อยู่ดีๆหนานกงเฉินถึงกลับคำอาจจะเป็นเพราะว่าเห็นว่าเธอไม่ควรจะรู้จักตระกูลหนานกงมากกว่านี้มั้ง
ทั้งสองเดินไปทางบ้านใหญ่ ไป๋มู่ชิงเดินตามหลังเขาอยู่ มองตามฝีเก้าที่มั่นคงนั้น เหมือนนิสัยของเขาเลย
เธอเดินตามรอยเท้าเขาอย่างไม่รู้ตัวเหมือนนางเอกในละคร เดินทับรอยเท้าเขาไปเรื่อยๆเหมือนฉากโรแมนติกในละครความรู้สึกแบบนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน
เธอคิดถึงขั้นที่เขาอยู่ๆหยุดเก้าเท้าแล้วเธอที่เดินอยู่ข้างหลังก็ชนเขาไปแบบนี้ก็จะเกิดความรู้สึกที่พุ่งพล่านเหมือนในละครอย่างนั้น
แต่ความจริงกลับโหดร้าย……
เมื่อเธอก้าวไปข้างหน้าก็เพิ่งสังเกตุเห็นว่านั่นเป็นแสงสะท้อนวิบวับจากสระน้ำ เธอรีบเบรกขาตัวเองไว้แต่ก็ไม่ทัน เธอกรีดร้องขึ้นแล้วตัวก็เซลงไป
เธอรีบหลับตาลงคิดว่าตัวเองจะตกน้ำไปเหมือนครั้งก่อน หนานกงเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆก็รีบดึงตัวเธอไว้
อีกแค่นิดเดียวก็ตกลงไปแล้ว อันตรายจริงๆ!
มองไปที่สีหน้าซีดขาวของเธอ หนานกงเฉินก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งเธอ "ถ้าผมพาคุณไปในภูเขาไฟ คุณก็คงคิดที่จะจุ๋มหัวลงไปสินะ"
ไป๋มู่ชิงดึงสติกลับมา ความโรแมนติกในใจหายไปในชั่วพริบตา ไม่เหมือนกับในละครสักนิด
"คุณตั้งใจเหรอ?" ไป๋มู่ชิงจ้องมองไปที่เขา
"แล้วคุณจะเดินตามรอยเท้าผมทำไม?" หนานกงเฉินไม่ตอบแต่กลับถาม
"เพราะฉันอยากเลียนแบบท่าทางของคุณ ก็เริ่มจากการเดินไง"
"ยัยโง่ ท่าทางนั้นมันมีมาแต่เกิด คนอื่นจะเลียนแบบได้ยังไง" หนานกงเฉินใช้มือปัดไปที่จมูกเธอแล้วก้มลงไปมองไปที่ท้องน้อย "คุณโง่ขนาดนี้ ผมล่ะเป็นห่วงลูกชายผมจริงๆ"
"เขาว่ากันว่าความฉลาดของลูกมาจากพ่อทั้งนั้น"
"ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงดี" หนานกงเฉินปล่อยตัวเธอแล้วหันหลังเดินต่อไป
ไป๋มู่ชิงสังเกตุเห็นสีหน้าที่ประหลาดไปของเขา เพิ่งรู้ว่าตัวเองพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดเลยรีบตามอธิบายไปว่า "เปล่านะ ฉันหมายความว่าไม่ว่าลูกจะเหมือนคุณหรือฉันก็คงไม่โง่หรอก……"
เมื่อกี้เธอกำลังพูดอะไร นี่กำลังยอมรับว่าตัวเองโง่แล้วในเวลาเดียวกันก็กำลังชมเขาว่าฉลาด? ถึงเธอจะคิดว่าเขาฉลาดจริงก็ชมเขาต่อหน้าแบบนี้ไม่ได้
หนานกงเฉินเหมือนไม่ได้ยินแถมยังรีบก้าวเดินเร็วกว่าเดิม
เมื่อทั้งสองกลับถึงบ้านใหญ่ทุกคนก็กำลังรับประทานอาหารเช้าอยู่
เมื่อเห็นทั้งสองเดินเข้ามา ท่าทางของเซิ่งเคอที่กำลังจะดื่มนมก็หยุดลงแล้วทำเสียงประหลาดใจว่า "เอ๋ ทำไมพี่ชายตื่นเช้าขนาดนี้? แถมยังลากพี่สะใภ้มาได้ด้วย"
ผู่เหลียนเหยาที่นั่งอยู่ข้างๆก็มองสำรวจไปที่สองแล้วเผลอยิ้มออกมา "พี่สะใภ้กำลังท้องอยู่ พี่ชายก็ต้องเป็นห่วงสิ"
คุณหญิงไอเสียงเบาขึ้นเป็นคำเตือน
เรื่องที่ทำลายอำนาจของท่านแบบนี้จะทำให้คนทั้งบ้านรู้ได้ยังไง?
เซิ่งเคอกับผู่เหลียนเหยารีบหุบปากลงแล้วไม่กล้าพูดอะไรอีก
ไป๋มู่ชิงกล่าวทักทายคุณหญิงขึ้นอย่างมีมารยาทแล้วไม่รู้จะทำยังไงต่อยังโชคดีหนานกงเฉินที่ยืนอยู่ข้างๆเอ่ยขึ้นว่า "คุณย่าครับ พวกเราขึ้นไปอาบน้ำก่อนนะครับ"
พูดจบก็ยกมือขึ้นวางบนบ่าของไป๋มู่ชิง ไป๋มู่ชิงเลยรีบเดินตามเขาขึ้นไป
หลังจากอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เสร็จแล้ว ไป๋มู่ชิงลงมาถึงชั้นล่างทุกคนก็แยกย้ายไปทำธุระของตัวเองแล้ว
บนโต๊ะอาหารมีแค่หนานกงเฉินกับไป๋มู่ชิงสองคน ไป๋มู่ชิงเดินไปนั่งลงตรงข้ามเขา ทอดมองไปที่เขารับประทานอาหารเช้าไปด้วยแล้วก็เปิดดูหนังสือพิมพ์ไปด้วย
เธอก้มหน้าลงไปแล้วเริ่มรับประทานอาหารเช้า
ในห้องอาหารเงียบสงัดมีแค่เสียงกระทบของช้อนกับจานเท่านั้น พอเงียบขนาดนี้ ไป๋มู่ชิงก็เริ่มคิดไปเรื่อย สิ่งที่คิดมากที่สุดก็เป็นเพราะความฝันเมื่อคืนก่อนนั้น
เธอฝันว่าหนานกงเฉินถูกเธอฆ่ากับมือ แล้วโรคของเขาก็กำเริบ แปลกจัง
"วันมะรืนผมจะไปที่เมืองเหยียนเฉิง คุณจะไปด้วยหรือเปล่า?" ในความเงียบเสียงของหนานกงเฉินก็ดังขึ้นมา
มือของไป๋มู่ชิงที่คีบตะเกียบหยุดลง เมืองเหยียนเฉิง?
ถึงเธอจะชอบที่นั่นมาก แล้วอยากกลับไปอีกครั้งแต่ถ้าไปพร้อมกับหนานกงเฉิน……
เธอแอบสูดหายใจเข้าแล้วตอบไม่ตรงคำถาม "เมื่อคืนฉันฝัน ฉันฝันว่าตัวเองฆ่าคุณกับมือ"
หนานกงเฉินไม่คิดว่าเธอจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา แล้วเงยหน้าขึ้นมองไปที่เธอด้วยความประหลาดใจ "หมายความว่ายังไง? นี่เกี่ยวอะไรกับการไปเมืองเหยียนเฉิงด้วยกัน?"
ไป๋มู่ชิงเงยหน้าขึ้นแล้วมองกลับไปที่เขา "ฉันกลัวว่าจะควบคุมตัวเองไม่อยู่แล้วฆ่าคุณซะ"
"ฆ่าผมทำไม?"
"ไม่รู้ ก็แค่อยากฆ่าคุณ"
หนานกงเฉินหัวเราะออกมา "วางใจเถอะ คุณฆ่าผมไม่ได้หรอก"
"คุณมั่นใจขนาดนั้นเลยหรอ?"
"แน่นอน"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...