เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด นิยาย บท 63

เมื่อมองตามสายตาเขา ไป๋มู่ชิงก็รีบซ่อนประวัติคนไข้ไว้ด้านหลังทันที เธอยิ้มกลบเกลื่อน " คุณชายเฉิน คุณคนสวย.....เผอิญจัง

"คุณชายเฉิน เราเจอกันอีกแล้ว" เหยาเหม่ยมองหน้าอันหล่อเหลาของหนานกงเฉินด้วยแววตาวิบวับยิ้มเคลิ้ม

"นายหญิงน้อย" เลขาเหยียนทักทายไป๋มู่ชิงอย่างให้เกียรติ ไป๋มู่ชิงอึดอัดเล็กน้อย เวลานี้เธอไม่อยากคาดเดาถึงความสัมพันธ์ของคนทั้งสอง

หนานกงเฉินพยักหน้าทักตอบเหยาเหม่ย แล้วหันไปมองด้านหลังของไป๋มู่ชิง ก่อนพูดด้วยน้ำเสียงวางอำนาจเหมือนทุกที "อะไร เอามาให้ฉัน"

"ไม่มี ไม่มีอะไร" ไป๋มู่ชิงส่ายหน้า

"คุณชายเฉิน คุณควรดู....." เหยาเหม่ยพูดยังไม่ทันจบ ก็โดนไป๋มู่ชิงเอามือปิดปากไว้ ทำให้ใบลงทะเบียนคนไข้และบัตรคิวร่วงตกไปอยู่แทบเท้าของหนานกงเฉิน

เลขาเหยียนก้มลงเก็บบัตรคิวขึ้นมา ในนั้นลงชื่อไป๋ยิ่งอัน แผนกสูติฯ

เห็นดังนั้นแววตาหนานกงเฉินเข้มขึ้นเล็กน้อย ก่อนมองมาที่เธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา " มีอะไรจะอธิบายมั้ย?"

ไป๋มู่ชิงแอบหยิกท้อนแขนเหยาเหม่ยเป็นการคาดโทษ ก่อนหันมาตอบหนานกงเฉิน "คือว่า.....คุณย่า เมื่อคืนท่านบอกว่าฉันไม่ท้องซะทีน่าจะมีความผิดปกติ ให้ฉันลองมาตรวจภายใน ฉันไม่กล้าขัดท่านเลยต้องมา

"อย่างงั้นเหรอ?"

จริงๆนะ ไม่เชื่อคุณกลับไปถามคุณย่าได้เลย เพราะกลัวเขาจะสงสัยไม่เลิก เธอจึงเสริมขึ้น "คุณชายใหญ่ ไม่งั้นคุณช่วยบอกกับคุณย่าให้ฉันหน่อยได้มั้ย ว่าฉันปกติกดีไม่มีปัญหาอะไร ข้อร้องล่ะ เห็นเขาว่ากันว่าการตรวจภายในมันเจ็บและทรมานมากเลย"

เหยาเหม่ยที่ยืนอยู่ข้างๆรู้สึกอยากมองบน นึกในใจแสบ!เดี๋ยวนี้โกหกเก่งขั้นเทพ

หนานกงเฉินมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนพูดด้วยน้ำเสียเรียบเฉย "มันเรื่องของเธอ แก้ปัญหาเอาเอง"

พูดจบเขาก็ก้าวเดินไปยังประตูทางออกของโรงพยาบาล

"คนใจร้ายใจดำ ใครจะไปมีลูกชายให้คุณ" ไป๋มู่ชิงบ่นอุบอิบไล่หลัง

แต่มีสิ่งหนึ่งที่เธอนึกขึ้นได้ ที่นี่เป็นโรงพยาบาลที่หนานกงเฉินมาประจำ ยังดีที่เธอยังไม่ได้ทำแท้งที่นี่ ไม่อย่างนั้นช้าเร็วเขาต้องรู้เป็นแน่

"ผู้หญิงคนเมื่อกี้หน้าตาสวยไม่เบา คงไม่ใช่เด็กที่หนานกงเฉินเลี้ยงไว้นะ?" เหยาเหม่ยพูดทั้งที่ยังมองตามหลังสองคนนั้น

ไป๋มู่ชิงส่ายหน้า " ฉันจะรู้มั้ย"

คนที่มีฐานนะร่ำรวยมีหน้ามีตาทางสังคมอย่างหนานกงเฉิน ถ้าจะเลี้ยงผู้หญิงซักคนสองคนไว้นอกบ้านก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่พอฟังเหยาเหม่ยพูดแล้ว ใจเธอกลับรู้สึกไม่พอใจขึ้นมา

ถึงจะไม่ได้รักเขา แต่ยังไงเขาก็เป็นสามีเธอ ใครเลยจะอยากให้สามีตัวเองมีผู้หญิงนอกบ้าน

เจอเข้ากับหนานกงเฉินแบบนี้ เรื่องทำแท้งเป็นอันต้องล้มเลิก ไป๋มู่ชิงเลยออกจากโรงพยาบาลไปเดินเล่นอยู่แถวนั้น

เหยาเหม่ยยังคงพูดโน้มน้าวเธอไม่เลิก " ลองคิดให้ดีนะ ผู้หญิงแต่ละคนที่เคียงข้างหนานกงเฉินสวยอย่างกับนางฟ้า ถ้าจะเอาเขาอยู่ ไม่มีลูกชายสักคนไม่ได้ ยังไงก็อย่าทำแท้งเลย เก็บไว้เถอะ เพื่อเป็นหลักประกันให้กับตำแหน่งนายหญิงน้อยของเธอก็ยังดี"

" เสียวเหม่ย ถ้าเธอยังไม่หยุดพูดฉันจะไปเดินเล่นคนเดียวไม่สนใจเธอแล้วนะ" ไป๋มู่ชิงพูดอย่างเคืองๆ

เหยาเหม่ยเงียบไป ไม่พูดอะไรต่อ

โทรศัพท์มือถือของไป๋มู่ชิงดังขึ้น เธอหยิบมือถือจากกระเป๋าขึ้นมาดู เห็นว่าเบอร์ที่โทรฯเข้ามาไม่คุ้น

เธอรับอย่างลังเล ไม่นึกว่าปลายสายจะเป็นเสียงของหลินอันหนาน คนน่าไม่อายยังกล้าโทรฯมาหาเธออีก? ไป๋มู่ชิงอยากจะวางสายทิ้งนัก

เบอร์เก่าของหลินอันหนานโดนเธอบล๊อกไปแล้ว เขาถึงได้เปลี่ยนเบอร์ใหม่โทรฯมา

"มีอะไร" เธอพูดเสียงเฉยชา

"มูนชิง ช่วยมาหาฉันที่ศูนย์วัฒนธรรมหน่อยได้มั้ย ฉันมีเรื่องจะคุยกับเธอหน่อย"

หลินอันหนานพูดด้วยน้ำเสียงปกติก เหมือนกับว่าระหว่างเธอกับเขาไม่เคยมีเรื่องอะไรกันมาก่อน

"มีอะไรก็พูดมาทางโทรฯศัพท์ได้เลย"

"คุยทางโทรศัพท์ไม่สะดวก คือฉันอยากเอาของบางอย่างคืนเธอ"

"ของอะไร"

"เธอมาถึงก็จะรู้เอง"

ไป๋มู่ชิงมองเหยาเหม่ยที่ยืนอยู่ข้างๆ เหยาเหม่ยรีบส่งสัญญาณมือก่อนกระซิบว่า "ทำดีหวังผลชัว"

ไป๋มู่ชิงเห็นด้วย มาแนวนี้ไม่น่าจะใช่เรื่องดี แต่เธอก็นึกไม่ออกจริงๆว่าเธอยังมีของอะไรลืมไว้ที่หลินอันหนาน

"คือ.......ของที่ว่าฉันไม่เอาแล้ว คุณเก็บไว้เองเถอะ" พูดจบไป๋มู่ชิงยังไม่ทันจะวางสายหลินอันหนานก็พูดขึ้น "ฉันจะรอเธอที่ศูนย์วัฒนธรรมชั้นสอง ถ้าเธอไม่มาฉันจะส่งของชิ้นนี้ไปที่บ้านหนานกงเฉิน"

"คุณ........... " หลินอันหนานตัดสายไปแล้ว ไป๋มู่ชิงรู้สึกโกรธมาก

ไป๋มู่ชิงถอนหายใจอย่างไม่รู้จะทำยังไง ก่อนเก็บโทรศัพท์มือถือ

เหยาหม่ยทำเสียงจิ๊จ๊ะก่อนพูด " นี่คุณชายหลินวางอำนาจเป็นเหมือนกันกับหนานกงเฉินตั้งแต่เมื่อไหร่ ?"

"จะไปรู้มั้ย" ไป๋มู่ชิงดึงแขนเธอ "ไป ไปเป็นเพื่อนฉันหน่อย"

ทั้งสองมาถึงประตูทางเข้าศูนย์วัฒนธรรม เหยาเหม่ยหยุดเดินก่อนพูดว่า "ฉันส่งเธอแค่นี้นะ ไม่อยากเข้าไปมีส่วนร่วม ระวังตัวเองด้วย"

ไป๋มู่ชิงจึงขึ้นชั้นสองไปคนเดียว

ชั้นสองของของศูนย์วัฒนธรรมเป็นพื้นที่สำหรับจัดแสดงนิทรรศการ วัตถุตโบราณต่างๆ ศิลปะภาพวาด ภาพถ่าย ฯลฯ ไป๋มู่ชิงมองไปรอบๆห้องจัดนิทรรศการ ไม่เห็นหลินอันหนานอยู่ในห้อง เธอจึงเอาโทรศัพท์ขึ้นมาและกดโทรฯกลับเบอร์ที่โทรฯเข้าก่อนหน้า แต่ปรากฏว่าปลายสายกำลังติดสาย

ระหว่างที่รออย่างเบื่อหน่าย ไป๋มู่ชิงได้เดินไปทางพื้นที่จัดแสดงภาพวาดสีน้ำมัน

นิทรรศการภาพวาดที่นี้ นอกจากภาพวาดบางส่วนที่เป็นผลงานขึ้นชื่อแล้ว ผลงานภาพวาดอื่นๆจะมีการสลับปรับเปลี่ยนใหม่อยู่เสมอ เมื่อก่อนไป๋มู่ชิงก็ชอบมาดูผลงานภาพวาดใหม่ๆที่นี่

ไม่ได้มาหลายเดือน มีผลงานภาพวาดใหม่ๆเพิ่มขึ้นเยอะมาก แต่ที่เธอแปลกใจคือด้านในสุดของห้องจัดนิทรรศการ มีภาพวาดของเธอถูกจัดแสดงอยู่หลายภาพ

ผลงานภาพวาดของเธอทั้งสามภาพ ล้วนเป็นภาพวาดที่เธอมอบให้หลินอันหนานเป็นของขวัญ หนึ่งในนั้นมีภาพวาดที่เธอให้เขาเป็นของขวัญวันเกิด เป็นภาพของผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่ในร้านกาแฟ มือข้างหนึ่งถือแก้วกาแฟยกดื่ม อีกข้างถือหนังสือและกำลังอ่าน ให้ความรู้สึกสงบและสง่างาม

และผู้ชายในภาพก็คือหลินอันหนาน เป็นภาพที่เธอเห็นเขาในครั้งแรก

สามปีก่อนในบ่ายวันหนึ่ง เธอพบเขาที่ร้านกาแฟร้านหนึ่ง เธอตกหลุมรักเขา ภาพดังกล่าวฝังอยู่ในหัวเธอตลอดเวลา และเธอก็วาดมันออกมา

เธอไม่รู้ทำไมภาพวาดของเธอถึงมีสิทธิ์นำมาจัดแสดงในที่นี้ ปกติงานนิทรรศการที่นี่จะจัดแสดงผลงานของกลุ่มศิลปินเท่านั้น

"จำได้ว่าตอนเธอพาฉันมาที่นี่ครั้งแรก เธอเคยบอกว่าความฝันของเธอคือวันหนึ่งจะสามารถนำผลงานภาพวาดของตัวเองมาจัดแสดงที่นี่ได้" ด้านหลังเธอมีเสียงอันคุ้นเคยพูดขึ้น

ไป๋มู่ชิงนิ่งอึ้งไป ก่อนจะค่อยๆกำมือเข้าหากัน

"ภาพวาดเหล่านี้เป็นภาพวาดที่เธอให้ฉัน ฉันยังเก็บไว้เป็นอย่างดี เพื่อวันหนึ่งจะทำให้ความฝันเธอเป็นจริง" หลินอันหนานยังคงพูดต่อด้วยความรู้สึกที่ท่วมท้น

ไป๋มู่ชิงหลับตาข่มความรู้สึกแล้วหันมาจ้องมองเขาก่อนกัดฟันพูด " หลินอันหนาน หมายความว่าไง ต้องการรื้อฟื้นความหลังเหรอ?

" แล้วเป็นไปได้มั้ย ? " หลินอันหนานมองมาที่เธอ

"คุณคิดว่ายังเป็นไปได้มั้ยล่ะ? " ไป๋มู่ชิงยิ้มเย็น

"ก็ถ้าเธอกับเขาสุดท้ายก็ต้องจากกัน แล้วทำไมจะเป็นไปไม่ได้ ?" หลินอันหนานพูดอย่างไม่ละอาย "มู่ชิง ฉันกับยิ่งอันอยู่กันด้วยผลประโยชน์ ไม่ได้มีความรัก แต่เธอไม่เหมือนกันนะ"

"เท่าที่ฉันจำได้ตอนพวกคุณนัวเนียกันในห้องน้ำยังได้ยินคุณพูดอยู่เลยนี่ว่ารักกันมาก" ไป๋มู่ชิงข่มใจตัวเองไม่ให้ยกภาพวาดขึ้นทุ่มใส่เขา ก่อนจะพูดเสียงลอดไรฟันว่า " พอยิ่งอันหมดประโยชน์ คุณก็เลยอยากหวนกลับมาหาฉัน เห็นฉันเป็นอะไร?"

ไป๋มู่ชิงชี้ไปที่ภาพวาด "คุณคิดว่าแค่คุณใช้เส้นสายนำภาพวาดของฉันมาจัดแสดงที่นี่ได้ มันจะทำให้ฉันรู้สึกหวั่นไหวแล้วกลับไปหาคุณโดยไม่สนใจอะไรอย่างงั้นเหรอ หลินอันหนานฉันจะบอกคุณให้ ต่อให้ฉันต้องแยกทางกับหนานกงเฉิน ฉันก็ไม่มีวันกลับไปหาคุณเด็ดขาด ฉันไม่ได้น่าสมเพชขนาดนั้น"

ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้ว เป็นเพราะหลินอันหนานล่วงรู้ถึงแผนการของยิ่งอันกับซูวยาหยง เขาเลยพุ่งเป้ากลับมาที่เธอ แต่ที่เธอไม่เข้าใจคือต่อให้เธอเลิกรากับหนานกงเฉินแล้วกลับไปอยู่กับเขา เขาจะได้ประโยชน์อะไรจากเธอ

คงไม่ใช่เพราะรักนะ? คนอย่างหลินอันหนานรู้ด้วยเหรอว่าอะไรคือรัก?

"มู่ชิง เธอรู้อยู่แก่ใจว่าเธอต้องการฉัน"

"คุณชายหลิน คุณอย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย " ไป๋มู่ชิงตอกกลับทันที "ฉันไม่ต้องการคุณ และคุณช่วยไปไกลๆจากฉันด้วย"

เธอกัดริมฝีปากจ้องมองเขา " ของที่คุณจะคืนให้ฉันก็คือภาพวาดพวกนี้ซินะ ตอนนี้คืนให้ฉันได้หรือยัง?"

" ได้ "

" ขอบคุณ! " ไป๋มู่ชิงเตรียมปลดภาพลงจากผนัง

ขณะที่เธอกำลังอื้มมือ ด้านหลังเธอก็มีเสียงอันคุ้นเคยพูดขึ้น "พี่สะใภ้? พี่มาทำไรที่นี่?"

ไป๋มู่ชิงอึ้งไป

ผู่เหลียนเหยา? แล้วเธอมาอยู่นี่ได้ไง

เธอกวาดสายตามองไปที่หลินอันหนาน ก่อนหันไปมองผู่เหลียนเหยาที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้า

ผู่เหลียนเหยาเดินเข้ามา มองไปที่ภาพวาดแวบหนึ่ง แล้วมองไปที่หลินอันหนายด้วยสีหน้าที่แฝงไปด้วยความสงสัย

" คุณหนูผู่ ทำไมมาถึงอยู่ที่นี่"

" มาเลือกภาพวาดให้บริษัทฯ พี่ล่ะ?" ผู่เหลียนเหยาตอบพร้อมรอยยิ้ม ไม่ได้ถามอะไรมากไปกว่านั้น

"เออ คือพี่ก็มาเดินดูภาพวาดเหมือนกัน" ไป๋มู่ชิงเดินเข้ามาคล้องแขนเธอก่อนพูด "เธออยากได้ภาพวาดแบบไหน เดี๋ยวพี่ช่วยเลือก"

"แล้ว....เพื่อนพี่คนนี้?"

"คุณชายหลินกำลังรอคู่หมั้นอยู่ พอดีเจอกันเลยแวะทักทาย" ไป๋มู่ชิงดึงเธอไปทางประตู "ไปเถอะ เมื่อกี้พี่เจอภาพวาดภาพหนึ่งอยู่ด้านนอกสวยมาก ต้องถูกใจเธอแน่น"

"เหรอ? ไปดูกัน"

ก่อนหน้านั้นไป๋มู่ชิงแค่ดูภาพวาดผ่านๆ ไม่ได้ดูว่ามีภาพวาดสวยๆอยู่ด้านนอกนั้นมั้ย แต่เพื่อดึงความสนใจของผู่เหลียนเหยาจากความสงสัย เธอเลยชี้ไปที่ภาพวาดที่เป็นภูเขากับสายน้ำ

ผู่เหลียนเหยาดูภาพวาดแล้วส่ายหัว "เจ้านายไม่ชอบภาพวาดที่เป็นวิวภูเขาสายน้ำมากนัก แต่ถ้าเป็นภาพวาดหญิงงามเห็นจะสนใจเป็นพิเศษ" เธอพูดจบก็หัวเราะ " แต่มีภาพวาดรูปคนภาพหนึ่งสวยมาก เสียดายทางผู้จัดนิทรรศการไม่ยอมขาย"

"จริงเหรอ? ไหนลองพาไปดูหน่อย"

" ได้ " ผู่เหลียนเหยาพยักหน้าตอบ ก่อนพาเธอเดินเข้าไปอีกห้อง

ภาพวาดที่ผู่เหลียนเหยาสนใจนั้นคือภาพของหญิงงามที่สวมชุดย้อนยุคสีขาว ผมดำยาว สีของภาพวาดออกสว่าง ลายเส้นบางเบา ถ่ายทอดเสน่ห์ของผู้หญิงในภาพออกมาอย่างงดงาม

ไป๋มู่ชิงยืนจ้องผู้หญิงในภาพวาด รู้สึกคุ้นเคยเหมือนเคยพบเห็นมาก่อน

เธอถามขึ้นอย่างไม่รู้ตัว "ผู้หญิงคนนี้..........คือใครกัน?"

" ภาพวาดนี้ถูกคัดลอกโดยอาจารย์ท่านหนึ่ง ส่วนภาพจริงเห็นว่ามีมหาเศรษฐีคนหนึ่งเก็บสะสมไว้ สำหรับผู้หญิงในภาพนั้นเล่ากันว่าเป็นคุณหนูบ้านขุนนางบ้านหนึ่งเมื่อหลายร้อยปีก่อน เธอตกหลุมรักกับท่านอ๋องผู้สูงศักดิ์และได้แต่งานกับเขา แต่ไม่คิดว่าต่อมาจะถูกสามีที่รักทรยศจนเธอไม่สามารถทนได้และกินยาพิษฆ่าตัวตายในที่สุด" ผู่เหลียนเหยาพูด

ไป๋มู่ชิงหันไปมองเธอ " เรื่องจริง?"

ผู่เหลียนเหยายักไหล่ " ไม่รู้ซิ แต่ในห้องจัดแสดงภาพบันทึกไว้แบบนี้ "

ไป๋มู่ชิงไม่ค่อยรู้เรื่องประวัติศาสตร์ แต่เธอรู้สึกชอมภาพนี้มาก รู้สึกค้นเคยกับผู้หญิงในภาพเหมือนคนรู้จัก

"สวยมากใช่มั้ย?" ผู่เหลียนเหยายิ้มกว้าง

ไป๋มู่ชิงผงกหัว "สวยมาก"

"อยากได้มั้ย?"

"ไหนบอกว่าเขาไม่ขาย"

"ถ้าพี่ชอบจริงๆ ลองให้พี่เฉินออกหน้าขอซื้อ ไม่มีปัญหาแน่นอน"

"เขา? ช่างเถอะ" ไป๋มู่ชิงยิ้มเล็กน้อยก่อนตอบ

ให้หนานกงเฉินซื้อภาพวาดให้ ฝันไปเถอะ เธอยังไม่ทันจะออกปากขอก็โดนปฏิเสธก่อนเป็นแน่

"ดูพี่ทำหน้าเข้า" ผู่เหลียนเหยาแอบยิ้ม "เคยได้ยินมาว่าเวลาพี่เฉินหลงผู้หญิงคนหนึ่งขึ้นมานี่ทุ่มสุดตัวเหมือนกันนะ นอกจากพระจันทร์บนฟ้าแล้ว อะไรก็หาให้พี่ได้หมด"

เฮอๆ งั้นคงต้องรอให้เขามีแก่ใจนึกขึ้นได้ก่อนว่ายังมีภรรยาคนนี้อยู่ค่อยว่ากัน

" พี่สะใภ้ค่อยๆดูไปก่อนนะ ขอตัวไปดูงานก่อน" ผู่เหลียนเหยายิ้มและปล่อยมือจากเธอ

"ได้เลย ไปเถอะ"

หลังจากผู่เหลียนเหยาเดินไปแล้ว ไป๋มู่ชิงยังคงยืนมองภาพวาดต่ออีกพักใหญ่ เธอไม่เข้าใจทั้งๆที่ผู้หญิงในภาพวาดดูอายุยังน้อย แต่ทำไมถึงตั้งชื่อภาพว่า [ ท่านผู้หญิงจิ้ง ] ที่ให้ความรู้สึกแก่มากกว่า

เธอพยายามนึกยังไงก็นึกไม่ออกว่าเคยพบท่านผู้หญิงจิ้งคนนี้ที่ไหนมาก่อน ถึงได้รู้สึกคุ้นตาขนาดนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวอันดับที่เจ็ด