เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 250

สรุปบท บทที่ 250 ไม่ปล่อยเขาแน่: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

สรุปเนื้อหา บทที่ 250 ไม่ปล่อยเขาแน่ – เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด โดย เยว่กวางจู่อวี

บท บทที่ 250 ไม่ปล่อยเขาแน่ ของ เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด ในหมวดนิยายInternet เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เยว่กวางจู่อวี อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

หลังจากพักฟื้นในโรงพยาบาลไปไม่กี่วัน อาการของหนานกงเฉินก็ดีขึ้น แต่ว่าเพื่อคำนึงถึงร่างกายของเขาคุณหญิงก็ห้ามเขาออกจากโรงพยาบาลก่อนกำหนด

หนานกงเขารู้สึกเบื่อหน่ายแล้วเดินไปเดินมาในห้องพักฟื้น เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูก็รีบหันหลังไป

"เป็นยังไงบ้าง? สืบหาที่อยู่มู่ชิงที่อังกฤษได้หรือยัง?" เมื่อเห็นผู้ช่วยเหยียนเขาก็รีบเอ่ยถาม

"ได้ประมาณหนึ่งแล้วค่ะ แต่ก่อนอยู่ลอนดอน แต่ว่าตอนนี้อยู่ที่เอดินเบอระ แต่ว่าพักอยู่ที่ไหนยังไม่ทราบค่ะ" ผู้ช่วยเหยียนมองสำรวจเขา "คุณชายเฉินคะ คุณจะตามไปที่อังกฤษจริงหรอคะ?"

"ใช่" หนานกงเฉินตอบอย่างไม่ลังเลเลย นี่เป็นสิ่งแรกที่เขาจะทำหลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล

"แต่ว่าอีกไม่ถึงหนึ่งเดือนก็จะถึงประชุมบอร์ดบริหารแล้วนะคะ คุณ……"

"ถ้าไม่ตามหาตัวมู่ชิงกลับมา ผมก็ไม่สบายใจแล้วไม่มีกระจิตกระใจดูแลบริษัทด้วย" หนานกงเฉินคิดไปคิดมาแล้วเอ่ย "คุณช่วยผมสืบหน่อยว่าเธอจะอยู่เอดินเบอระนานแค่ไหน"

"คุณชายเฉินคะ อาจจะยากหน่อยค่ะ เพราะว่าไม่ใช่ทุกเมืองที่จะใช้บัตรประชาชน ถ้าเธอไม่ใช้บัตรประชาชนเราก็ไม่สามารถสืบหาตัวเธอได้เลย" ผู้ช่วยเหยียนเอ่ย "แต่ว่าคุณไว้ใจเถอะค่ะ ฉันจะพยายาม"

เธอมองไปที่เขา เงียบไปสักพักค่อยเอ่ย "คุณชายเฉินคะ……ตอนนี้เราคุยเรื่องงานได้หรือยังคะ?"

หนานกงเฉินมองไปที่เธอ ถึงแม้จะไม่อยากแต่ก็จำใจนั่งกลับไปที่เก้าอี้แล้วรับเอกสารที่เธอยื่นมาให้พร้อมเปิดดู

ดูไปครู่หนึ่ง เขาก็เงยหน้าถาม "ช่วยผมถามคุณหมอหน่อยว่าออกไปจากโรงพยาบาลได้วันไหน?"

"คุณชายเฉินถามแล้วไม่ใช่หรอคะ?"

"ผมถามแล้ว เขาบอกว่าต้องอีกหนึ่งอาทิตย์" กับคำตอบนี้เขายอมรับไม่ได้ หนึ่งอาทิตย์? ภรรยาตัวน้อยของเขาไม่รู้ว่าจะไปถึงที่ไหนบนโลกนี้แล้ว

ผู้ช่วยเหยียนถอนหายใจแล้วส่ายหัวไปด้วย ดูเหมือนว่าจะให้เขาตั้งใจทำงานก็คงจะลำบาก

หนานกงเขาในตอนนี้ ในใจมีแต่ไป๋มู่ชิง ไม่มีอารมณ์มาทำงานเลย!

--

เอดินเบอระเป็นเมืองเก่าแก่ของอังกฤษ หนึ่งปีก่อนที่ไป๋มู่ชิงรักษาตัวหายแล้ว ก็เคยมากับเฉียวเฟิงหว่านชิงแล้วหนึ่งครั้ง

เมืองนี้ใหญ่โตมาก แต่ไม่รู้เพราะว่าเคยมาหรือเปล่าแล้วอารมณ์ก็ไม่ได้ไม่ดีด้วยก็เลยไม่รู้สึกแปลกอะไร เธอไม่ได้รู้สึกสนใจมากนัก

แต่เสี่ยวหว่านชิงที่ใส่เสื้อโค้ทไว้ก็วิ่งไปวิ่งมา ดูมีความสุขมาก

เธอวิ่งไปต่อหน้ารูปปั้นช้างแล้วหันกลับมาโบกมือให้เฉียวเฟิง "คุณพ่อเฉียว หนูจะถ่ายรูปสวยๆที่นี่แล้วส่งไปให้คุณทวดกับคุณพ่อดู"

เฉียวเฟิงยิ้มอ่อนแล้วพยักหน้า "ได้ เดี๋ยวถ่ายให้หว่านชิงรูปหนึ่ง"

เฉียวเฟิงยกกล้องถ่ายรูปขึ้นแล้วกดชัตเตอร์ลงไป

หลังจากที่หว่านชิงถ่ายรูปเสร็จก็วิ่งมา "คุณพ่อคุณแม่ หนูก็จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ด้วย"

เฉียวเฟิงยิ้มแล้วลูบศีรษะของเธอ "หนูก็รู้ คุณพ่อไม่ชอบถ่ายรูป ให้คุณพ่อถ่ายให้หนูกับคุณแม่ดีมั้ย?"

"ก็ได้ค่ะ" หว่านชิงจูงมือของไป๋มู่ชิงไว้ "คุณแม่ เราไปถ่ายรูปกันเถอะค่ะ"

ไป๋มู่ชิงยิ้มแล้วเดินตามเธอไป จากนั้นก็เสี่ยวหว่านชิงอุ้มเข้ามาในอ้อมกอดแล้วทำท่าทางมือไปทางเฉียวเฟิง

หลังจากที่ถ่ายรูปเสร็จ หว่านชิงก็วิ่งไปอีกวิวหนึ่ง มองเห็นแผ่นหลังที่มีความสุขของเธอ ไป๋มู่ชิงก็แอบสูดหายใจเข้า ตอนที่เพิ่งออกบ้านมาเธอก็คิดว่า ในเมื่อออกมาเที่ยวก็ควรจะดีใจหน่อย อย่าทำลายความรู้สึกของเด็ก แต่สุดท้ายเธอก็ทำได้ไม่ดีมาก

เธอหันกลับมาแล้วยิ้มไปทางเฉียวเฟิง "อาเฟิง คุณเหนื่อยหรือเปล่า? เราไปหาที่นั่งกันเถอะ"

"ได้" เฉียวเฟิงใช้คางชี้ไปที่ร้านกาแฟกลางแจ้ง "ตรงนั้นนั่งได้"

สิ่งแรกที่หนานกงเฉินทำหลังจากออกจากโรงพยาบาลก็คือเข้าไปในห้องทำงานของเฉียวซือเหิง เพราะว่าความสัมพันธ์ของเขากับเฉียวซือเหิง หน้าเคาน์เตอร์ก็ไม่ได้ห้ามเขา ก็ปล่อยให้เขาเข้าไป จนกระทั่งหนานกงเฉินเข้าไปในห้อง เฉียวซือเหิงไม่ได้เตรียมใจอะไรเลยก็เลยตกใจกับเขา

หนานกงเฉินเดินไปต่อหน้าเขา มือทั้งสองก็วางลงบนโต๊ะทำงานพร้อมจ้องมองเขา "บอกมา แกเอาเมียกับลูกฉันไปที่ไหน?"

