เธอมองไปรอบๆ ดวงตาของเธอจ้องมองไปยังหลัวเซินที่ยืนอยู่กลางห้องนั่งเล่น
ในตอนนี้หลัวเซินกำลังยิ้มให้เธอและโบกมือทักทาย "สวัสดี คุณไป๋ ยินดีที่ได้รู้จัก"
เมื่อเห็นเขา ไป๋ยิ่งอันนึกถึงเหตุการณ์ที่ถูกเขาบีบคั้นเมื่อกี่วันก่อน จนแทบอยากจะอาเจียนมื้อเที่ยงออกมา
เธอหยิบรองเท้าส้นสูงขึ้นมา ใช้ปลายรองเท้าส้นสูงตีไปที่เขา "แกยังจะมีหน้ามาเจอฉันที่นี่อีกเหรอ ไสหัวไปซะ ออกไป ... !"
"ไม่ ไม่ คุณไป๋ คุณเข้าใจผิด ผมเป็นแค่คนขับรถ ผมแค่ส่งคนมาที่นี่ ... " หลัวเซินโบกไม้โบกมือพลางหลีกหนีเธอ
"คุณชายเฉินมาแล้วเหรอ" ไป๋ยิ่งอันหยุดการเคลื่อนไหวของเธอ ทันใดนั้นใบหน้าของเธอก็มีความสุขขึ้น คุณชายเฉินมาที่นี่แล้วงั้นเหรอ? คุณชายเฉินยกโทษให้เธอแล้วจริงๆเหรอ?
แม้ว่าครอบครัวของเธอจะถูกทำลายโดยน้ำมือของเขา แต่เมื่อได้ยินว่าคุณชายเฉินมาที่นี่ หัวใจของเธอก็จุดไฟแห่งความคาดหวังขึ้นมา
เธอไม่เหลืออะไรแล้ว ถ้าคุณชายเฉินสามารถให้อภัยเธอและยังคงเป็นสามีภรรยากันให้เธอพึ่งพาได้ แน่นอนว่าเธอเต็มใจ เพราะนี่เป็นทางออกเดียวของเธอในตอนนี้
“ คุณชายเฉินจะไม่มาที่นี่อีกต่อไป” ทันใดนั้นก็มีเสียงผู้หญิงที่เก่งกล้าสามารถดังขึ้นจากบันไดวนบนชั้นสอง ไป๋ยิ่งอันเงยหน้าขึ้นและเมื่อได้เห็นเลขาเหยียน สีหน้าของเธอก็เรียบเฉย“ ทำไมถึงเป็นเธอ? เธอมาทำอะไรที่นี่? "
เลขาเหยียนยิ้มอย่างเฉยเมยและเดินลงไปชั้นล่างด้วยรองเท้าส้นสูงอย่างช้าๆ
"คุณไป๋ บ้านหลังนี้เพิ่งเช่าได้สิบวันและเพิ่งจะหมดสัญญาในวันนี้" เลขาเหยียนดินมาหาเธอและยืนนิ่งพร้อมกับพูดว่า "ฉันมาที่นี่เพื่อจะคืนห้อง รบกวนคุณไป๋ช่วยดูหน่อยว่ามีของอะไรที่ต้องเอาไปบ้าง มิเช่นนั้นเกรงวันหลังจากวันนี้ไปจะไม่ใช่ของๆคุณไป๋อีกต่อไปแล้วค่ะ "
"เธอพูดอะไร?" ไป่ยิ่งอันมองเธอ"เธอต้องการให้ฉันย้ายออกจากที่นี่"
“ คุณไป๋ ไม่ใช่ว่าฉันต้องการให้คุณย้ายออกไปจากที่นี่หรอกนะคะ แต่บ้านหมดสัญญาแล้วและคุณชายเฉินไม่มีแผนจะต่อสัญญาเช่าอีก”
"เธอ ... " ไป๋ยิ่งอันก้าวถอยหลังโดยไม่รู้ตัวพลางจับโซฟาข้างๆเธอด้วยฝ่ามือ และความหวังเล็ก ๆ ที่ประกายอยู่ในใจของเธอก็หายไปในทันใด
เมื่อครูเธอไม่น่าคิดอย่างเข้าข้างตัวเองเลยว่าเขาจะหายโกรธและตัดสินใจให้อภัยเธอ
เธอเพิ่งกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลไป๋ไม่นาน ซึ่งคฤหาสน์ตระกูลไป๋นั้นได้ถูกยึดไปแล้ว รวมทั้งทรัพย์สินทั้งหมดที่เป็นชื่อแม่และชื่อเธอก็ถูกยึดไปเช่นเดียวกัน
มิเช่นนั้นเธอคงจะไม่กลับมาที่นี่ แต่เธอไม่คาดคิดว่าแม้แต่ที่พึ่งสุดท้ายของเธอ หนานกงเฉินก็ยังจะยึดไปอีก ราวกับว่าหากเธอไม่ตายเขาก็จะไม่หยุด
หนานกงเฉินพูดถูก แม้ว่าเธอจะหาทางรอดได้ แต่มันจะทรมานยิ่งกว่าความตาย!
"คุณไป๋ คุณชายเฉินขอให้ฉันเตือน ว่าอย่าพยายามไปที่บ้านตระกูลหนานกงเพื่อรบกวนคุณผู้หญิงเพราะคุณชายเฉินไม่ได้ต้องการให้คุณผู้หญิงรู้เรื่องแผนการหน้าไม่อายของพวกคุณ ไม่อยากให้คุณผู้หญิงต้องโกรธ"เลขาเหยียนกล่าว
ไป๋ยิ่งอัน มองไปที่เธอ ส่ายหัวและยิ้มอย่างขมขื่น "เขาโหดร้ายถึงขนาดนี้ได้ยังไงกัน ... "
"คุณไป๋ ฉันคิดว่าควรจะเป็นคุณชายเฉินที่ต้องถามคุณมากกว่าถึงจะถูกนะคะ" เลขาเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น "จริงสิ คุณชายเฉินยังกล่าวอีกว่าจุดประสงค์ครึ่งหนึ่งของสิ่งที่เขาทำ ก็เพื่อล้างแค้นให้กับหลานตัวน้อยของตระกูลหนานกงที่ตายไป"
ไป๋ยิ่งอันรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย เธอไม่คาดคิดว่าหนานกงเฉินจะพูดถึงเรื่องนี้อีกครั้ง เธอคิดมาตลอดว่าหนานกงเฉินให้อภัยเธอแล้ว
เลขาเหยียนยังกล่าวอีกว่า"คุณไป๋ ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็เชิญคุณออกไปด้วยค่ะ ฉันจะล็อคประตูแล้ว"
ทันใดนั้นไป๋ยิ่งอันก็คว้าข้อมือของเธอและวิงวอน"ฉันอยากพบคุณชายเฉิน ขอร้องล่ะเธอช่วยไปบอกเขาที"
"คุณไป๋ ฉันคิดว่าคุณชายเฉินบอกคุณอย่างชัดเจนทางโทรศัพท์ในวันนั้นแล้วนะคะ เขาจะไม่พบคุณอีกตลอดชีวิต นอกจาก ... " เลขาเหยียนส่ายหัวและหัวเราะ "คุณอยากจะขอร้องเขาใช่ไหมคะ? ฉันแนะนำให้คุณเลิกคิดได้เลยค่ะ เพราะคุณชายเฉินจะไม่ยอมรับคำขอโทษและคำวิงวอนใดๆ "
เลขาเหยียนพูดจบพลางดึงมือเธอออกจากข้อมือของเธอ หันไปหาลอว์สันแล้วพูดว่า "ที่นี่ฝากนายจัดการก็แล้วกัน ฉันยังมีเรื่องอื่นต้องไปทำ"
"ครับ เลขาเหยียน" หลัวเซินตอบรับด้วยความเคารพ
เมื่อไป๋ยิ่งหนานได้ยินว่าจะฝากให้หลัวเซินจัดการที่นี่ต่อ เธอก็ตกใจและเดินตามเลขาเหยียนไปที่ประตู
เลขาเหยียนกำลังเปิดประตูรถเพื่อเข้าไป และพบว่าเธอกำลังตามมา จึงชี้เข้าไปในรถ "คุณจะไปไหน ฉันจะไปส่ง"
เพื่อที่จะหลบหนีหลัวเซินให้เร็วที่สุด ไป๋ยิ่งอันรีบเข้าไปในรถของเธอโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้แม้แต่น้อย
ขณะที่รถขับออกจากบริเวณบ้านพัก เลขาเขียนก็หันมาถามเธอประโยคหนึ่งว่า"คุณจะไปไหน"
ไปยิ่งอันเอนศีรษะพิงกระจกรถ ใบหน้าที่ซีดเซียวที่น่าสงสาร ทำให้ดูน่าเห็นอกเห็นแต่ใจแต่ก็เกลียดชังในเวลาเดียวกัน
"ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน" หลังจากนั้นไม่นาน ไป๋ยิ่งอันก็บ่นพึมพำขึ้นมา
ตอนนี้เธอไม่เหลืออะไรเลย ไม่มีครอบครัว ไม่มีบ้านและแม้แต่ของติดตัวสักชิ้น และทั้งหมดนี้เป็นเพราะเธอเองที่หาเรื่องใส่ตัว เป็นเพราะเธอเองเรื่องทั้งหมดถึงมาถึงจุดนี้ ทำร้ายพ่อของตัวเองจนตาย ยังทำให้แม่ต้องติดคุกอีก
หากไม่ใช่เพราะเธอที่โลภมากอยากจะเป็นคุณผู้หญิงของตระกูลหนานกง ยั่วโมโหหนานกงเฉิน ตระกูลไป๋จะล่มสลายไปในชั่วพริบตาได้อย่างไร?
ณ เวลาเช้าตรู่ คุณผู้หญิงที่ไม่รู้ว่าไปได้ยินข่าวมาจากไหน มองไปยังหนานกงเฉินที่เดินเข้ามาจากนอกร้านอาหารแล้วพูดว่า "ฉันได้ยินมาว่าแกไปไปป่วนพิธีแต่งงานของอันหนาน"
หนานกงเฉินไม่มีท่าทีแปลกใจหรืออาการลุกลี้ลุกลนใดๆ "คุณย่าไปได้ยินจากที่ไหนมาครับ"
“ เมื่อวานตอนไปคลับสุขภาพได้ยินคนพูดถึงเรื่องนี้กัน ยังบอกอีกว่าลากเจ้าสาวออกไปด้วย ตกลงมันเกินอะไรขึ้นกันแน่”
"คุณย่า คิดว่าข่าวนี้เชื่อถือได้เหรอครับ" หนานกงเฉินเดินไปข้างเธอแล้วดึงเก้าอี้มานั่งและพูดว่า"ต่อให้ผมจะขาดผู้หญิงแต่ก็ไม่ถึงกับต้องไปแย่งผู้หญิงของหลินอันหนานหรอกใช่ไหมล่ะครับ?"
"ฉันก็คิดอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ผู้คนเขาลือกันมาแบบนั้น"
"คนอื่นอยากจะลือกันยังไงก็ช่างเถอะครับ พวกเราอย่าไปสนใจเลย" หนานกงเฉินยกนมบนโต๊ะขึ้นมาดื่มและพูดว่า "คุณย่าครับ เมื่อก่อนคุณย่าเป็นคนสอนผมเองว่า ไม่ว่าข้างนอกจะลืออะไรก็ไม่ต้องไปสนใจ”
"ฉันก็คิดว่ามันไร้สาระเหมือนกัน" คุณผู้หญิงกล่าว"มีบางคนบอกว่าแกซื้อบริษัทของตระกูลไป๋และไป๋จิ้งผิงก็ถูกแกบีบบังคับให้ตาย สรุปแล้วมีเรื่องแบบนี้หรือเปล่า?"
"คุณย่า ไป๋จิ้งผิงกระโดดตึกด้วยความรู้สึกผิดเพราะเขาทำผิดกฎหมาย มันไม่เกี่ยวอะไรกับผมเลย" หนานกงเฉินพูดอย่างเมินเฉย
คุณผู้หญิงจมอยู่กับความเงียบ และมิอาจคาดเดาได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่
หนานกงเฉินมองไปที่เธอและพูดด้วยรอยยิ้มว่า "คุณย่าทาน อาหารเช้าเถอะครับ อย่าคิดมาก"
ตอนนั้นเองเสี่ยวลวี่เดินเข้ามาจากข้างนอก และแจ้งว่าหลินเต้าหรานและคุณนายหลินมาขอพบ
เมื่อได้ยินคำว่าตระกูลหลิน สีหน้าของคุณผู้หญิงไม่ได้มีความยินดีเท่าไหร่นัก พลางพูดขึ้นเบาๆว่า"ให้พวกเขาเข้ามา"
เสี่ยวลวี่กำลังจะเดินออกไปจากห้องอาหาร หนานกงเฉินก็พูดทันทีว่า "ให้พวกเขานั่งรอในห้องนั่งเล่นที่ชั้นสอง"
เสี่ยวลวี่ตอบรับคำและเดินออกไปจากห้องอาหาร
หนานกงเฉินหันไปหาคุณผู้หญิงและพูดว่า"คุณย่า ไม่อยากเจอหน้าพวกเขาก็อย่าฝืนเลย ให้ผมไปจัดการเอง"
"ก็ดี" คุณผู้หญิงพยักหน้า "บังเอิญว่าฉันจะไปวัดอยู่พอดี"
“ ไปทำอะไรที่วัดเหรอครับ?”หนานกงเฉินยังคงกินอย่างช้าๆ
คุณผู้หญิง ถอนหายใจอย่างเศร้าๆโดยไม่พูดอะไรสักคำ
พี่เหอที่อยู่ข้างๆตอบแทนเธอว่า "คุณชายเฉิน วันนี้เป็นวันที่คุณหนูน้อยจากไปเป็นเวลาหนึ่งเดือน คุณผู้หญิงอยากไปพระวิหารและอธิษฐานให้เขา"
หนานกงเฉินหยุดถือมีดและส้อมในมือและเงยหน้าขึ้นมองคุณผู้หญิง ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย
คุณผู้หญิงมองเห็นสายตานั้นของเขา ยิ้มอย่างขมขื่นพลางพูดว่า "ฉันรู้ดีว่าผู้คนไม่สามารถกลับมาจากความตายได้ และการอธิษฐานขอพรก็ไม่มีประโยชน์อะไร ขอแค่ความสบายใจก็พอ หวังว่าเขาจะสุขสบายดีอยู่บนสรวงสวรรค์"
หนานกงเฉินเงียบไปครู่หนึ่งและในที่สุดก็พูดเพียงประโยคสั้น ๆว่า"เดินทางปลอดภัยนะครับ"
"คุณชายใหญ่ ไม่ต้องกังวล ฉันและมีฉันกับคุณหวางคอยดูอยู่ คุณผู้หญิงจะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน" พี่เหอกล่าว
หนานกงเฉินพยักหน้าพลางลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินไปที่ชั้นสอง
ในห้องนั่งเล่นบนชั้นสอง หลินเต้าหรานและคุณนายหลินกำลังจิบชาที่เสี่ยวลวี่ชงให้และยังพยักหน้าชื่นชมเบาๆ หลังจากเห็นหนานกงเฉินเข้ามาก็วางถ้วยชาในมือทันทีและลุกขึ้นยืนจากโซฟา
“ คุณชายเฉิน ... ” หลินเต้าหรานยิ้มประหม่า มือทั้งสองข้างไม่รู้ว่าจะเอาไปวางไว้ไหนดี
คุณนายหลินก็กล่าวขึ้นว่า "เฉิน ขอโทษนะที่รบกวนเวลาอาหารเช้าของคุณ"
หนานกงเฉินมองไปที่พวกเขาและยิ้มเบา ๆ "คุณป้า คุณลุงเป็นผู้อาวุโสคุณ ไม่จำเป็นต้องสุภาพกับผมหรอกครับ เชิญนั่งก่อน"
ทั้งคู่ไม่ได้นั่งลง แต่กลับพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด "เฉิน เรามาเพื่อขอโทษคุณแทนอันหนาน พวกเราไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องแบบนี้ ... "
"ดูเหมือนว่าพวกคุณทุกคนจะรู้ความจริงแล้ว" หนากงเฉินเดินไปที่โซฟาตรงข้ามทั้งสองและนั่งลงจ้องมองทั้งสองด้วยสีหน้าเย็นชา
ทั้งคู่รีบพยักหน้าและคุณนายหลินกล่าวว่า "พวกเราเข้าใจ แต่ ... เฉิน ... เรื่องนี้อันหนานเป็นผู้ถูกกระทำนะ พวกตระกูลไป๋เป็นคนทำ จะบอกว่าเขาเป็นเหยื่อก็ได้ เดิมทีแค่อยากจะคบกับไป๋มู่ชิง ไม่คิดว่าจู่ๆไป๋มู่ชิงจะแต่งงานเข้าสู่ตระกูลเฉิน และหลังจากนั้น ... "
"คุณป้า" หนานกงเฉินขัดจังหวะเธอด้วยสีหน้าเย็นชา "ไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องนี้กับผมหรอก อันหนานทำอะไรไว้ ผมย่อมรู้ดีกว่าพวกคุณ"
"แต่ว่า……."
"เป็นแบบนี้นะ"หลินเต้าหรานกระแทกแขนของคุณนายหลินด้วยศอกและขัดจังหวะเธอ "คุณชายเฉิน หลายวันมานี้อันหนานถูกขังไว้ในบ้านโดยไร้ซึ่งอิสรภาพ คิดว่าน่าจะสำนึกแล้ว ที่พวกเรามาก็หวังแค่ว่าคุณชายเฉินจะปล่อยเขาไป คุณชายเฉินวางใจเถอะนะครับ พวกเราจะส่งเขาไปต่างประเทศ จะได้กลับมาเหยียบเมืองซีนี้อีกตลอดชีวิต และตระกูลหลินของเราก็จะไม่ให้มรดกกับเขาเป็นอันขาด”
"คุณชายเฉิน ... คุณคิดแบบนี้พอได้หรือเปล่า " หลินดาวหรานถามอย่างระมัดระวัง
หากพวกเขาสงสัยเกี่ยวกับวิธีการและความชั่วร้ายของหนานกงเฉินก่อนหน้านี้ หลังจากได้เห็นชะตากรรมของตระกูลไป๋แล้วนั้น พวกเขาก็คงจะไม่สงสัยอีกต่อไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...