เธอรีบลงมาจนลืมส่องกระจก ก็เลยไม่เห็นรอยฟันบนคอเธอ ตอนนี้เผลอไปแตะก็รู้สึกเจ็บๆรีอนๆขึ้นมา นั่นเป็นแผลที่หนานกงเฉินกัดเมื่อวาน
หน้าเธอแดงวูบ เธอหันไปทางหนานกงเฉินก็สบตาเข้ากับเขาพอดี
หนานกงเฉินกวาดสายตาผ่านใบหน้าที่แดงก่ำของเธอแล้วมองไปที่รอยฟัน เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นบ้างเขาจำได้หมดแถมยังรู้ตัวว่าควบคุมตัวเองไม่ได้จนกัดเธอไป
เซิ่งเคอมองทั้งสองสลับไปมาพร้อมพูดแซวเล่น "นี่พี่ชาย ผิวอันบอบบางของพี่สะใภ้ช้ำหมด ควรจะทะนุถนอมหน่อยสิ ใช่มั้ยครับพี่สะใภ้?"
หน้าของไป๋มู่ชิงแดงกว่าเดิม พร้อมอธิบายว่า "คุณชายไม่ได้กัดหรอก พี่ไม่ระวังเองเกาแรงไปหน่อยน่ะ"
"เป็นไปได้ยังไง? นี่มันรอยฟันชัดๆ ใช่มั้ยพี่ชาย" เซิ่งเคอหันไปขยิบตากับหนานกงเฉิน
"พอแล้วๆ อย่าแซวพี่ๆเขาเลย" ผู่เหลียนเหยาสะกิดเบาๆที่แขนเซิ่งเคอ
"ผมก็แค่สงสัย……"
"ฉันเป็นคนกัดเอง" หนานกงเฉินที่เอาแต่นั่งเงียบเอ่ยขึ้นพร้อมวางแก้วในมือลง "ทำไม? นายอยากทำตามเหรอ?"
เขายอมรับงั้นเหรอ ไป๋มู่ชิงอายจนแทบอยากมุดลงดินไป
เซิ่งเคออึ้งไปชั่วขณะ จากนั้นก็เอื้อมมือไปโอบผู่เหลียนเหยาพร้อมส่ายหน้า "ไม่ไม่ไม่ อย่างผู่เหลียนเหยาไม่ยอมให้ผมกัดหรอก"
"รู้ก็ดี" ผู่เหลียนเหยายกมือของเขาออก
จากนั้นหนานกงเฉินก็ลุกขึ้นจากโต๊ะทานข้าว "ผมขอตัวไปบริษัทก่อนนะครับ เชิญรับประทานต่อให้อร่อย"
"วันนี้คงจะมีนักข่าวดักรออยู่ ระวังตัวด้วย" คุณหญิงพูดอย่างเป็นห่วง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด
เขียนดี แต่แปลได้สับสน วางบทตอนกระโดดไปกระโดดมา...