เฉียวซือเหิงเตรียมใจไว้แล้วว่าเขาจะมาหา ใบหน้าที่ประหลาดใจก็หายไป แล้วร่างกายก็เอนไปพิงกับเก้าอี้พร้อมใช้สายตาที่เยือกเย็นมองกลับ "แกแน่ใจเหรอว่าแกจะคิดบัญชีกับฉันตอนนี้?"

"ฉันถามแกว่ามู่ชิงอยู่ไหน!"

"ฉันเตือนจะไว้เลย แกใจเย็นดีกว่าถ้า ครั้งนี้ทำให้ร่างกายเป็นอะไรอีกหว่านชิงก็ช่วยแกไม่ได้"

"ฉันถามว่ามู่ชิงอยู่ไหน!" หนานกงเฉินชกหน้าเขาไปแล้วเอ่ยอย่างเยือกเย็น "เรื่องที่ลักพาตัวหว่านชิงไปอีกหน่อยฉันค่อยคิดบัญชีกับแก ตอนนี้ฉันบอกให้แกส่งตัวมู่ชิงมาไม่งั้น……"

เฉียวซือเหิงรู้จักนิสัยเขาดีแล้วเดาได้ว่าเขาจะลงมือ ก็เลยขยับเก้าอี้ถอยหลังหลบหนีหมัดของเขา "ไม่งั้นจะทำไม? แกจะฆ่าฉันหรอ?"

"หรือว่า……คืนชีวิตแกมาให้ฉัน ฉันก็จะคืนไป๋มู่ชิงให้แก ถ้าถึงเวลาไป๋มู่ชิงก็คงไม่ยอมแน่นอน" เฉียวซือเหิงมองไปที่เขา "แกเข้าใจไหม? ตอนนั้นไป๋มู่ชิงทำการแลกเปลี่ยนกับฉันเอง ฉันไม่ได้บังคับเธอ"

"แกรู้อยู่แล้วว่าเธอจะเลือกไปกับเฉียวเฟิง ทำไมยังให้เธอเลือกอีก?"

"แกหมายความว่าแกยอมตายก็ไม่ยอมให้เธอไปกับเฉียวเฟิงงั้นเหรอ?" เฉียวซือเหิงยิ้มอย่างมีเลศนัย "แล้วแกเคยคิดหรือเปล่าถ้าแกตายไป มู่ชิงก็จะกลับไปข้างกายเฉียวเฟิงเหมือนกัน?"

หนานกงเขาถูกเขาถามจนเป็นใบ้ไป ปฎิเสธไม่ได้เลยว่าก่อนเขาจะตาย เขาก็หวังว่าไป๋มู่ชิงจะอยู่กับเฉียวเฟิง แต่ว่าตอนนี้เขาฟื้นแล้ว เขาก็ไม่ยอมให้ภรรยากับลูกสาวตัวเองอยู่กับคนอื่นเด็ดขาด

"ฉันไม่สนว่าทำการแลกเปลี่ยนอะไร ฉันต้องตามหาตัวมู่ชิงกับหว่านชิงกลับมาแน่นอน แกไม่บอกฉันก็ไม่เป็นไร ฉันไปหาเอง" หนานกงเฉินเอ่ยกัดฟันแน่น "มู่ชิงกับหว่านชิงเป็นของฉัน นี่คือเรื่องจริง ไม่ว่าแกจะซ่อนจะบังคับก็ไม่มีประโยชน์ ถ้าแกรู้สึกไม่สบายใจก็เอาชีวิตฉันกลับไปก็ได้"

พูดคำนี้จบ หนานกงเฉินก็ยืดตัวขึ้นแล้วเอ่ย "แล้วก็เรื่องของหว่านชิง ฉันจะให้แกชดใช้แน่!"

พูดจบเขาก็เดินออกไป

เฉียวซือเหิงมองแผ่นหลังของเขาที่เดินออกไปก็ยิ้มอย่างมีเลศนัย จากนั้นก็ก้มหน้าทำงานต่อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด