เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 57

สรุปบท บทที่ 57 เกือบโป๊ะแตก: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด

อ่านสรุป บทที่ 57 เกือบโป๊ะแตก จาก เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด โดย เยว่กวางจู่อวี

บทที่ บทที่ 57 เกือบโป๊ะแตก คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายInternet เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย เยว่กวางจู่อวี อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

หนานกงเฉินพับหนังสือพิมพ์เก็บแล้วหันมาถามเธอว่า "เธอแน่ใจเหรอวันนี้เธอจะออกไป?

"แน่ใจค่ะ ทำไมเหรอ?"

"คุณหญิงน้อยครับ ข้างนอกคงจะมีนักข่าวเต็มไปหมด" คนขับรถตอบแทน

"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวปล่อยฉันลงข้างทางก่อนก็ได้ ฉันเตรียมแมสไว้แล้ว" เธอพูดอย่างภูมิใจพร้อมตบกระเป๋าไปด้วย เพราะเมื่อกี้คุณหญิงได้เตือนแล้วว่าจะมีนักข่าวดักรออยู่ เธอเลยเตรียมตัวมาดี

คนขับรถเงียบไปพร้อมมองไปทางหนานกงเฉิน หนานกงเฉินก็พยักหน้าให้จากนั้นค่อยสตาร์ทรถออกไป

ตามคาดเลยว่ามีนักข่าวดักรออยู่หน้าประตูบ้าน เมื่อเห็นว่ามีรถแล่นออกมา นักข่าวก็รีบมาอ้อมดักรถไว้พร้อมถามคำถามอย่างเสียงดัง

ไป๋มู่ชิงขยับถอยไปชิดกับเบาะแล้วหันไปมองหนานกงเฉิน แต่เขากลับนั่งนิ่งอย่างไม่สนใจกลุ่มนักข่าว

รอจนกว่ายามหน้าบ้านจะเปิดทางให้รถก็สามารถแล่นออกไปได้

รถสามารถออกจากหน้าบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่บรรยากาศในรถกลับเงียบสงัดจนไม่กล้าหายใจเสียงดัง

ไป๋มู่ชิงรู้สึกคิดผิดมากที่นั่งรถออกมาพร้อมเขา สำหรับเธอ ต้องอยู่กับผู้ชายที่นิ่งเงียบอย่างเขามันทำให้เธอทุกทรมานมาก

แต่หนานกงเฉินที่นั่งข้างๆกลับไม่รู้อึดอัดเลย เขาหยิบเอกสารงานขึ้นมาเปิดอ่านอย่างตั้งใจ

"คุณหญิงน้อยจะลงรถที่ไหนเหรอครับ" คนขับรถถามขึ้นอย่างมีมารยาท

ไป๋มู่ชิงรีบดึงสติกลับมาแล้วหันมองออกไปข้างนอก รีบพูดขึ้นว่า "หยุด! หยุด! ฉันจะลงตรงนี้"

คุณหวางขับรถไปเทียบข้างทาง ไป๋มู่ชิงรีบเปิดประตูรถลงไปพร้อมหันไปพูดกับหนานกงเฉิน "ขอบคุณนะคะ เดินทางปลอดภัยค่ะ"

เห็นเธอเดินไปไกลแล้ว คุณหวางก็เผลอยิ้มออกมา "คุณหญิงน้อยยังเป็นเด็กอยู่เลย"

คิ้วของหนานกงเฉินเลิกขึ้น พร้อมมองไปทางตรงกันข้ามที่ไป๋มู่ชิงยืนอยู่ เพิ่งจะ23 ก็ถือว่าเด็กอยู่

ก่อนที่จะแต่งงานกับหนานกงเฉิน เธอเพิ่งเรียนจบแล้วกำลังฝึกงานที่บริษัทขายเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่ง พอเสาร์อาทิตย์ก็ไปสอนเด็กวาดรูปที่สถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า

หลังจากที่แต่งงานเธอก็ไม่ได้ทำงานที่บริษัทนั้นอีก แต่ที่สอนเด็กๆวาดรูปเธอยังต้องทำเพราะนอกจากเธอแล้วก็ไม่มีใครสอนเลย

ทันทีที่เธอก้าวเข้าไปในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ผู้ดูแลอย่างจ้าวเฟยหยางก็ทักขึ้น "มู่ชิง กี่วันนี้เธอหายไปไหนมา? โทรไปก็ไม่รับสาย เด็กๆคิดถึงเธอแย่เลย"

