ตอน บทที่ 104 กลับมาที่สถานที่เก่า จาก เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 104 กลับมาที่สถานที่เก่า คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายInternet เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด ที่เขียนโดย เยว่กวางจู่อวี เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
อยู่ดีๆหนานกงเฉินถึงกลับคำอาจจะเป็นเพราะว่าเห็นว่าเธอไม่ควรจะรู้จักตระกูลหนานกงมากกว่านี้มั้ง
ทั้งสองเดินไปทางบ้านใหญ่ ไป๋มู่ชิงเดินตามหลังเขาอยู่ มองตามฝีเก้าที่มั่นคงนั้น เหมือนนิสัยของเขาเลย
เธอเดินตามรอยเท้าเขาอย่างไม่รู้ตัวเหมือนนางเอกในละคร เดินทับรอยเท้าเขาไปเรื่อยๆเหมือนฉากโรแมนติกในละครความรู้สึกแบบนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน
เธอคิดถึงขั้นที่เขาอยู่ๆหยุดเก้าเท้าแล้วเธอที่เดินอยู่ข้างหลังก็ชนเขาไปแบบนี้ก็จะเกิดความรู้สึกที่พุ่งพล่านเหมือนในละครอย่างนั้น
แต่ความจริงกลับโหดร้าย……
เมื่อเธอก้าวไปข้างหน้าก็เพิ่งสังเกตุเห็นว่านั่นเป็นแสงสะท้อนวิบวับจากสระน้ำ เธอรีบเบรกขาตัวเองไว้แต่ก็ไม่ทัน เธอกรีดร้องขึ้นแล้วตัวก็เซลงไป
เธอรีบหลับตาลงคิดว่าตัวเองจะตกน้ำไปเหมือนครั้งก่อน หนานกงเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆก็รีบดึงตัวเธอไว้
อีกแค่นิดเดียวก็ตกลงไปแล้ว อันตรายจริงๆ!
มองไปที่สีหน้าซีดขาวของเธอ หนานกงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งเธอ "ถ้าผมพาคุณไปในภูเขาไฟ คุณก็คงคิดที่จะจุ๋มหัวลงไปสินะ"
ไป๋มู่ชิงดึงสติกลับมา ความโรแมนติกในใจหายไปในชั่วพริบตา ไม่เหมือนกับในละครสักนิด
"คุณตั้งใจเหรอ?" ไป๋มู่ชิงจ้องมองไปที่เขา
"แล้วคุณจะเดินตามรอยเท้าผมทำไม?" หนานกงเฉินไม่ตอบแต่กลับถาม
"เพราะฉันอยากเลียนแบบท่าทางของคุณ ก็เริ่มจากการเดินไง"
"ยัยโง่ ท่าทางนั้นมันมีมาแต่เกิด คนอื่นจะเลียนแบบได้ยังไง" หนานกงเฉินใช้มือปัดไปที่จมูกเธอแล้วก้มลงไปมองไปที่ท้องน้อย "คุณโง่ขนาดนี้ ผมล่ะเป็นห่วงลูกชายผมจริงๆ"
"เขาว่ากันว่าความฉลาดของลูกมาจากพ่อทั้งนั้น"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงดี" หนานกงเฉินปล่อยตัวเธอแล้วหันหลังเดินต่อไป
ไป๋มู่ชิงสังเกตุเห็นสีหน้าที่ประหลาดไปของเขา เพิ่งรู้ว่าตัวเองพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดเลยรีบตามอธิบายไปว่า "เปล่านะ ฉันหมายความว่าไม่ว่าลูกจะเหมือนคุณหรือฉันก็คงไม่โง่หรอก……"
เมื่อกี้เธอกำลังพูดอะไร นี่กำลังยอมรับว่าตัวเองโง่แล้วในเวลาเดียวกันก็กำลังชมเขาว่าฉลาด? ถึงเธอจะคิดว่าเขาฉลาดจริงก็ชมเขาต่อหน้าแบบนี้ไม่ได้
หนานกงเฉินเหมือนไม่ได้ยินแถมยังรีบก้าวเดินเร็วกว่าเดิม
เมื่อทั้งสองกลับถึงบ้านใหญ่ทุกคนก็กำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่
เมื่อเห็นทั้งสองเดินเข้ามา ท่าทางของเซิ่งเคอที่กำลังจะดื่มนมก็หยุดลงแล้วทำเสียงประหลาดใจว่า "เอ๋ ทำไมพี่ชายตื่นเช้าขนาดนี้? แถมยังลากพี่สะใภ้มาได้ด้วย"
ผู่เหลียนเหยาที่นั่งอยู่ข้างๆก็มองสำรวจไปที่สองแล้วเผลอยิ้มออกมา "พี่สะใภ้กำลังท้องอยู่ พี่ชายก็ต้องเป็นห่วงสิ"
คุณหญิงไอเสียงเบาขึ้นเป็นคำเตือน
เรื่องที่ทำลายอำนาจของท่านแบบนี้จะทำให้คนทั้งบ้านรู้ได้ยังไง?
เซิ่งเคอกับผู่เหลียนเหยารีบหุบปากลงแล้วไม่กล้าพูดอะไรอีก
ไป๋มู่ชิงกล่าวทักทายคุณหญิงขึ้นอย่างมีมารยาทแล้วไม่รู้จะทำยังไงต่อยังโชคดีหนานกงเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นว่า "คุณย่าครับ พวกเราขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะครับ"
พูดจบก็ยกมือขึ้นวางบนบ่าของไป๋มู่ชิง ไป๋มู่ชิงเลยรีบเดินตามเขาขึ้นไป
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เสร็จแล้ว ไป๋มู่ชิงลงมาถึงชั้นล่างทุกคนก็แยกย้ายไปทำธุระของตัวเองแล้ว
บนโต๊ะอาหารมีแค่หนานกงเฉินกับไป๋มู่ชิงสองคน ไป๋มู่ชิงเดินไปนั่งลงตรงข้ามเขา ทอดมองไปที่เขารับประทานอาหารเช้าไปด้วยแล้วก็เปิดดูหนังสือพิมพ์ไปด้วย
เธอก้มหน้าลงไปแล้วเริ่มรับประทานอาหารเช้า
ในห้องอาหารเงียบสงัดมีแค่เสียงกระทบของช้อนกับจานเท่านั้น พอเงียบขนาดนี้ ไป๋มู่ชิงก็เริ่มคิดไปเรื่อย สิ่งที่คิดมากที่สุดก็เป็นเพราะความฝันเมื่อคืนก่อนนั้น
เธอฝันว่าหนานกงเฉินถูกเธอฆ่ากับมือ แล้วโรคของเขาก็กำเริบ แปลกจัง
"วันมะรืนผมจะไปที่เมืองเหยียนเฉิง คุณจะไปด้วยหรือเปล่า?" ในความเงียบเสียงของหนานกงเฉินก็ดังขึ้นมา
มือของไป๋มู่ชิงที่คีบตะเกียบหยุดลง เมืองเหยียนเฉิง?
ถึงเธอจะชอบที่นั่นมาก แล้วอยากกลับไปอีกครั้งแต่ถ้าไปพร้อมกับหนานกงเฉิน……
เธอแอบสูดหายใจเข้าแล้วตอบไม่ตรงคำถาม "เมื่อคืนฉันฝัน ฉันฝันว่าตัวเองฆ่าคุณกับมือ"
หนานกงเฉินไม่คิดว่าเธอจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นมองไปที่เธอด้วยความประหลาดใจ "หมายความว่ายังไง? นี่เกี่ยวอะไรกับการไปเมืองเหยียนเฉิงด้วยกัน?"
ไป๋มู่ชิงเงยหน้าขึ้นแล้วมองกลับไปที่เขา "ฉันกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วฆ่าคุณซะ"
"ฆ่าผมทำไม?"
"ไม่รู้ ก็แค่อยากฆ่าคุณ"
หนานกงเฉินหัวเราะออกมา "วางใจเถอะ คุณฆ่าผมไม่ได้หรอก"
"คุณมั่นใจขนาดนั้นเลยหรอ?"
"แน่นอน"
ไป๋มู่ชิงขยับไหล่หนีเล็กน้อยแต่ก็ไม่ออกจากอ้อมกอดของเขา เธอรู้อยู่แล้วว่าหนานกงเฉินทำแบบนี้ตั้งใจจะทำให้หลินอันหนานดู ทำให้เขารู้สึกอิจฉา
ถ้าเธอผลักออกจากหนานกงเฉินตอนนี้ คงทำให้หนานกงเฉินขายหน้าแน่ๆ
แต่ถ้าไม่ผลักออกจากเขา……ไป๋มู่ชิงแอบมองไปทางหลินอันหนาน จากมุมของเธอนี้เห็นได้ชัดเจนเลยว่าเขาทำปากไม่สบอารมณ์เยาะเย้ยอยู่
เธอรู้ว่าเขากำลังเยาะเย้ยเรื่องที่เธอไม่มีศักดิ์ศรีไม่มีหลักการขนาดนี้ รู้อยู่แท้ๆว่าเป็นฆาตกรแล้วยังใกล้ชิดกับเขาอีกแถมยังเก็บลูกของเขาไว้
หลินอันหนานทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจทำให้เธอรู้ว่าเธอไม่ควรทำอย่างนี้ แต่เธอไม่คำนึงถึงจุดนี้เลย แถมยังมาเมืองเหยียนเฉิงพร้อมกับเขาด้วย
พอพูดถึงเรื่องนี้อย่าว่าแต่หลินอันหนาน ตัวเธอเองก็ยังดูถูกตัวเองเลย!
ที่ไป๋มู่ชิงมาที่นี่ครั้งนี้ ไม่ใช่เหมือนครั้งก่อนที่แค่อยากกลับมาเที่ยวเล่นแล้วรำลึกความหลัง ที่เธอมาก็เพราะอยากจะมาเยี่ยมคุณย่าแล้วไถ่โทษต่อหน้าศาลของท่าน ไถ่โทษกับการกระทำที่อกตัญญูของเธอถึงแม้จะทำแบบนี้ก็จะไม่ได้รับการให้อภัยจากคุณย่าก็เถอะ
เธออยากจะไปหาคุณลุงของเธอ ไปทำความเข้าใจว่าทั้งหมดมันเป็นยังไงกันแน่
เมื่อเดินออกมาจากสนามบิน หลินอันหนานก็หันมาถามว่า "พี่ชายพี่สะใภ้ พวกพี่พักที่ไหน? ให้ผมไปส่งหรือเปล่า?"
"พักที่เหอวัง แต่เดี๋ยวมีคนขับรถจะมารับ ขอบใจ" หนานกงเฉินพูดจบก็เห็นรถของบริษัทแล่นเข้ามา
คนขับรถรีบลงรถแล้วรับกระเป๋าเดินทางของทั้งสองเข้าไปเก็บที่หลังรถ หนานกงเฉินดึงเปิดประตูออกแล้วพยุงไป๋มู่ชิงขึ้นไปนั่งแล้วตัวเองเดินอ้อมไปนั่งอีกฝั่ง
ก่อนจะขึ้นรถ เขาก็ไม่ลืมที่จะยิ้มมุมปากอย่างเยาะเย้ยไปทางหลินอันหนาน ท่าทางแบบนั้นเป็นท่าทางของผู้ชนะ
แต่ไป๋มู่ชิงไม่แม้แต่จะเปิดกระจกแล้วไม่ได้มองหลินอันหนานเลยสักนิด
เมื่อเห็นรถของพวกเขาแล่นออกจากประตูสนามบินไปมุมปากของหลินอันหนานเปลี่ยนมาเป็นความเสียดสีแทน เขาไม่คิดว่าหนานกงเฉินจะยิ้มอย่างผู้ชนะได้ตลอดไปหรอก
ทั้งสองกลับมาถึงบ้านพักตากอากาศ จัดของพักผ่อนครู่นึงก็ไปรับประทานอาหารที่โรงแรมข้างๆ พอรับประทานอาหารเสร็จหนานกงเฉินก็ถามไป๋มู่ชิงว่าอยากจะกลับห้องไปพักผ่อนหรือว่าอยากจะออกไปเดินเล่น
ไป๋มู่ชิงคิดไปคิดมา "กลับไปพักผ่อนดีกว่า เดี๋ยวพักแล้วค่อยออกไปเดินเล่น"
หนานกงเฉินพยักหน้าให้แล้วลุกขึ้นไปเช็คบิล
เดินผ่านบ้านพักชั้นหนึ่งขึ้นไปชั้นสอง ไป๋มู่ชิงกวาดมองไปที่ประตูห้องต่างๆแล้วเงยหน้าขึ้นถาม "คุณอยากพักห้องไหน"
"ห้องที่ใกล้กับทะเล" หนานกงเฉินใช้คางชี้ไปทางห้องนอนฝั่งซ้ายมือจากนั้นก็เปิดประตูเข้าไป
เมื่อหันหลังค่อยสังเกตเห็นว่าไป๋มู่ชิงกำลังลังเลพิจารณาห้องพักอยู่ ขมวดคิ้วขึ้น "ห้องนี้ใหญ่พอสำหรับสองคนแล้ว เธอจะหาอะไรอีก?"
"ฉัน……ฉันกลัวรบกวนคุณ" ไป๋มู่ชิงหาข้ออ้างมาอ้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...