หลังจากพักฟื้นในโรงพยาบาลไปไม่กี่วัน อาการของหนานกงเฉินก็ดีขึ้น แต่ว่าเพื่อคำนึงถึงร่างกายของเขาคุณหญิงก็ห้ามเขาออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนด
หนานกงเขารู้สึกเบื่อหน่ายแล้วเดินไปเดินมาในห้องพักฟื้น เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็รีบหันหลังไป
"เป็นยังไงบ้าง? สืบหาที่อยู่มู่ชิงที่อังกฤษได้หรือยัง?" เมื่อเห็นผู้ช่วยเหยียนเขาก็รีบเอ่ยถาม
"ได้ประมาณหนึ่งแล้วค่ะ แต่ก่อนอยู่ลอนดอน แต่ว่าตอนนี้อยู่ที่เอดินเบอระ แต่ว่าพักอยู่ที่ไหนยังไม่ทราบค่ะ" ผู้ช่วยเหยียนมองสำรวจเขา "คุณชายเฉินคะ คุณจะตามไปที่อังกฤษจริงหรอคะ?"
"ใช่" หนานกงเฉินตอบอย่างไม่ลังเลเลย นี่เป็นสิ่งแรกที่เขาจะทำหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล
"แต่ว่าอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงประชุมบอร์ดบริหารแล้วนะคะ คุณ……"
"ถ้าไม่ตามหาตัวมู่ชิงกลับมา ผมก็ไม่สบายใจแล้วไม่มีกระจิตกระใจดูแลบริษัทด้วย" หนานกงเฉินคิดไปคิดมาแล้วเอ่ย "คุณช่วยผมสืบหน่อยว่าเธอจะอยู่เอดินเบอระนานแค่ไหน"
"คุณชายเฉินคะ อาจจะยากหน่อยค่ะ เพราะว่าไม่ใช่ทุกเมืองที่จะใช้บัตรประชาชน ถ้าเธอไม่ใช้บัตรประชาชนเราก็ไม่สามารถสืบหาตัวเธอได้เลย" ผู้ช่วยเหยียนเอ่ย "แต่ว่าคุณไว้ใจเถอะค่ะ ฉันจะพยายาม"
เธอมองไปที่เขา เงียบไปสักพักค่อยเอ่ย "คุณชายเฉินคะ……ตอนนี้เราคุยเรื่องงานได้หรือยังคะ?"
หนานกงเฉินมองไปที่เธอ ถึงแม้จะไม่อยากแต่ก็จำใจนั่งกลับไปที่เก้าอี้แล้วรับเอกสารที่เธอยื่นมาให้พร้อมเปิดดู
ดูไปครู่หนึ่ง เขาก็เงยหน้าถาม "ช่วยผมถามคุณหมอหน่อยว่าออกไปจากโรงพยาบาลได้วันไหน?"
"คุณชายเฉินถามแล้วไม่ใช่หรอคะ?"
"ผมถามแล้ว เขาบอกว่าต้องอีกหนึ่งอาทิตย์" กับคำตอบนี้เขายอมรับไม่ได้ หนึ่งอาทิตย์? ภรรยาตัวน้อยของเขาไม่รู้ว่าจะไปถึงที่ไหนบนโลกนี้แล้ว
ผู้ช่วยเหยียนถอนหายใจแล้วส่ายหัวไปด้วย ดูเหมือนว่าจะให้เขาตั้งใจทำงานก็คงจะลำบาก
หนานกงเขาในตอนนี้ ในใจมีแต่ไป๋มู่ชิง ไม่มีอารมณ์มาทำงานเลย!
--
เอดินเบอระเป็นเมืองเก่าแก่ของอังกฤษ หนึ่งปีก่อนที่ไป๋มู่ชิงรักษาตัวหายแล้ว ก็เคยมากับเฉียวเฟิงหว่านชิงแล้วหนึ่งครั้ง
เมืองนี้ใหญ่โตมาก แต่ไม่รู้เพราะว่าเคยมาหรือเปล่าแล้วอารมณ์ก็ไม่ได้ไม่ดีด้วยก็เลยไม่รู้สึกแปลกอะไร เธอไม่ได้รู้สึกสนใจมากนัก
แต่เสี่ยวหว่านชิงที่ใส่เสื้อโค้ทไว้ก็วิ่งไปวิ่งมา ดูมีความสุขมาก
เธอวิ่งไปต่อหน้ารูปปั้นช้างแล้วหันกลับมาโบกมือให้เฉียวเฟิง "คุณพ่อเฉียว หนูจะถ่ายรูปสวยๆที่นี่แล้วส่งไปให้คุณทวดกับคุณพ่อดู"
เฉียวเฟิงยิ้มอ่อนแล้วพยักหน้า "ได้ เดี๋ยวถ่ายให้หว่านชิงรูปหนึ่ง"
เฉียวเฟิงยกกล้องถ่ายรูปขึ้นแล้วกดชัตเตอร์ลงไป
หลังจากที่หว่านชิงถ่ายรูปเสร็จก็วิ่งมา "คุณพ่อคุณแม่ หนูก็จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ด้วย"
เฉียวเฟิงยิ้มแล้วลูบศีรษะของเธอ "หนูก็รู้ คุณพ่อไม่ชอบถ่ายรูป ให้คุณพ่อถ่ายให้หนูกับคุณแม่ดีมั้ย?"
"ก็ได้ค่ะ" หว่านชิงจูงมือของไป๋มู่ชิงไว้ "คุณแม่ เราไปถ่ายรูปกันเถอะค่ะ"
ไป๋มู่ชิงยิ้มแล้วเดินตามเธอไป จากนั้นก็เสี่ยวหว่านชิงอุ้มเข้ามาในอ้อมกอดแล้วทำท่าทางมือไปทางเฉียวเฟิง
หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ หว่านชิงก็วิ่งไปอีกวิวหนึ่ง มองเห็นแผ่นหลังที่มีความสุขของเธอ ไป๋มู่ชิงก็แอบสูดหายใจเข้า ตอนที่เพิ่งออกบ้านมาเธอก็คิดว่า ในเมื่อออกมาเที่ยวก็ควรจะดีใจหน่อย อย่าทำลายความรู้สึกของเด็ก แต่สุดท้ายเธอก็ทำได้ไม่ดีมาก
เธอหันกลับมาแล้วยิ้มไปทางเฉียวเฟิง "อาเฟิง คุณเหนื่อยหรือเปล่า? เราไปหาที่นั่งกันเถอะ"
"ได้" เฉียวเฟิงใช้คางชี้ไปที่ร้านกาแฟกลางแจ้ง "ตรงนั้นนั่งได้"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...