คุณคิดจะทำอะไรกันแน่”
น้ำเสียงของเขาเย็นชามาก ถึงแม้ว่าจะกำลังอยู่ต่อหน้าภรรยาของตัวเอง แต่เขากลับทำเหมือนอีกฝ่ายเป็นคนแปลกหน้ายังไงอย่างนั้น
“เหอะ”นาราหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ฉันคิดจะทำอะไรงั้นเหรอ? ธีทัต คุณรู้ไหมว่าคุณไม่ได้กลับบ้านนานแค่ไหนแล้ว? นี่คุณยังเห็นฉันเป็นภรรยาอยู่หรือเปล่า?!”
ตั้งแต่ตอนที่ทั้งสองคนแต่งงานกัน ธีทัตก็กลับบ้านน้อยครั้งมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...