เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 149

หนานกงเฉินลงมาจากรถ ไป๋มู่ชิงรีบไปอธิบายว่า“ฉันเป็นห่วงซูซี่ เพราะคุณไม่ให้ฉันออกไปข้างนอก ดังนั้นเลยให้เธอมาที่นี่ดีกว่า”

หนานกงเฉินมองเธอแวบหนึ่งและพูดเหน็บแนมว่า“สามีตัวเองยังดูแลไม่ค่อยดีเลยยังจะไปยุ่งเรื่องคนอื่นเขาอีกเหรอ?นี่เธอว่างนักหรือไงกัน”

“ปกติฉันว่างอยู่แล้ว”ไป๋มู่ชิงอดไม่ได้ที่จะพูดออกมา

“เธออยากจะพูดอะไร?”

“ฉันอยากมีอิสระ ฉันอยากไปทำงาน”

หนานกงเฉินจ้องเธอ ผ่านไปครู่หนึ่งก็พูดออกมาว่า“อิสระ งาน......ถ้าอย่างนั้นรอเธอดูแลฉันดีจนฉันพอใจค่อยมาว่ากัน”

พูดจบ เขาเอากระเป๋าเอกสารและเสื้อสูทโยนทิ้งไปที่หน้าอกของเธอ และเดินเข้าไปในห้อง

ไป๋มู่ชิงกอดกระเป๋าและเสื้อสูทเดินตามเข้าไป แอบมองไปที่เขา เธอรู้สึกว่าเขายังไม่ได้อารมณ์เสียเหมือนเมื่อเช้าที่เขาออกไป ถือว่ายังดี!

เธอยังกังวลว่าเขาจะใช้ท่าทีพวกนี้มาเผชิญหน้ากับเธอเหมือนเมื่อก่อนหรือเปล่า

หนานกงเฉินเป็นคนที่รับมือยาก ยังไงเข้าก็คุณชายใหญ่ที่ถูกเลี้ยงมาด้วยการตามใจสนเสียคน คนไม่มีเหตุผล!

ขึ้นอยู่กับว่า หลังจากไป๋มู่ชิงขึ้นไปชั้นบนแล้วยังเอาใจชงชาไปให้เขา

เห็นแก้วชาในมือของเธอ หนานกงเฉินเงยหน้าขึ้นมามองเธอแวบหนึ่ง หลังจากนั้นเขาดึงถ้วยชามาจิบ ทำสีหน้าเฉยชาพูดว่า“ถ้าหากอยากถามเรื่องเสี่ยวอี้ ฉันจะบอกให้เธอว่าอย่ามาถามเลย อยากจะมีอิสระ อยากไปทำงานเธออย่าพูดเพราะความอดทนของฉันมีขีดจำกัดนะ”

โลกนี้ไม่ได้อะไรมาฟรีๆหรอกนะ!

ไป๋มู่ชิงพูดอะไรไม่ออก“แค่ชงชามาให้คุณเอง คิดไปไกลถึงขนาดนี้เลยเหรอ?”

“นี่หมายถึงอะไร?”

“ยืนยันว่าเธอไม่ได้ดีกับฉันขนาดนั้น”

“เข้าใจก็ดีแล้ว”หนานกงเฉินวางถ้วยชาไว้บนโต๊ะ ก้มหน้าลงไปทำงานต่อ

หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง หนานกงเฉินรู้สึกว่าไป๋มู่ชิงยังยืนอยู่ที่ข้างๆเขาอยู่ เลยเงยหน้าขึ้นมาถามเธอว่า“ไม่มีอะไรแล้วยังจะอยู่ตรงนี้อีกเหรอ?”

“ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่อยากจะบอกว่าเดี๋ยวก็ถึงเวลาทานข้าวแล้ว”

“โอเค เข้าใจแล้ว”

ไป๋มู่ชิงถอนหายใจออกมากเบาๆและเดินออกไป

เขานึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่ได้ต่อว่าเธอเรื่องที่พาซูซี่มาที่ตระกูลหนานกง เธออุตส่าห์เตียมตัวที่จะถูกต่อว่ามาเรียบร้อยแล้ว เขาเป็นผู้ชายที่แปลกจริงๆ

ไม่เพียงแต่หนานกงเฉินไม่ต่อว่า ในใจที่กังวลของไป๋มู่ชิงในที่สุดก็วางใจได้แล้ว และในที่สุดก็สบายใจได้แล้ว

เวลาช่วงนี้ใช้ชีวิตลอยไปลอยมา ยิ่งกว่านั้นไป๋มู่ชิงไม่ได้รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าประจำเดือนของตัวเองเลยมาแล้วสิบวัน

คิดไม่ถึงเลยว่าหลังจากนั้นหนานกงเฉินช่วยเธอคิด

เมื่อครู่หนานกงเฉินกลับมาในห้องหลังจากออกไปจากห้องหนังสือ เห็นเธอออกมาจากห้องน้ำพอดี โดนยั่วด้วยร่างกายที่สมบูรณ์แบบของเธอ เลยรู้สึกต้องการเธอขึ้นมาทันที

เขาเลยรีบสั่งเธอว่า“มานี่หน่อย”

ตั้งแต่หลังจากเทศกาลไหว้พระจันทร์ ท่าทางของเขาถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยดี แต่ว่าจำนวนครั้งที่เขาต้องการเธอนั้นกลับบ่อยมาก ไป๋มู่ชิงชินแล้ว ดังนั้นในเวลาที่เขาออกคำสั่งเธอก็จะรีบเดินไปหาเขาทันที

มือหนึ่งของหนานกงเฉินจับที่เอวของเธอ อีกมือจับคางของเธอขึ้นมาต่อมาก็เริ่มด้วยจูบที่เราร้อน

ไป๋มู่ชิงขันขืนเขาและพูดเสียงเบาๆว่า“ฉันยังไม่ได้เป่าผมเลย......”

หนานกงเฉินไม่สนว่าเธอจะเป่าผมแล้วหรือยัง ไม่เพียงแต่ไม่ได้ปล่อยเธอไปยิ่งกว่านั้นยังจูบไปลึกซึ้งยิ่งกว่าเดิมอีก ปากก็เข้าไปอยู่ในปากของเธอ

ไป๋มู่ชิงถูกเขาจูบจนเธอมึนไปเลย ไม่นานก็ลืมเรื่องผมไปเลย เธอใช้มือทั้งสองกอดเขาอย่างแนบแน่น ค่อยๆจูบกลับเขาไป

จูบกลับไปสักพักหนึ่ง หนานกงเฉินพลิกตัวและผลักเธอไปอยู่บนเตียง

ทันใดนั้นหนานกงเฉินหยุดเคลื่อนไหว ปากเขาที่จูบเธออย่างลุ่มหลงนั้นก็ออกไปจากปากเธอในชั่วพริบตา

เธอเงยหน้าขึ้นไปมองเขาย่างมึนงง สายตาของเธอขณะนั้นเลือนลางมาก

เธอไม่รู้ว่าทำไมหนานกงเฉินถึงหยุดทุกการกระทำนั้นลง เธอได้แต่มองหน้าเขา

หนานกงเฉินจับมือเธอแล้วพูดว่า“ประจำเดือนเธอไม่มาสักพักแล้วใช่ไหม?”

“หือ?”ไป๋มู่ชิงตอบไปแบบงงๆ

ครู่ใหญ่ๆถึงจะตอบออกมา ถึงจะรู้ตัวว่าประจำเดือนของตัวเองก็ไม่ได้มีมาสักพักหนึ่งแล้ว

ประจำเดือนครั้งที่แล้วเธอมาวันที่ยี่สิบ แต่ว่าตอนนี้มันวันที่หนึ่งแล้วนะ!

หลังจากรู้สึกตัวแล้ว รู้สึกว่าหัวเธอเหมือนมีอะไรระเบิดอยู่ข้างในนั้น สับสนมึนงงไปหมด

หนานกงเฉินเห็นสีหน้าของเธอ เลิกคิ้วพูดว่า“ไม่ใช่ว่าขนาดตัวเธอเองยังไม่รู้ว่าประจำเดือนมาเมื่อไหร่หรอกใช่ไหม?”

หนานกงเฉินเห็นสีหน้าของเธอ เลิกคิ้วพูดว่า“ไม่ใช่ว่าขนาดตัวเธอเองยังไม่รู้ว่าประจำเดือนมาเมื่อไหร่หรอกใช่ไหม?”

หนานกงเฉินจำได้ว่าหลังจากที่ขังเธอไว้ที่บ้างพักตากอากาศก็ต้องการเธอมาโดยตลอด ไม่เคยเกินสี่วันเลยที่จะไปแตะต้องเธอ แต่ตั้งแต่ที่เขาขังเธอไว้จนถึงวันนี้ก็เกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว

ไป๋มู่ชิงพยายามพูดออกไปแต่ก็ไม่กล้ายอมรับว่าจริงๆแล้วเธอลืมเรื่องพวกนั้นแล้ว และไม่กล้าพูดว่าตัวเองอาจจะตั้งท้องแล้วก็ได้ แต่แล้วก้ได้แต่พูดว่า“ตั้งแต่หลังคลอดลูกมา......ประจำเดือนฉันก็มาไม่ค่อยตรงเท่าไหร่นัก คงยังประปรับไม่ได้......”

“ใช่แบบนี้จริงๆเหรอ?”

“อืม......”ไป๋มู่ชิงยิ้มแห้งและพูดว่า“ฉันจะหลอกคุณทำไม?”

หนานกงเฉินมองไปที่เธออย่างสงสัยหลังจากนั้นทันทีเขาก็ก้มหัวลงไปจูบที่ริมฝีปากของเธอ......

หนานกงเฉินเตือนเธอแบบนี้ วันต่อมาไป๋มู่ชิงก็กระวนกระวายใจขึ้นมาเลย

ยากไม่น้อยเลยที่กว่าจะรอให้หนานกงเฉินออกไปทำงาน เธอกลับไม่อยู่ที่บ้าน แต่ก็หมดหนทางที่จะออกไปซื้อที่ตรวจครรภ์ ว่าตัวเองท้องหรือเปล่า

เธอทนไม่ไหวแล้ว เธอเลยได้แต่ขอฝากให้เสี่ยวลวี่ช่วยเธอไปซื้อมาให้หน่อย

เสี่ยวลวี่ถามอย่างงงๆว่า“คูรนายน้อย ทำไมไม่ใช้คุณหนูผู่เอามาให้ล่ะคะ?ที่โรงพยาบาลของเธอมีห้องยาอยู่”

ไป๋มู่ชิงยิ้มออกไปอย่างเขินอายว่า“เรื่องแบบนี้จะไปของเธอได้ไงล่ะ”

พอพูดจบ เธอยังพูดอักว่า“ของร้องเธอเถอะนะ ตอนนี้ฉันจำเป็นต้องใช้จริงๆ”

“งั้นก็ได้ เดี๋ยวฉันเลิกงานตอนบ่ายแล้วจะไปซื้อให้นะ”เสี่ยวลวี่พยักหน้าตอบรับ

รอมาทั้งวัน ไม่ง่ายเลยที่รอถึงเสี่ยวลวี่เอาที่ตรวจครรภ์มาให้ ไป๋มู่ชิงรอจะไปเข้าห้องน้ำแทบจะไม่ไหว หลังจากนั้นก็ทดสอบตาที่หนังสือคู่มือบอกไว้

ตอนที่เธอเห็นเห็นขีดสีแดงๆสองขีดด้าบบนนั้น เธอแทบจะเป็นลม

คิดไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะตั้งท้อง!

ทำไมถึงเป็นแบบนี้กันนะ?

เธอจำได้ว่าทุกครั้งหนานกงเฉินก็ระวังมาโดยตลอด ไม่เคยทำผิดพลาดหรือทำให้มีโอกาสให้เธอตั้งท้องเลย

เป็นเด็กที่มาไม่ใช่เวลาอีกแล้ว!

ตอนนี้เธอตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด แท้ที่จริงแล้วไม่สมควรจะมาตั้งท้องอีก!

เธอนั่งอยู่บนฝาชักโครกอยู่นานจ้องมองไปที่ที่ตรวจครรภ์ มองนานอยู่สักพักแล้ว ขีดสองขีดบนนั้นก็คล้ายกับเปลี่ยนเป็นหนึ่งขีด

จนกระทั้งประตูห้องน้ำถูกเปิดเข้ามาอย่างกะทันหัน เงาของหนานกงเฉินปรากฏอยู่ตรงหน้าของเธอ ตกใจจนเธอลุกขึ้นมาจากโถชักโครก เอาที่ตรวจครรภ์ไปซ่อนไว้ด้านหลัง จ้องไปที่หนานกงเฉินด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก

เมื่อครูนั้นหนานกงรอเธออยู่ในห้องไปยี่สิบนาที่ แต่เธอไม่ออกมาสักที และก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เขายังคิดว่าเธอเป็นอะไรไปแล้วหรือเปล่าดังนั้นเลยได้รีบเข้ามา

เดิมทีเขาไม่เคยสนใจเลยว่าไป๋มู่ชิงนั้นทำอะไรอยู่ แต่ว่าเมื่อกี้ที่เธอทำท่าทางลับๆล่อๆยิ่งกลับทำให้ไปดึงดูดความสนใจของเขามากกว่าเดิม

เขาชินกับการขมวดคิ้ว จ้องไปที่แขนขวาของเธอและพูดว่า“ซ่อนอะไรไว้ข้างหลัง?เอาออกมาให้ฉันดูเดี๋ยวนี้นะ”

“ไม่ได้ซ่อนอะไร”ไป๋มู่ชิงสะบัดหัวไปโดยอัตโนมัติ

“เอาออกมาให้ฉันดู”พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกันออกคำสั่ง

ในตอนนั้นไป๋มู่ชิงไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี พูดด้วยความตกใจว่า“คือ......ฉันกำลังใช้อุปกรณ์ทางเพศของผู้หญิงอยู่ ฉัน......”

เธอคิดว่าถ้าพูดออกไปแบบนั้นแล้วอย่างน้อยหนานกงเฉินคงจะให้เวลาส่วนตัวกับเธอบ้าง ไม่น่าจะตามให้เธอออกไปอีก ไม่คิดเลยว่าหนานกงเฉินยิ่งขมวดคิ้วหนักกว่าเดิมอีกและยิ่งพูดด้วยน้ำสียงที่ดูไม่พอใจว่า“คุณนายน้อยหนานกง นี่เธอหมายความว่าอย่างไรกัน?”

“......”ไป๋มู่ชิงพูดอะไรไม่ออก

ทันใดนั้นหนานกงเฉินกลับยิ้มออกมาอย่างชั่วร้ายว่า“ให้ฉันดูว่ามันคือเครื่องมืออะไร ฉันจะได้ลองเรียนรู้ไว้”

“ไม่ต้องหรอก......”ไป๋มู่ชิงเห็นว่าเขาเดินเข้ามา เธอก็ถอยหลังไปโดยอัตโนมัติหลังจากนั้นก็ถอยไปนั่งอยู่บนฝาชักโครกอีกครั้ง

หนานกงเฉินกลับไม่ได้พูดเล่น ก้มตัวลงไปจับแขนขวาของเธอ ลากมือของเธอจากด้านหลังมาด้านหน้าได้สำเร็จ

มีเสียง‘ก๊อก’ดังขึ้น ที่ตรวจครรภ์ก็หล่นไปอยู่ที่พื้น

หนานกงเฉินก็มองลงไปดู พอเห็นที่ตรวจครรภ์ที่ตกอยู่ใต้โถชักโครก หลังจากนั้นเขาเงยหน้าขึ้นปถามเธอว่า“นี่มันอะไรกัน?”

ไป๋มู่ชิงเอาแต่ใช้มือปิดหน้าของเธอ ไม้ได้ก้มตัวลงไปเก็บที่ตรวจครรภ์ที่ตกอยู่บนพื้นและไม่กล้าสบตากับหนานกงเฉิน

หนานกงเฉินถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยเข้าใจเรื่องทั้งท้องเท่าไหร่ แต่ว่าก็ไม่ได้ไม่รู้เรื่องเลยว่าที่ตรวจครรภ์นั้นเอาไว้ทำอะไร

เธอยังไม่ทันได้ตอบออกไป หนานกงเฉินก้มลงไปเก็บที่ตรวจครรภ์ที่อยู่ข้างโถชักโครก ตอนที่เขาเห็นขีดสีแดงด้านบนนั้นก็ใจเต้น ผ่านไปครู่หนึ่งถึงจะเงยหน้าขึ้นมามอง ยังคงมองไปที่ไป๋มู่ชิงที่ไม่ทันทำอะไรก็เอามือมาปิดหน้าของตัวเอง

และหนานกงเฉินไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกลึกๆในใจของเขาออกมา ขนาดน้ำเสียงยังพูดออกม่อย่างสงบว่า“เธอตั้งท้องเหรอ?”

“ฉันขอโทษ ฉันก็ไม่ได้อยากท้องเหมือนกัน”ไป๋มู่ชิงพูดออกมาขณะที่ชี้ไปที่รอยแผล

“ฉันรู้ว่าเธอไม่อยากมี”หนานกงเฉินจับแขนเธอไว้ ดึงมือของเธอออกมาจากบนหน้า

มือทั้งสองของไป๋มู่ชิงถูกเขาดึงลงมา เปลี่ยนมาเป็นก้มหัวลงมาแทนและพูดว่า“ไม่ใช่ความผิดของฉัน”

“เป็นความผิดของฉันเอง”หนานกงเฉินใช้นิ้วไปคลึงที่คางของเธอ

ไป๋มู่ชิงจ้องมองเขาด้วยความแปลกใจ คิดไม่ถึงเลยว่าเขาจะยอมรับจะใจกว้างขนาดนี้ พูดแล้วยังดูเป็นความผิดของเขาจริงๆ เพียงแต่ว่า......ในเมื่อยอมรับแล้วว่าเป็นความผิดของเขา งั้นทำไมเขาต้องมองเธอใกล้ขนาดนั้นด้วย?

“อย่างงั้นก็ขอโทษนะ”จ้องเธอใกล้ๆจนไป๋มู่ชิงลน ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรกับประโยคนั้นที่พูดออกมา

เป็นอย่านั้นจริงๆหนานกงเฉินโดนเธอกระตุ้น โกรธจนไปจับคางเธอแน่น“นี่เธอยังจะมาขอโทษฉันอยู่เหรอ?”

ขณะที่พูดนั้น เขาก็ดึงเธอขึ้นมาจากฝาชักโครก ผลักเธอไปติดอยู่ที่อ่างล้างหน้า มือข้างหนึ่งถือที่ตรวจครรภ์ที่ขึ้นขีดแดงสองขีด“ทำไมถึงต้องแอบทำแบบนี้?ทำไมถึงไม่อยากให้ฉันรู้?หรือว่าเธออยากปิดบังฉันเหมือนครั้งที่แล้ว จะปิดบังไปจนปิดไม่ได้เหรอ?หรือว่าเธอกับเพื่อนวางแผนอะไรจะทำอะไรฉันหรือเปล่า?”

“ฉันเปล่านะ!”ไป๋มู่ชิงรีบปฏิเสธ

ทำไมเขาถึงคิดแบบนี้กันนะ หลินอันหนานถูกเขาบังคับไปอยู่ต่างประเทส ตระกูลไป๋เองก็โดนเขาบังคับจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด เธอจะมีหน้าไปทำแบบนั้นกับเขาได้อย่างไร?

“ไม่มีเหรอ?แล้วอย่างนั้นทำไมเธอต้องซ่อนไว้?”หนานกงฉินโมโหจนเอาที่ตรวจครรภ์ทิ้งลงไปในถังขยะข้างๆ

ไป๋มู่ชิงถูกเขาดันไปติดอยู่ที่อ่างล้างมือ หนีก็หนีไม่พ้น ได้แต่ของร้องเขาว่า“ฉันก็ขอโทษไปแล้วไง ก็แค่กลัวว่าคุณจะไม่พอใจ เพราะคุณไม่ได้อยากมีลูกสักหน่อย......”

“ฉันอยากหรือไม่อยากนั้นมัน็เรื่องของฉัน!ลูกของฉันฉันก็ควนมีสิทธิรู้ไม่ใช่เหรอ?”

“ขอโทษ”

“นอกจากขอโทษแล้วยังพูดอะไรเป็นอีกไหม?” ความโกรธของหนานกงเฉินก็ยังมาหายไปแม้แต่น้อย“ทำไมไม่อยากให้ฉันรู้ทุกครั้งเลยล่ะ หรือว่าเธอจะแอบไปเอาออกอีก?หลังจากนั้นก็ทำเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอ?ไป๋มู่ชิงเธอไม่เพียงแต่จิตใจโหดร้ายเธอยังเห็นแก่ตัวอีกด้วยรู้ไหม?!”

“เจ็บ......”ไป่มู่ชิงโดยเขากดลงไปที่อ่างล้างมือ อ่างล้างมือที่ข้างหลังเธอเย็นเฉียบมาขนทำให้เธอเจ็บมาก เธอได้แต่อ้อนวอนเขาว่า“คุณชายใหญ่ คุณทับท้องฉันอยู่......”

ในที่สุดประโยคที่เธอพูดออกไปนั้นก็ทำให้หนานกงเฉินคิดได้สติขึ้นมา และยังถอยหลังไปตั้งหลายก้าว

ไป๋มู่ชิงถอนหายใจออกมา ดูแล้วเขายังใส่ใจลูกคนนี้อยู่

เขาถอนหายใจออกมาเบาๆ เงยหน้าขึ้นมามองเขาที่กำลังโมโหอยู่ว่า“คุณชายใหญ่คุณอย่าไปโกรธเลยนะ ฉันก็คิดขึ้นได้เพราะที่คุณถามเตือนฉันเมื่อวานนี้ หลังจากนั้นเลยให้เสี่ยวลวี่ไปซื้อมาให้ ดูผลเมื่อครู่นี้แล้วก็ตกใจไปมากๆ ไม่รู้เลยว่าควรทำอะไรในเวลานั้น ดังนั้นเลย......”

หนานกงเฉินยังคงจ้องเธอและถามด้วยเสียงที่เย็นชาว่า“งั้นฉันถามอะไรหน่อย ถ้าเมื่อครู่นี้ฉันไม่เข้ามาเธอวางแผนไว้ว่าอย่างไร?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด