เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 163

"อืม กำลังจะไปบริษัท"

"อ้อ ใช่ วันนี้วันจันทร์" จูจูพยักหน้า

ไป๋มู่ชิงในชุดทำงาน มือขวาโอบเอวของหนานกงเฉินอย่างสนิทสนม เธอส่งยิ้มให้จูจู: "คุณหนูจู มื้อเที่ยงอยากกินอะไรบอกเสี่ยวหยวนได้เลย พักผ่อนให้สบายนะ ตรงไหนที่ดูแลไม่ทั่วถึงก็ขออภัยด้วย"

จูจูพยักหน้า: "พวกคุณดูแลดีมากๆ แล้ว ฉันรู้สึกผิดมากเลย ที่ทำให้พวกคุณต้องวุ่นวายไปหมด หวังว่าคุณจะไม่มีปัญหาอะไร"

"จะมีได้ยังไงล่ะ คุณเป็นเพื่อนรักของเฉิน ย่อมเป็นเพื่อนรักของฉันด้วย ดูแลคุณเป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว"

"อืม ขอบคุณนะ" รอยยิ้มบนใบหน้าของจูจูใกล้จะฝืนต่อไม่ไหวแล้ว แต่เธอก็พยายามฝืนยิ้มไว้

"นั้นพวกเราไปก่อนนะ"

"ค่ะ เจอกันคืนนี้"

"เจอกันคืนนี้" ไป๋มู่ชิงเงยหน้าขึ้นพูดกับหนานกงเฉิน: "สามีคะ เราไปกันเถอะ ช้ากว่านี้จะไปทำงานสายเอา"

"โอเค" หนานกงเฉินยิ้มให้คุณหนูจูเล็กน้อย หมุนตัวเดินออกจากห้องนอนของจูจูพร้อมไป๋มู่ชิง

หลังเดินออกจากห้องนอน ไป๋มู่ชิงถอดหายใจเบาๆ แล้วแอบชำเลืองมองหนานกงเฉิน เธอขอบคุณเขาที่ให้โอกาสแสดงความเป็นเจ้าของกับเธอ และดีใจมาก

ทั้งสองไปบริษัทพร้อมกันเหมือนที่ผ่านๆ มา จุมพิตบอกลากันในรถ

ไป๋มู่ชิงประจำที่นั่งอย่างเหม่อลอยนิดๆ จนกระทั่งผู้จัดการหวงของแผนกเห็นสีหน้าเธอไม่ค่อยดี จึงถามเธอว่าไม่สบายหรอ เธอจึงรู้ตัวว่าตัวเองเสียการควบคุมไป

เวลางานไม่ตั้งใจทำงาน ถ้าเป็นบริษัทเอกชนคงโดนเจ้าของด่ากราดไปแล้วมั้ง?

เธอส่ายหน้าไปมาบ่งบอกว่าตัวเองไม่ได้เป็นอะไร หายใจเข้าลึกๆ ตัดสินใจลบภาพไม่ดีในในหัวออกเงียบๆ ตั้งใจทำงาน

ตอนกินข้าวกลางวัน น่าแปลกหนานกงเฉินไม่ได้โวยวายเรียกเธอไปกินข้าวข้างบนเหมือนทุกครั้ง เป็นครั้งแรก เธอรู้สึกใจไม่ดี ทำไมหนานกงเฉินไม่เรียกเธอ? เพราะอารมณ์ไม่ดีหรอ?

"มู่ชิง คุณจะไปกินข้าวที่โรงอาหารพร้อมพวกเราไหม?" เสี่ยวเถียนถามยิ้มๆ

ยังไม่ทันที่มู่ชิงจะตอบ เพื่อนร่วมงานสาวอีกคนก็พูดขึ้น: "มู่ชิงเขาไปกินที่ชั้นดาดฟ้า ไม่ว่างไปกินกับพวกเราที่โรงอาหารหรอก"

"พูดมีเหตุผล" เสี่ยวเถียนแววตาหยอกล้อ: "นั้นพวกเราไปเถอะ"

"ไม่ ฉันจะไปกับพวกคุณ" ไป๋มู่ชิงลุกขึ้นจากที่นั่ง ตามทุกคนไป

"ทำไม? วันนี้ไม่ต้องขึ้นไปกินกับคุณชายเฉินหรอ?" เสี่ยวเถียนพิจารณาเธอ

ไป๋มู่ชิงยิ้มเก้อๆ : "ไม่ต้องแล้ว ฉันอยากไปกับทุกคนจะได้มีเพื่อนหน่ะ"

"คุณทำแบบนี้ คุณชายเฉินจะหึงเอานะ?"

"นั่นสิ ถ้าคุณชายเฉินหึงขึ้นมา พวกเราโดนหักโบนัสจะทำยังไง?"

"ไม่หรอก คุณชายเฉินเขาแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้"

ทั้งหมดหัวเราะกันอย่างสนุกสนาม เดินไปยังลิฟท์

ตั้งแต่ทานข้าวจนจบมื้อเที่ยง ไป๋มู่ชิงไม่ได้รับสายหรือข้อความจากหนานกงเฉินเลย เธอกลับมาประจำที่นั่งอย่างรู้สึกหดหู่ใจ เริ่มคิดต่างๆ นาๆ อย่างอดไม่ได้

ก่อนเลิกงานในตอนเย็น ไป๋มู่ชิงได้รับสายจากหนานกงเฉินสักที เธอรีบรับสายทันควัน น้ำเสียงกลับราบเรียบเหมือนทุกครั้ง: "เลิกงานแล้วหรอ?"

หนานกงเฉินที่อยู่ปลายสายเหมือนจะยุ่งอยู่ น้ำเสียงค่อนข้างจริงจัง: "มู่ชิง เธอกลับไปก่อนนะ ผมกำลังประชุมอยู่"

ไป๋มู่ชิงรีบพูดแบบไม่ต้องคิด: "ฉันรอคุณที่บริษัทค่ะ"

"ไม่ต้องหรอก"

"ไม่เป็นไร พอดีฉันมีงานบางส่วนยังไม่เสร็จ" ให้เธอกลับไปก่อน? กลับไปหาคุณหนูจูจอมเสแสร้ง?

หลังเลิกงาน เสี่ยวเถียนยังคงพิจารณาเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ พูดด้วยรอยยิ้ม: "มู่ชิง คุณยังไม่กลับหรอ? คงไม่ได้กำลังรอคุณชายเฉินเลิกงานอยู่ใช่ไหม?"

ไป๋มู่ชิงพยักหน้า เพื่อนร่วมงานต่างจากไปด้วยเสียงหัวเราะสนุกสนาน

ทุกคนล้วนรู้สึกว่าเธอมีความสุขมาก ไม่มีความกังวลใดๆ มีแค่เธอที่รู้ เธอในตอนนี้เหมือนเดินอยู่บนน้ำแข็งบางๆ มีโอกาสถูกรักแรกของหนานกงเฉินเหยียบอยู่ใต้เท้าได้ทุกเมื่อ

ขณะที่รอในห้องทำงานจนถึง 1 ทุ่ม จู่จู่ก็มีเสียงเรียกชื่อเธอจากด้านหลัง ไป๋มู่ชิงหันไป เห็นพนักงานต้อนรับนำข้าวกล่องมาให้: "คุณหนูไป๋ นี่เป็นข้าวกล่องของคุณค่ะ"

ไป๋มู่ชิงพิจารณาข้าวกล่องในมือของเธอ ถามด้วยสีหน้าประหลาดใจ: "ฉันไม่ได้สั่งข้าวกล่องนี่นา"

"อ้อ เลขาเหยียนสั่งมาให้คุณค่ะ"

เลขาเหยียนช่วยสั่งมาให้หรอ? นั้นก็เป็นคำสั่งของหนานกงเฉินสินะ?

ไป๋มู่ชิงยิ้มบางๆ ให้เธอ: "ขอบคุณค่ะ วางตรงนี้เถอะ"

หลังจากที่พนักงานต้อนรับจากไป เธอเปิดข้าวกล่อง พบว่าในกล่องเป็นกับข้าวที่เธอชอบทั้งหมด ไม่น่าเชื่อว่าหนานกงเฉินที่กำลังงานยุ่งยังมีใจสั่งให้เลขาหยวนช่วยสั่งข้าวกล่องให้เธอ ความรู้สึกหดหู่ใจตลอดทั้งวันได้รับการเติมเต็มเล็กน้อยในทันที

งานที่เธอทำค้างไว้เมื่อกลางวันก็เรียบร้อยแล้ว ท้องก็อิ่มแล้ว ไป๋มู่ชิงเริ่มรู้สึกง่วงขึ้นมาทันที ฟุบตัวลงบนโต๊ะเริ่มร่างแบบไปได้พักหนึ่ง ร่างไปร่างมาเผลอหลับไปซะอย่างนั้น

เมื่อคืนเธอหลับไม่ค่อยสนิท จึงหลับลึกอย่างไม่รู้ตัว จนกระทั่งหนานกงเฉินมาอยู่ตรงหน้าเธอก็ยังไม่รู้ตัว

หนานกงเฉินพิจารณาใบหน้าที่หลับอย่างสงบของเธอ ใช้นิ้วจิ้มไปที่แขนเธอกลับไม่ได้รับการตอบรับ จึงอดใจไว้ไม่ปลุกเธอ

จริงๆ แล้วเขายังทำงานไม่เสร็จ แต่กลัวว่าเธอจะรอนานจึงเลิกงานก่อน ในเมื่อตอนนี้เธอกำลังหลับลึก เขาเลยตัดสินใจลากเก้าอี้มาข้างเธอ แล้วหยิบโน๊ตบุ๊คออกจากกระเป๋ามาวางบนโต๊ะ

หนานกงเฉินถอดเสื้อคลุมมาคลุมให้เธอ เธอยังคงหลับสนิทอยู่

หนานกงเฉินนัั่งทำงานบนเก้าอี้ จนกระทั่ง 5 ทุ่ม

ไป๋มู่ชิงตื่นจากการหลับที่ยาวนาน เห็นหนานกงเฉินนั่งอยู่ข้างกายด้วยความประหลาดใจ เคาะแป้นพิมพ์ด้วยความตั้งใจ

เธอหลับตาลงครู่หนึ่ง หัวเราะเยาะตัวเองในใจ คิดในใจว่าตัวเองเป็นอะไรไป ขนาดฝันยังฝันเห็นหนานกงเฉินอยู่ข้างกายเธอ นี่เธอกลัวว่าคุณหนูจูจะแย่งเขาไปขนาดไหนกัน!

เพียงแต่ เมื่อเธอลืมตาขึ้นอีกครั้ง หนานกงเฉินกลับไม่ได้หายไปในอากาศ

เมื่อเธอได้สติว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความฝัน รีบนั่งตัวตรงบนเก้าอี้ พิจารณาเขาแล้วพูดเสียงเบาว่า: "คุณชายใหญ่ คุณอยู่ที่นี่ได้ยังไง?"

หนานกงเฉินยิ้มบางๆ โดยไม่หันหน้าไป: "จะเพราะอะไรได้อีกล่ะ? รอคุณเลิกงานไง"

"คุณรอฉันเลิกงาน?"

"อืม"

เธอรอเขาเลิกงานชัดๆ ไป๋มู่ชิงรีบใช้มือแตะที่มุมปาก และเห็นว่าตัวเธอนั้นสวมเสื้อคลุมของเขาอยู่ แล้วมองเวลาบนนาฬิกา อุทานเสียงเบาอย่างอดไม่ได้: "พระเจ้า 5 ทุ่มแล้ว!"

"อืม ผมรอตั้งแต่ 3 ทุ่ม จนถึง 5 ทุ่ม

"ทำไมคุณไม่ปลุกฉันล่ะ?" ไป๋มู่ชิงมองเขาอย่างรู้สึกผิด

หนานกงเฉินยิ้มบางๆ : "ผมเรียกแล้ว แต่ว่าเธอไม่ตื่น"

"เป็นไปได้ยังไง"

"เธอถูกเลี้ยงจนเป็นหมูน้อยที่รักการนอนแล้ว หรือว่าเธอยังไม่รู้ตัวหรอ?" หนานกงเฉินหันไปมองเธอแวบหนึ่ง ปิดโน๊ตบุ๊คลง แล้วลุกจากเก้าอี้: "ไปเถอะกลับบ้านกัน"

ไป๋มู่ชิงถอดเสื้อคลุมออกจากตัวด้วยความเคอะเขิน แล้วส่งคืนให้เขา: "เสื้อของคุณ รีบใส่เถอะ"

"เธอใส่เถอะ เพิ่งตื่น เป็นหวัดง่าย" หนานกงเฉินนำเสื้อคลุมมาคลุมให้เธออีกครั้ง มือข้างหนึ่งโอบเธออีกข้างหนึ่งถือกระเป๋าโน๊ตบุ๊คมากอดไว้ เดินไปยังลิฟท์

ขณะที่ยืนอยู่ในลิฟท์ที่มีกระจกทั้ง 4 ด้าน ไป๋มู่ชิงมองเงาทั้งสองในกระจก ช่างสนิทสนมช่างกลมเกลียวกันจริงๆ ราวกับว่าไม่มีคุณหนูจูคนนี้ปรากฏตัวมาก่อน

ไป๋มู่ชิงมองเขาในกระจกแล้วถามว่า: "จริงสิ ตอนเที่ยงคุณกินที่ไหนหรอ?"

"กินข้างนอก ทำไมหรอ?"

"ไม่มีอะไร" ไป๋มู่ชิงส่ายหน้า​: "แค่เป็นห่วงเฉยๆ "

"ทำไม? ผมไม่ได้รบกวนเธอ เธอไม่ชินใช่ไหม?" หนานกงเฉินหยอกล้อข้างหูเธอ

"ที่ไหนกัน" ไป๋มู่ชิงมองสีหน้าของเขา แอบสงสัยในใจว่าเขาไปกินข้าวข้างนอกที่ไหนกันแน่? คงไม่ได้กลับคฤหาสน์หลังเล็กไปกินเป็นเพื่อนคุณหนูจูหรอกนะ?

เธอไม่ได้ถามออกมาตรงๆ และไม่รู้ว่าจะถามยังไง

ขณะที่ทั้งสองกลับมาถึงคฤหาสน์หลังเล็กนั้น ในบ้านก็เงียบสงบลงแล้ว

ไป๋มู่ชิงเงยหน้าขึ้นมองหน้าต่างของชั้นสอง ปิดไฟไปแล้ว

"ทุกคนหลับหมดแล้วหรอ?" ช่วงกลางคืนของฤดูใบไม้ผลิค่อนข้างหนาว พอลงจากรถก็มีลมพัดผ่านมาพอดี เธอกระชับเสื้อคลุมที่สวมอยู่ตามสัญชาตญาณ

"น่าจะนอนแล้วมั้ง ใกล้เที่ยงคืนแล้ว" หนานกงเฉินล็อครถ เดินเข้าตัวบ้านพร้อมไป๋มู่ชิง

ทั้งสองเพิ่งก้าวขาเข้าบ้าน พบว่าจูจูกำลังเดินลงมาจากชั้น 2

"จูจู ดึกขนาดนี้แล้วคุณยังไม่นอนอีกหรอ?" หนานกงเฉินถามพลางงประเมินเธอ

ไป๋มู่ชิงรู้สึกถึงลางไม่ดีแวบขึ้นมาในใจ ดึกขนาดนี้แล้วยังไม่เข้านอน......เธอต้องการทำอะไร?

"ตอนบ่ายฉันนอนมากไป เลยนอนไม่หลับ" จูจูพูดด้วยสีหน้าอมยิ้มพลางเดินลงจากบันได: "พวกคุณล่ะ? ทำไมกลับมาดึกจัง?"

"พวกเราทำโอทีน่ะ" ไป๋มู่ชิงตอบ

"ทำโอทีจนดึกขนาดนี้เลยหรอ? แม้ว่างานจะสำคัญ แต่ก็อย่าหักโหมเกินไปล่ะ ยังไงสุขภาพก็สำคัญที่สุด" จูจูพูดด้วยน้ำเสียงห่วงใย

"จริงสิ ฉันต้มยาของเฉินไว้แล้ว และยังทำขนมกินเล่นกับป้าใบ้ไว้ พวกคุณคงจะหิวกันใช่ไหม?" จูจูถามพร้อมเดินเข้าไปในครัว

เธอยกยาจีนถ้วยหนึ่งและขนมกินเล่นจานหนึ่งออกจากครัว แล้ววางไว้บนโต๊ะพร้อมเรียกพวกเธอไปกิน

หนานกงเฉินลังเลเล็กน้อย ก่อนจะจูงมือไป๋มู่ชิง: "ไปกัน กินสักหน่อยแล้วค่อยขึ้นนอน"

ไป๋มู่ชิงก้าวขากระทันหัน แล้วไปถึงโต๊ะก่อนหนานกงเฉิน รับถาดมาไว้ในมือแล้วแสดงความขอบคุณกับจูจู: "ขอบคุณความหวังดีของเธอนะ พวกเรากลับไปกินที่ห้องเถอะ"

"ไม่ต้องขอบคุณหรอก"

"แต่ว่าเรื่องการต้มยาต้องควบคุมไฟละเอียดมาก ฉันต้องเรียนจากพี่เหอตั้งหลายครั้งกว่าจะต้มได้สำเร็จ ยังไงคราวหน้าให้ฉันต้มเองเถอะนะ อีกอย่างคุณหนูจูเป็นแขก กินดีอยู่ดีที่นี่ก็พอแล้ว ไม่ต้องทำอะไรพวกนี้เพื่อพวกเราหรอก รู้สึกเกรงใจน่ะ"

"ฉันก็รู้สึกว่าว่างไปไม่มีอะไรทำเลยทำน่ะ" จูจูยังคงยิ้มอย่างสุภาพ: "ยังไงก็เป็นการกินฟรีอยู่ฟรี ฉันก็เกรงใจที่ไม่ได้ทำอะไรเลย"

"คุณหนูจูเกรงใจกันเกินไปแล้ว" ไป๋มู่ชิงหันไปพูดกับหนานกงเฉินว่า: "สามีคะ คุณคุยเป็นเพื่อนคุณหนูจูสักหน่อย คุยเสร็จรีบขึ้นไปพักผ่อนนะคะ"

หนานกงเฉินมองไป๋มู่ชิงแวบหนึ่ง ไม่ได้พูดอะไร

ไป๋มู่ชิงยกถาดขึ้นชั้นบนไป ปล่อยพวกเขาสองคนไว้ที่ชั้นล่าง

จูจูมองแผ่นหลังของไป๋มู่ชิงลับตาไป แล้วมองหนานกงเฉินอย่างเก้ๆ กังๆ : "มู่ชิงเธอ......เหมือนจะไม่ชอบให้ฉันทำเรื่องพวกนี้"

หนานกงเฉินฉีกริมฝีปากยิ้มเล็กน้อย: "เธอพูดถูกนะ การต้มยายุ่งยากมากเลย ขนาดเสี่ยวหยวนยังทำได้ไม่ดี"

"ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอโทษด้วยนะตอนแรกฉันไม่รู้ ยังคิดว่าการต้มยาจีนก็แค่ใช้น้ำสามถ้วยต้มให้เหลือถ้วยเดียวน่ะ"

"ยาของผมไม่เหมือนของคนอื่นๆ "หนานกงเฉินยกมือขึ้นแตะไหล่ของเธอเบาๆ : "ความหวังดีของคุณผมได้รับแล้วนะ รีบขึ้นไปพักผ่อนเถอะ"

จูจูพยักหน้า: "ค่ะ พวกคุณก็รีบพักผ่อนนะ"

"ราตรีสวัสดิ์" หลังจากบอกลาเธอแล้ว หนานกงเฉินก็ก้าวขาขึ้นบันไดไป

เมื่อไป๋มู่ชิงกลับมาถึงห้องนอนวางถาดยาไว้บนโต๊ะน้ำชา ยกถ้วยยาขึ้นดม แล้วยกไปเทลงในโถส้วม

คุณหนูจูออกโรงขนาดนี้ไม่คิดดีแน่นอน เธอจะไปกล้ากินของที่เธอทำได้ยังไง จะกล้าให้หนานกงเฉินดื่มยาที่เธอต้มได้ยังไง

เมื่อหนานกงเฉินเดินเข้ามา เห็นเธอถือถ้วยเปล่าออกมาจากห้องน้ำพอดี แววตาเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย รู้สึกประหลาดใจ: "เธอเทยาทิ้งหรอ?"

ไป๋มู่ชิงพยักหน้า: "ใช่ค่ะ พี่เหอเคยบอกว่าถ้ายาต้มไม่ดีจะไม่มีประสิทธิภาพ ถือว่าให้คุณพักยาวันนึงแล้วกันค่ะ" เธอยิ้มเล็กน้อย: "คุณคิดหนักเรื่องข้ออ้างที่จะไม่กินยาทุกคืนเลยไม่ใช่หรอ? นี่ยังไม่สมใจคุณหรอคะ?"

หนานกงเฉินยิ้มตอบบางๆ แล้วเดินไปนั่งที่โซฟา

ตรงหน้าเขาเป็นขนมกินเล่นที่จูจูทำเองกับมือ ไป๋มู่ชิงมองขนมแล้วพูดว่า: "คุณหิวไหม ถ้าหิวก็รีบกินเถอะ กินเสร็จจะได้อาบน้ำนอน"

ไป๋มู่ชิงพูดจบหันไปหยิบชุดนอนออกมาชุดหนึ่งจากตู้เสื้อผ้า แล้วหมุนตัวเดินเข้าห้องน้ำไป

เมื่ออาบน้ำเสร็จ เดินออกมา เธอพบว่าขนมบนโต๊ะไม่มีคนแตะต้องเลย ส่วนหนานกงเฉินนั่งใช้รีโมทเปลี่ยนช่องอยู่บนโซฟา

"ทำไมไม่กินล่ะ?" ไป๋มู่ชิงถาม

"ผมไม่หิว" หนานกงเฉินเงยหน้ามองเธอเล็กน้อย: "เธอกินเถอะ"

"ฉันก็ไม่หิว" ไป๋มู่ชิงเดินเข้าไปหา จ้องเขาด้วยรอยยิ้มข้างตัวเขา: "คุณคงไม่ได้ไม่กล้ากินใช่ไหม? วางใจเถอะ ฉันไม่ได้บ้าอำนาจไร้เหตุผลขนาดนั้น"

"หนานกงเฉินยืดตัวขึ้น จุมพิตที่ริมฝีปากเธอครั้งหนึ่ง: "แต่ถ้าผมกินไป คืนนี้ยังมีคนนอนไม่หลับมั้ง"

สีหน้าของไป๋มู่ชิงอายเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ : "ไม่หรอก คุณกินเถอะ"

"นั้นผมกินจริงๆ นะ"

"กินเถอะ" ไป๋มู่ชิงหยิบขนมขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วยัดใส่ปากเขา

หนานกงเฉินถูกบังคับกินไปชิ้นหนึ่ง พยักหน้า: "อื้ม......รสชาติไม่เลวเลย คุณไม่กินเสียดายแย่เลย"

"ไร้สาระ!" ไป๋มู่ชิงจ้องหน้าเขาอย่างไม่สบอารมณ์ แล้วหมุนตัวเดินไปที่เตียง

หนานกงเฉินลุกขึ้นจากโซฟาด้วยรอยยิ้ม หยิบชุดนอนเข้าห้องน้ำไป

เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น ขณะที่หนานกงเฉินและไป๋มู่ชิงเดินลงมาชั้นล่างพร้อมกัน ได้ยินเสียงพูดคุยของจูจูและเสี่ยวหยวนที่อยู่ในครัวดังมาแต่ไกล

จูจูยกอาหารเช้าเดินออกมาจากห้องครัว เห็นทั้งสองคนเดินเข้าห้องอาหารพอดี ยิ้มทักทายทั้งสองคน: "อรุณสวัสดิ์ค่ะทั้งสองคน"

"ทำไมคุณตื่นเช้าจัง?" หนานกงเฉินถาม

"ฉันกินฟรีอยู่ฟรีที่นี่ ถ้าไม่ทำอะไรสักหน่อยรู้สึกไม่สบายใจหนะ"

"คุณยังมีแผลอยู่"

"แผลฉันใกล้จะหายแล้ว ไม่กระทบเลยสักนิด" ยังคงมีรอยยิ้มกว้างอยู่บนใบหน้าของจูจู: "ทั้งสองคนรีบมานั่งกินอาหารเช้าสิ"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด