“คุณเซิน ญาติไม่ได้มาด้วยเหรอครับ? ”
เซินจือชูทำหน้าฉงน แค่มารับใบรายงานผลตรวจสุขภาพ จะต้องมีคนมาเป็นเพื่อนด้วยเหรอ?
ยิ่งกว่านั้นครอบครัวน่ะเหรอ……เธอยังมีครอบครัวที่ไหนกัน?
แม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่คลอดเธอ พ่อเธอก็ใช้เธอเป็นเครื่องมือหาเงิน พี่ชายของเธอก็เกลียดแสนเกลียดเธอ เขาโทษว่าเป็นเพราะเธอที่ทำให้แม่ต้องตาย ส่วนสามีของเธอนั้น……เธอก็แย่งเขามา ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหมอตรงหน้าเอ่ยคำนี่ออกมา เธอก็คงลืมไปแล้วว่า “คนในครอบครัว” มันหมายถึงอะไร
เซินจือชูชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหัวแล้วเอ่ย : “ฉันมาคนเดียวค่ะ”
คุณหมอขมวดคิ้ว เลื่อนแว่นไปที่สันจมูก จากนั้นก็ถอนหายใจอย่างหนักใจ สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจและหมดหนทาง เขายื่นผลตรวจที่วางอยู่บนโต๊ะให้เซินจือชู
"คุณเซินครับ ผลตรวจออกมาแล้ว คุณเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้าย "
ท่าทางของคุณหมอดูเหมือนกำลังเห็นใจหญิงสาววัยรุ่นตรงหน้าของเขาที่เป็นมะเร็ง ท่าทางและคำพูดของเขาดูระมัดระวังอย่างเห็นได้ชัด
เซินจือชูหายใจไม่ออก เธอรับผลตรวจมาดูและขมวดคิ้วกับค่าดัชนีต่างๆ ที่อยู่บนนั้น เธอไม่ได้เรียนหมอมา แต่ว่าก็สามารถดูออกว่ากระเพาะที่อยู่ในร่างกายของเธอมีอาการร้ายแรงขนาดไหน
อันที่จริงแล้วในระหว่างการส่องกล้อง เธอสังเกตเห็นบางสิ่งเป็นนัยๆ เพียงแต่เธอไม่กล้าคิด
คุณหมอชี้ไปที่ภาพและอธิบายทีละภาพที่ข้างหูของเธอ เซินจือชูฟังอย่างเหม่อลอยเข้าหูบ้างไม่เข้าหูบ้าง จากที่พูดมาทั้งหมดสรุปแล้วก็คือ เวลาของเธอเหลือไม่มากแล้ว เธอจะต้องเข้ารับการรักษาทำคีโมโดยเร็วที่สุด
มะเร็งกระเพาะอาหารระยะสุดท้ายจะอยู่ได้นานเท่าไหร่กัน? เซินจือชูรู้จักโรคนี้ดีกว่าใคร ๆ เพราะคุณปู่ของเธอก็เสียชีวิตหลังจากทนทุกข์ทรมานอยู่บนเตียงในโรงพยาบาลกว่าเวลาสองปี
คุณหมอเอ่ยแนะนำด้วยความกรุณา: "คุณเซินครับ ทางเราแนะนำให้คุณเข้ารับการรักษากับทางโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด"
“ถ้าดิฉันเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล…ดิฉันจะหายไหมคะ” เสียงของเซินจือชูแหบแห้ง ความรู้สึกของเธอมันชาไปหมด ราวกับว่าเธอกำลังพูดกับตัวเอง
คุณหมอไม่พูดอะไร เพียงแต่ส่ายหน้าด้วยความลำบากใจ
ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไม่รักษาแล้ว เซินจือชูเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเอง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนแล้วรวบรวมหนังสือรับรองแพทย์ทั้งหมดยัดเข้าใส่กระเป๋า
เธอยืนขึ้นกล่าวขอบคุณคุณหมอ จากนั้นก็หมุนตัวแล้วเดินออกจากห้องวินิจฉัยทันที
ขณะที่เธอเดินออกมาจากโรงพยาบาล ที่ด้านนอกกำลังฝนตก ฝนตกปรอยๆ ปะปนกับลมหนาว พัดเข้าใส่ใบหน้าของเธอมันเจ็บเหมือนกันโดนใบมีดบาด เซินจือชูเปิดกระเป๋าแล้วหยิบร่มออกมากาง ละอองฝนโปรยปรายอย่างหนัก แม้แต่ร่มก็ไม่สามารถบังความเหน็บหนาวได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้านาย อาชญากรรมของมาดามไม่ได้ถึงตาย