ไป๋มู่ชิงไม่กล้าเอ่ยว่าเธอได้แต่งงานแทนพี่สาวเธอ เพียงพูดขอโทษ "ขอโทษนะคะ พอดีกี่วันนี้มีธุระน่ะค่ะ"

จ้าวเฟยหยางเป็นผู้ชายที่จิตใจดี กี่ปีก่อนที่เขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนทำให้ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์อยู่เสียชีวิต หลังจากนั้นประมาณปีนึงเขาถึงเดินออกมาจากความเศร้านี้ได้ เขาเป็นคนชอบเด็กมากๆเลยตัดสินใจที่จะรับเลี้ยงเด็ก พอนานวันเข้าจนกลายเป็นสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าอย่างที่เห็น

ไป๋มู่ชิงรู้จักจนกลายเป็นอาสาสมัครเพราะตอนที่น้องชายเธอหายตัวไป เธอกับแม่ตามหาอยู่หลายวันจนมาเจอที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้านี้

เพราะจิตใจที่ดีของเขาทำให้เธอตัดสินใจที่จะมาเป็นครูอาสาสมัคร แล้วมาช่วยเขาสอนเด็กๆบ้างหรือดูแลแทนเขาบ้าง

เพราะไม่ได้มานานพอเด็กๆเห็นเธอก็วิ่งกันมาอ้อมล้อมเธอไว้

ไป๋มู่ชิงลูบหัวเด็กๆเบาๆ พร้อมยกขนมหวานที่นำมาให้เด็กๆดู "เราไปกินขนมกันเถอะ"

"คุณครูไป๋เคยบอกว่าจะวาดรูปให้พวกหนู" เด็กน้อยพูดขึ้นด้วยเสียงอันอ่อนหวาน

ไป๋มู่ชิงก็เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเคยสัญญากับเด็กๆไว้ว่าจะวาดรูปให้ จากนั้นเธอก็พยักหน้าให้ "ใช่สิครูนึกขึ้นได้แล้ว งั้นเรายกเก้าอี้คนละตัวแล้วไปนั่งกินนั่งวาดที่สวนกัน"

สายตามองผ่านประตูเข้าไป เห็นไป๋มู่ชิงพอดี มือข้างนึงเธอจับขาตั้งไว้ ส่วนอีกข้างก็กำลังวาดอย่างตั้งใจ

โดยมีเด็กๆนั่งล้อมรอบเธอด้วยสีหน้ามีความสุขกันทุกคน

เขาเองก็ประหลาดใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่

"คุณชายเฉินคะ ให้ตามคุณหญิงน้อยมาไหมคะ?"เลขาเหยียนถามอย่างมีมารยาท

"ไม่ต้อง" หนานกงเฉินเปิดประตูรถแล้วเดินเข้าไปในบ้าน

"มีคนร้ายมา เราไปไล่เขากัน!" ไม่รู้ว่าเด็กคนไหนเป็นคนเอ่ยขึ้น จากนั้นเด็กๆก็พากันวิ่งออกไปพร้อมทั้งโยนขนมในมือไปทางหนานกงเฉิน

ไป๋มู่ชิงอึ้งไปพร้อมรีบวางดินสอในมือแล้วลุกไปแต่ตัวหนานกงเฉินเลอะไปด้วยวิปครีมกับพุดดิ้งหมดแล้ว

ชุดสูทอันหรูหรากับใบหน้าที่หล่อเหลา……แต่กลับโดนเด็กๆทำจนเลอะเทอะไปหมด

"นี่พวกเธอทำอะไรน่ะ?หยุดเดี๋ยวนี้นะ!"เลขาเหยียนรีบเข้ามาห้ามปราม

คนขับรถก็รีบลงมาบังขนมที่เด็กๆโยนไปที่ตัวหนานกงเฉินไว้

ไป๋มู่ชิงยืนอึ้งนิ่งไป ไม่คิดว่าหนานกงเฉินจะมา แถมยังโดนเด็กๆกระทำแบบนี้อีก มองไปที่วิปครีมเต็มตัวเขากับสีหน้าที่เยือกเย็นของเขาก็รู้เลยว่าเขาโมโหมากแค่ไหน

ทำไมเด็กๆถึงว่าเขาว่าเป็นคนร้ายล่ะ? หรือว่า……เขาเป็นคนที่จะมายึดพื้นที่นี้? ไป๋มู่ชิงไม่แน่ใจว่าเขาเห็นเธอหรือเปล่า แต่ที่แน่ๆคือเธอต้องรีบไปจากที่นี่

เธอใช้มือปิดหน้าตัวเองไว้แล้วหันหลังวิ่งเข้าไปหลบในบ้าน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด